ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายกาหลง ชมกรุด ผู้ตาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า ผู้ร้องและผู้ตายเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534ที่จังหวัดพิจิตร โดยมิได้ทำพินัยกรรมและมิได้ตั้งผู้จัดการมรดกไว้มีทรัพย์มรดกคือที่ดินโฉนดเลขที่ 215628 ตำบลสำโรงใต้ (สำโรง)อำเภอพระประแดง (พระโขนง) จังหวัดสมุทรปราการ คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องเสนอคำร้องขอนี้ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการได้หรือไม่ ตามปัญหานี้ได้ความจากทางนำสืบของผู้ร้องว่า ผู้ร้องกับผู้ตายจดทะเบียนสมรสที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ตามเอกสารหมาย ร.1และได้อยู่ร่วมกันที่บ้านเลขที่ 42/2 หมู่ที่ 5 ตำบลสำโรงกลางอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มานานประมาณ 20 ปีมีบุตรด้วยกัน 4 คน ตามสำเนาทะเบียนบ้านเอกสารหมาย ร.2แต่ไม่มีชื่อผู้ตายอยู่ในทะเบียนบ้านด้วย เห็นว่า แม้คดีจะได้ความว่าผู้ตายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 104/1 หมู่ที่ 1ตำบลโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตายเอกสารหมาย ร.3 และผู้ตายถึงแก่ความตายที่จังหวัดพิจิตร ตามสำเนามรณบัตรเอกสารหมาย ร.5แต่ผู้ตายก็ได้อยู่กินเป็นสามีภริยากับผู้ร้องจนมีบุตรด้วยกันถึง 4 คนที่จังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งผู้ตายได้ซื้อที่ดินไว้ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตามสำเนาโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ร.4แสดงว่าผู้ตายมีบ้านเลขที่ 42/2 หมู่ที่ 5 ตำบลสำโรงกลางอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่อยู่อันเป็นแหล่งสำคัญอีกแห่งหนึ่งด้วยบ้านที่จังหวัดสมุทรปราการจึงเป็นภูมิลำเนาของผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37ดังนั้นผู้ร้องจึงมีสิทธิเสนอคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4 จัตวา ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพิจิตรในขณะถึงแก่ความตายและยกคำร้องของผู้ร้องนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่ามีเหตุตามกฎหมายที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ปัญหาดังกล่าวศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังไม่ได้วินิจฉัยศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องจดทะเบียนสมรสกับผู้ตายและผู้ตายมีทรัพย์สินคือที่ดินโฉนดเลขที่ 215628ตำบลสำโรงใต้ (สำโรง) อำเภอพระประแดง(พระโขนง)จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์2534 โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ดังนั้น ผู้ร้องจึงเป็นทายาทของผู้ตายที่มีสิทธิร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้เมื่อกรณีมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกเนื่องจากยังไม่มีผู้จัดการมรดก และผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดก จึงมีเหตุตามกฎหมายที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้"
พิพากษากลับ ให้ตั้งนางสุนทร ชมกรุด ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายกาหลง ชมกรุด ผู้ตาย โดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย