โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นผู้ก่อให้จำเลยที่ ๒ กับพวกอีก ๓ คน กระทำความผิดโดยจำเลยที่ ๑ ใช้จำเลยที่ ๒กับพวกฆ่านายบุญรอดเด็กหญิงสุวรรณ นายบุญธรรม และนายสง่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจำเลยที่ ๒ กับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายบุญรอดและเด็กหญิงสุวรรณถึงแก่ความตายนายบุญธรรมถูกกระสุนปืนตรงอวัยวะที่ไม่สำคัญและกระสุนปืนไม่ถูกนายสง่า คนทั้งสองจึงไม่ถึงแก่ความตาย อันเป็นการพยายามฆ่าคนทั้งสอง และฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๒๘๘, ๒๘๙, ๘๐, ๘๓, ๘๔ และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ รวม ๒ กระทง แต่ละกระทงให้จำคุกตลอดชีวิต และฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ๒ กระทงจำคุกกระทงละ ๒๕ ปี ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเพียงสถานเดียว ข้อหาอื่นให้ยกและยกฟ้องจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๒๕ ปี
โจทก์และจำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาว่าการกระทำความผิดของจำเลยที่ ๒ เป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เห็นว่าการที่จำเลยที่ ๒ เกิดทะเลาะโต้เถียงกับนายบุญธรรมผู้เสียหายนานประมาณ ๒ นาทีย่อมทำให้จำเลยที่ ๒ โกรธแล้วไปชักชวนพรรคพวกอีก ๒ คนมาร่วมกันกระทำความผิด โดยใช้เวลาเพียง ๒ นาที จึงเป็นระยะเวลากระชั้นชิดและกะทันหันโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ กับพวกคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใดจะถือเอาเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นรวม ๒ กระทง และพยายามฆ่าผู้อื่นรวม ๒ กระทง ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นกระทงละ ๒๕ ปี ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นกระทงละ ๕ ปี รวม ๑๐ ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๕๐ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.