ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: การทำร้ายร่างกายเล็กน้อย, การหมิ่นประมาท, และการพิสูจน์พฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยา
ภรรยาเอาเล็บข่วนหน้าสามีเป็นรอยถูกข่วนเพียงเล็กน้อยเลือดออกซิบ ๆ เท่านั้น จะถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บจนเป็นเหตุหย่าตามนัยมาตรา 1500 (2) ยังไม่ได้
สามีภรรยาเป็นชาวออสเตรเลีย สามีเป็นผู้จัดการบริษัท ภรรยาตามไปทวงกุญแจรถจากสามีในที่ทำงานของสามี สามีไม่ให้ภรรยาได้พูดกับผู้ช่วยผู้จัดการ (ชาวออสเตรเลีย) ต่อหน้าสามีเป็นภาษาอังกฤษแปลได้ความว่า "คุณช่วยพูดกับอ้ายหมูนี่ให้รู้เรื่องทีเถิด" คำว่า อ้ายหมู นี้หมายถึงโจทก์ เป็นคำด่านและคำสบประมาท แม้จำเลยจะได้ใช้ถอยคำที่หยาบคายนี้ด่าโจทก์ แต่ก็เพราะโกรธโจทก์ที่ไม่ยอมมอบกุญแจรถให้ พฤติการณ์เช่นนี้แม้จะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ก็ยังไม่ใช่เป็นการหมิ่นประมาทซึ่งเป็นการร้ายแรงอันจะเป็นเหตุหย่าได้ตามมาตรา 1500 (2)
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยต่อโจทก์หลายประการ แต่มิได้กล่าวอ้างเลยว่าจำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาอย่างไรบ้าง ที่โจทก์ถือว่าเป็นการกระทำในลักษณะนั้น ทั้งยังสรุปไว้ท้ายฟ้องโดยกล่าวแต่เหตุหย่าประการอื่นด้วย ดังนี้ ศาลย่อมไม่ยกเหตุหย่าเรื่องทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาฯ ขึ้นวินิจฉัย (ไม่ว่าการกระทำตามที่บรรยายไว้นั้นจะพอให้ถือว่าจำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ฯ หรือไม่ก็ตาม)
โจทก์นำสืบว่า จำเลยเคยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาภายหลังยังข่วนหน้าโจทก์อีก การทำร้ายครั้งแรกนั้นล่วงเวลากำหนด 3 เดือน ซึ่งโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะนำมาฟ้องอ้างเป็นเหตุหย่าในคดีนี้ได้ เมื่อการข่วนหน้าในครั้งหลังหนี้ไม่เข้าลักษณะเป็นการทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บอันจะเป็นเหตุหย่าขาดแล้ว แม้ศาลจะยกเอาการทำร้ายร่างกายในครั้งก่อนมาสนับสนุนตามมาตรา 1509 วรรค 2 ก็หาเป็นประโยชน์แก่คดีโจทก์ไม่