ข้อเท็ดจิงฟังได้ว่า เดิมโจทมอบอวนไห้จำเลยที่ ๑ เอาไปทำการจับปลามาขายไห้โจท จำเลยที่ ๑ ทำการจับปลาหยู่ ๗ เดือนได้ปลามาขายไห้โจทบ้าง ต่อมาจำเลยที่ ๑ จะคืนอวนไห้โจท ๆ ไม่ยอมรับ จำเลยที่ ๑ จึงนำ จำเลยที่ ๒ ไปทำสัญญากับโจท สัญญามีว่า โจทยอมขายอวนไห้จำเลยที่ ๒ ไห้จำเลยนำอวนไปจับปลามาขายไห้โจทมีกำหนด ๓ ปี โจทคิดเงินไห้เปนส่วนของจำเลยที่ ๒ ร้อยละ ๓๐ ของราคาปลา ครบ ๓๐๐ บาทเมื่อไดอวนเปนของจำเลยที่ ๒ แล้วโอนไบอนุญาตไห้จำเลยที่ ๒ และมอบอวนไห้จำเลยที่ ๒ ไป บัดนี้โจทฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันยักยอกอวนของโจท
สาลชั้นต้นพิพากสาว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามกดหมายอาญามาตรา ๓๑๔ จำคุก ๓ เดือน จำเลยที่ ๑-๓ ไม่มีความผิดไห้ปล่อยไป
โจทและจำเลยที่ ๒ อุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่าคดีไม่มีมูลเปนความผิดทางอาญา จึงพิพากสาแก้ว่า จำเลยที่ ๒ ไม่มีผิดไห้ปล่อยตัวไป
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า พรึติการน์ระหว่างโจทจำเลยสแดงไห้เห็นเจตนาของโจทว่า โจทขายอวนเชื่อไห้แก่จำเลยที่ ๒ โดยไห้จำเลยที่ ๒ เอกไปจับปลามาขายไห้โจท หักค่าอวน ๑๐๐ ละ ๗๐ แห่งราคาปลา ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ ๒ ไม่นำปลามาขายไห้โจทหักค่าอวนหรือไม่นำอวนมาคืน จึงเปนคดีแพ่ง พิพากสายืนตามสาลอุธรน์