โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กู้เงินจำเลยที่ ๑ ไป ๒,๐๐๐ บาท มอบที่นาให้จำเลยที่ ๑ ทำประโยชน์แทนดอกเบี้ย ต่อมาจำเลยที่ ๑ ถูกศาลลงโทษจำคุก จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นภริยาได้เข้าครอบครองและจัดการทรัพย์สินแทน โจทก์นำเงิน ๒,๐๐๐ บาทไปชำระแก่จำเลยที่ ๒ และขอให้จำเลยที่ ๒ คืนนา จำเลยที่ ๒ ว่าได้ขายนาให้จำเลยที่ ๓ ไปแล้ว ขอให้บังคับให้จำเลยที่ ๑ รับชำระหนี้จากโจทก์ เพิกถอนสัญญาซื้อขายและให้จำเลยมอบนาให้โจทก์ ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ถ้าไม่สามารถคืนได้ ให้จำเลยร่วมกันใช้ราคาที่นา ๘,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธว่า จำเลยที่ ๑ ไม่เคยให้โจทก์กู้เงินและไม่เคยรับมอบนาตามที่โจทก์กล่าวในคำฟ้องนายเสาร์ขายนาให้จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ครอบครองเกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว จำเลยที่ ๑ ขายนาให้แก่จำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๓ ยึดถือครอบครองเกินกว่า ๑ ปีแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ปัญหาข้อแรกมีว่า ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การจำเลยชอบหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า คำร้องของจำเลยลงวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๐๕ มีข้อความชัดแจ้งว่าจำเลยขอให้การปฏิเสธและติดใจที่จะต่อสู้คดี และในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๐๕ ซึ่งอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะยื่นคำให้การได้ จำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ ดังนี้ เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การจำเลยไว้ชอบแล้ว เพราะเพียงแต่คำร้องของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไม่ขอให้การใด ๆ ก่อนสืบพยานโจทก์ หมายความว่าจำเลยจะขอให้การหลังจากสืบพยานโจทก์แล้ว หาใช่จำเลยได้แสดงความจำนงไม่ใช้สิทธิต่อสู้คดีดังฎีกาโจทก์ไม่
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ส.ค.๑ ของจำเลยในช่องผู้แจ้งไม่มีลายมือชื่อจำเลยที่ ๑ และในช่องได้มาอย่างไร ต่างกับข้อนำสืบของจำเลยฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ เพราะเป็นเอกสารปลอมเมื่อโจทก์ได้แถลงคัดค้านแล้วโจทก์ไม่จำเป็นต้องนำสืบนั้น เห็นว่า เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่า ส.ค. ๑ ของจำเลยเป็นเอกสารปลอม โจทก์จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างนั้น การที่โจทก์แถลงคัดค้านไว้ ไม่ทำให้หน้าที่นำสืบของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอนุญาตให้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบแทนสัญญาซื้อขายที่นายเสาร์ทำไว้ไม่ชอบ เพราะจำเลยเพียงแต่กล่าวอ้างว่าค้นหาไม่พบนั้น เห็นว่าโจทก์อ้างเหตุมาในฎีกาผิดจากความจริง เพราะตามคำร้องลงวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๐๕ ซึ่งจำเลยขอสืบพยานบุคคลแทนหนังสือสัญญาซื้อขายนั้น ระบุแจ้งว่าหนังสือสัญญาหายสาปสูญค้นหาไม่พบ หาใช่เพราะจำเลยกล่าวอ้างเพียงว่าค้นหาไม่พบเท่านั้นไม่ คำร้องดังกล่าวโจทก์คัดค้านแต่เพียงว่า เป็นคำร้องกำกวมเคลือบคลุม ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบแทนชอบแล้ว
พิพากษายืน