โจทก์ฟ้องว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเชื่อม อายุ 12 ปีซึ่งเป็นบุตรเลี้ยง และอยู่ในความปกครองของจำเลยจนสำเร็จความใคร่1 ครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 285
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทำผิดจริง พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 จำคุก 3 ปี และลงโทษให้หนักขึ้นอีก1 ใน 3 ตามมาตรา 285 คงจำคุกไว้ 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทำผิดจริง แต่ไม่เห็นด้วยศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นตาม มาตรา 285 เพราะจำเลยมิใช่บิดาเด็กหญิงเชื่อมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1538(1) เด็กหญิงเชื่อมย่อมอยู่ในความปกครองของนางมามารดา ไม่ใช่อยู่ในความปกครองของจำเลยซึ่งเป็นบิดาเลี้ยง พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ให้จำคุก 3 ปี
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่า ความผิดของจำเลยเข้าบทบัญญัติมาตรา 285 ประมวลกฎหมายอาญา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ศาลล่างฟังว่า เด็กหญิงเชื่อมเป็นบุตรติดนางมามารดามาแล้ว นางมาสมรสกับจำเลย ฉะนั้น อำนาจปกครองเด็กหญิงเชื่อมจึงตกอยู่แก่นางมามารดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1540 หากถือว่าเด็กหญิงเชื่อมอยู่ในความปกครองของจำเลยก็ย่อมเป็นการฝืนกฎหมาย โจทก์อ้างว่าตาม มาตรา 285 มีความหมายถึงผู้อยู่ในความปกครองโดยพฤตินัยด้วย หากหมายถึงผู้ปกครองตามกฎหมายก็น่าจะบัญญัติไว้ให้ชัดว่าเป็นผู้อยู่ในความปกครองโดยชอบด้วยกฎหมายไว้ด้วยนั้นศาลฎีกาเห็นว่า มีกฎหมายบัญญัติถึงความเป็นผู้ปกครองไว้แล้ว ฉะนั้นเมื่อมีกฎหมายอื่นกล่าวถึงความปกครองก็ย่อมหมายถึงความปกครองตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ หากต้องการให้มีความหมายนอกเหนือก็ย่อมจะมีระบุไว้เป็นพิเศษ ศาลฎีกาจึงไม่เห็นมีเหตุที่จะแปลกฎหมายดังที่โจทก์อ้าง
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์