โจทก์ฟ้องว่า เหมืองแร่ประทานบัตรที่ 5722/5708 ที่ตำบลพรุพีอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นของกองมรดกขุนพิมลโภคากรขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกขุนพิมลโภคากรโดยพินัยกรรมเป็นผู้มีสิทธิรับโอนประทานบัตรเหมืองแร่รายนี้ ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า เหมืองแร่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับขุนพิมลโภคากร จำเลยมีสิทธิครึ่งหนึ่ง
โจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันมีใจความสำคัญว่าโจทก์ให้เงินค่าเหมืองพิพาทแก่จำเลย 50,000 บาท และยอมจ่ายเงินเดือนให้แก่จำเลยและบุตรจำเลยโดยจำเลยตกลงไม่เกี่ยวข้องกับเหมืองพิพาทศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุด
ต่อมา โจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลให้เพิกถอนนายน้อม เดชะ จากการเป็นผู้จัดการมรดก และแต่งตั้งให้นายพรหม พุทธรักษา เป็นผู้จัดการมรดกสืบแทนต่อไป ผู้จัดการมรดกคนใหม่ก็คงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความโดยแถลงว่าผู้จัดการมรดกคนก่อนยอมความจ่ายเงินเดือนให้จำเลยเป็นการนอกเหนืออำนาจ ไม่ผูกพันผู้จัดการมรดกคนใหม่ จำเลยจึงขอให้บังคับยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด นายพรหม พุทธรักษา ผู้จัดการมรดกยื่นคำร้องว่า ได้ฟ้องนายน้อม เดชะ กับนางเฉลิม พิมลศรี เพื่อให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยในคดีนี้ทำไว้เป็นการไม่ชอบ คดีอยู่ระหว่างพิจารณา ขอให้งดการขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่าสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นไม่ผูกพันกองมรดก ก็ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดี ให้ยกคำร้อง
นายพรหม พุทธรักษา อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายพรหม พุทธรักษา ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายน้อม เดชะ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยในศาลนั้น ได้ทำไปในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของขุนพิมลโภคากรภายในขอบเขตอำนาจของผู้จัดการมรดก ผลของคำพิพากษาท้ายสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมผูกพันผู้จัดการมรดกขุนพิมลโภคากรในฐานะคู่ความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 นับแต่วันได้พิพากษา จนกว่าคำพิพากษานั้นจะได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข แม้นายพรหม พุทธรักษา จะถูกแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นผู้จัดการมรดกขุนพิมลโภคากรสืบแทนนายน้อม เดชะ ในภายหลังโดยไม่รู้เห็นเกี่ยวข้องกับสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม ก็เข้ามาแทนที่ผู้จัดการมรดกคนก่อน จึงต้องรับสำนองตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และคำพิพากษาท้ายยอม ซึ่งมีความผูกพันผู้จัดการมรดกขุนพิมลโภคากรในฐานะเป็นคู่ความอยู่ก่อนแล้วนั้นต่อไปด้วยจะอ้างความไม่รู้เห็นในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความขึ้นเป็นเหตุให้พ้นความผูกพันไม่ได้ เพราะไม่ใช่ในฐานะส่วนตัวของนายพรหมพุทธรักษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ส่วนในเรื่องการที่ฟ้องนายน้อม เดชะกับจำเลย ว่าทำสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ชอบนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จะยกขึ้นมาเป็นเหตุให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาท้ายยอมซึ่งมิได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขและยังมีผลบังคับอยู่ไม่ได้ ฎีกานายพรหม พุทธรักษา ผู้จัดการมรดกขุนพิมลโภคากรฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน