พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบชิงทรัพย์ด้วยอาวุธปืน: ตัวการและความรับผิด
จำเลยกับพวกที่มีปืนสมคบไปลักโค ครั้นมีการต่อสู้พวกจำเลยใช้ปืนนั้นยิงเช่นนี้ จำเลยต้องรับผิดเป็นตัวการฐานชิงทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741-742/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์หลายกระทง ศาลลงโทษได้เพียงกระทงเดียว
คดีที่จำเลยทำการชิงทรัพย์ 2 รายอันเป็นความผิด 2 กระทง นั้นศาลมีอำนาจลงโทษแต่กระทงเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องลงทั้ง 2 กระทงเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของวันเวลาทำผิดในคดีอาญา แม้มีข้อแตกต่างเล็กน้อยในการระบุวัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดคืนวันที่ 20-21 และวงเล็บว่าตรงกับขึ้น 14 ค่ำจำเลยรับสารภาพแต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ โจทก์นำพยานมาสืบว่าจำเลยทำผิดคืนวันขึ้น 14 ค่ำ ซึ่งตรงกับคืนวันที่ 21-22 และจำเลยเข้าใจข้อหาดีดังนี้ไม่ถือว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ลงโทษได้ ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ แม้มิได้ใช้ขู่เข็ญก็ถือว่ามีความผิด
จำเลยสองคนมีมีดและพร้าคนละเล่ม คนหนึ่งเข้าจับมือเจ้าทรัพย์อีกคนหนึ่งเข้ากระชากสร้อยคอพาหนีไป แม้จะมิได้ใช้อาวุธขู่เข็ญทำร้ายก็ดี ย่อมถือได้ว่ามีความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสูงย้อนสำนวน – ชิงทรัพย์/ทำร้ายร่างกาย – การสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยชิงทรัพย์ภรรยา ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้วตัดสินยกฟ้องโจทก์โดยไม่วินิจฉัยถึงความผิดฐานทำร้ายร่างกายเช่นนี้ ศาลสูงมีอำนาจย้อนสำนวนไปให้ศาลล่างสืบพยานในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายแล้วพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปลิดมะพร้าวเข้าข่ายลักทรัพย์ ต่อมาขู่ทำร้ายขณะถูกติดตามเข้าข่ายชิงทรัพย์
จำเลยสมคบกันปลิดมะพร้าวมาไว้ที่โคนต้นแล้ว ถือได้ว่ากระทำผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ.(อ้างฎีกาที่ 1153/2484). เมื่อพวกเจ้าทรัพย์มาพบ. จำเลยก็หนีไป. พวกเจ้าทรัพย์เก็บมะพร้าวแล้วก็ได้ติดตามไปทันที. เมื่อทันจำเลย. ก็จะเข้าจับแต่จำเลยชักอาวุธและขู่จะทำร้าย. พวกเจ้าทรัพย์จึงไม่กล้าเข้าจับ. จำเลยจึงหนีไป. เช่นนี้ การกระทำของจำเลยเข้าเกณฑ์ชิงทรัพย์ตาม มาตรา 299.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729-730/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การที่ศาลฎีกาต้องใช้ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ในคดีที่มีฎีกาเป็นปัญหากฎหมาย. ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อหาและการมีสิทธิฟ้องคดีอาญา: การฟ้องคดีอาญาต้องอาศัยการแจ้งข้อหาที่ถูกต้องแก่จำเลย
ฟ้องฐานชิงทรัพย์ ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาในข้อนี้ให้จำเลยทราบ ต้องถือว่ายังไม่มีการสอบสวนในความผิดนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยในข้อหาข้อนี้
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กระทงตามมาตรา 298,299,60 รวมกระทงลงโทษจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามมาตรา 299,60 กระทงเดียว จำคุก 2 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ในกระทง 299,60
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กระทงตามมาตรา 298,299,60 รวมกระทงลงโทษจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามมาตรา 299,60 กระทงเดียว จำคุก 2 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ในกระทง 299,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลเรียกพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานจำเลย: การใช้ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งในคดีอาญา
ในคดีอาญาเมื่อสืบพะยานจำเลยเสร็จแล้วศาลมีอำนาจเรียกพะยานมาสืบเพิ่มเติมได้โดยอาศัยประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.187 เมื่อวิธีพิจารณาข้อใดในประมวลวิธีพิจารณาอาญามิได้บัญญัติไว้โดยฉะเพาะให้นำบทบัญญัติในประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่พอจะใช้บังคับได้