พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,694 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้ขวานมีคมหน้ากว้าง 3 นิ้วมือเรียง เลือกฟันที่ศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญจนกระดูกกระโหลกศีรษะแตก ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการพิพากษาคดีขับไล่ เมื่อจำเลยยังคงอยู่ในอสังหาริมทรัพย์หลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะ จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แล้วก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯประการใดได้
เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิอย่างใดจึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย
เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิอย่างใดจึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการรอนสิทธิในทรัพย์สินของผู้เช่าหลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯแล้ว ก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ประการใดได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิ์อย่างใด จึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิไม่สุจริตในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ไม่ตัดสิทธิฟ้องเพิกถอน แม้มิได้คัดค้านตามมาตรา 20
มาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการที่จะยื่นตัดค้านต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิทธิฟ้องร้อง ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 3 เดือน ตามมาตรา 20 นี้ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลย ให้เพิกถอนการจดทะเบียน เพราะใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องเพิกถอนเครื่องหมายการค้า แม้ไม่คัดค้านตามมาตรา 20 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า
มาตรา 20 แห่ง พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการที่จะยื่นคัดค้านต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิทธิฟ้องร้อง ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านต่อเจ้าพนักงานภายใน 3 เดือนตามมาตรา 20 นี้ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการจดทะเบียนเพราะใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเกิดเหตุในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ไต่สวน ถือเป็นการแตกต่างในสาระสำคัญ ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 22 ก.ค. 2499 แต่ตามทางไต่สวนได้ความว่าจำเลยกระทำผิด ในวันที่ 22 ก.ย. 2499 เป็นการผิดเดือนไปเมื่อการแตกต่างดังกล่าว ถือว่า เป็นการแตกต่าง ในข้อสาระสำคัญ ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้กระทำ ผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้อง ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ต่อไป
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษที่ศาลอุทธรณ์ และการลงโทษจำเลยเกินขอบเขตฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251,59จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม มาตรา 251,59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และข้อจำกัดในการฎีกาในข้อเท็จจริง รวมถึงประเด็นการบรรยายฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.251, 59 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม ม.251, 59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องรับของโจร: คำฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุชื่อผู้รับ หากมีการนำสืบพยานผู้รับแล้ว
ในฟ้องความผิดฐานรับของโจร โจทก์ไม่จำเป็นต้อระบุชื่อผู้รับของกลางไว้จากจำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำพยานบุคคลผู้รับของกลางไว้จากจำเลยเข้าสืบแล้ว จำเลยยังจะว่าหลงข้อต่อสู้ หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: แม้ฟ้องไม่ระบุชื่อผู้รับของ แต่หากมีการสืบพยานผู้รับของแล้ว จำเลยจะอ้างว่าหลงข้อต่อสู้ไม่ได้
ในฟ้องความผิดฐานรับของโจร โจทก์ไม่จำเป็นต้องระบุชื่อผู้รับของกลางไว้จากจำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำพยานบุคคลผู้รับของกลางไว้จากจำเลยเข้าสืบแล้ว จำเลยยังจะว่าหลงข้อต่อสู้ หาได้ไม่