พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: กำหนดเวลาและสิทธิของผู้ค้ำประกัน
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้และได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปแล้วหากจะขอรับชำระหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 27, 91 การที่ผู้ร้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องจะขอเข้ารับช่วงสิทธิการขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่ยื่นไว้แล้วไม่ได้ เพราะไม่มีบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 ให้กระทำได้ เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว ปัญหาที่ว่าการถอนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ซึ่งศาลยังมิได้มีคำสั่งอนุญาตมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่จึงไม่จำต้องวินิจฉัย เนื่องจากไม่เปลี่ยนแปลงผลแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319-1320/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไล่เบี้ยของผู้ค้ำประกันต้องเกิดจากการชำระหนี้แทนจำเลย มิใช่การผูกพันตนเป็นลูกหนี้เอง
สิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยย่อมเกิดมีขึ้นต่อเมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทนจำเลยแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา693วรรคหนึ่งการที่โจทก์ยอมผูกพันตนเข้าเป็นลูกหนี้ของเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้ของจำเลยอีกคนหนึ่งหาใช่เป็นการที่โจทก์ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เสร็จสิ้นแล้วไม่ทั้งไม่ทำให้หนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับจำเลยที่มีอยู่เดิมระงับสิ้นไปเพราะมิใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319-1320/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไล่เบี้ยของผู้ค้ำประกันต้องเกิดจากการชำระหนี้แทนจำเลยให้เจ้าหนี้ มิใช่การผูกพันตนเป็นลูกหนี้ใหม่
สิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยย่อมจะเกิดมีขึ้นต่อเมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทนจำเลยแล้วตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา693แต่การชำระหนี้โดยวิธีการที่โจทก์ยอมผูกพันตนเข้าเป็นลูกหนี้ของ ธ.เพื่อชำระหนี้ของจำเลยอีกคนหนึ่งหาใช่เป็นการที่โจทก์ชำระหนี้ให้แก่ ธ. เสร็จสิ้นแล้วไม่ทั้งไม่ทำให้หนี้ระหว่าง ธ.กับจำเลยที่มีอยู่เดิมระงับสิ้นไปเพราะมิใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ธ. ยังคงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ดังกล่าวได้เช่นเดิมเมื่อตามคำฟ้องไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ชำระหนี้แทนจำเลยให้แก่ ธ. ไปแล้วหรือไม่เป็นจำนวนเท่าใดโจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3185/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนเงินจากเช็ค: สิทธิของประกัน (อาวัล) เทียบเท่าผู้ค้ำประกัน
โจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คผู้ถือความรับผิดของโจทก์ย่อมเป็นเพียงอาวัลผู้สั่งจ่ายเมื่อโจทก์ใช้เงินแก่ผู้ทรงไปแล้วย่อมเกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะไล่เบี้ยเอาจากผู้สั่งจ่ายซึ่งเป็นบุคคลซึ่งตนได้ประกันไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940 วรรคท้ายเป็นสิทธิที่มีลักษณะเดียวกับสิทธิของผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้วย่อมเกิดสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้เพราะการค้ำประกันนั้น ตามมาตรา 693 วรรคแรก หาใช่สิทธิการรับช่วงสิทธิอื่นเหนือลูกหนี้ตามมาตรา 693 วรรคสองไม่เป็นสิทธิที่เกิดจากนิติกรรมการอาวัลหรือค้ำประกันนั้นเองหาได้รับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่มีอยู่ต่อผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทมาไม่ เป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เดิม ซึ่งเป็นบททั่วไปและมีอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือค้ำประกัน - ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดในดอกเบี้ยตามสัญญาตัวแทนจำหน่าย แม้ในหนังสือค้ำประกันจะไม่ได้ระบุ
การเวนคืนหนังสือค้ำประกันซึ่งเป็นเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ ซึ่งเข้าข้อสันนิษฐาน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 327 ว่าหนี้เป็นอันระงับสิ้นไปนั้น มิใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาดย่อมฟังตามข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นตามที่ปรากฏนั้นได้เมื่อจำเลยที่ 1 ยังมิได้ชำระหนี้เงินค่าจำหน่ายปุ๋ยที่จำเลยที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันและหนี้ยังไม่ระงับไปด้วยเหตุประการอื่น จำเลยที่ 3ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้นจากความรับผิดในหนี้ดังกล่าว แม้จำเลยที่ 3 ได้ยกเลิกหนังสือค้ำประกันและคืนหลักประกันที่จำเลยที่ 1 ให้ไว้ทั้งหมดแก่จำเลยที่ 1 และไม่อาจไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 1 ก็เป็นเรื่องต้องว่ากล่าวกันต่างหากต่อไป หาได้เกี่ยวข้องกับการหลุดพ้นจากความรับผิดของจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้ค้ำประกันแต่อย่างใดไม่ การที่จำเลยที่ 3 ยอมผูกพันตนเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1ต่อโจทก์ในการที่จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยให้โจทก์ และสัญญาตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยที่จำเลยที่ 1 ทำกับโจทก์ก็ระบุความรับผิดกรณีผิดเงื่อนไขและกำหนดเรื่องดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันผิดนัดจนถึงวันชำระเงินให้แก่โจทก์ แม้ในหนังสือค้ำประกันมิได้กำหนดเรื่องดอกเบี้ยไว้ แต่หนังสือค้ำประกันก็อ้างถึงสัญญาตัวแทนด้วย จำเลยที่ 3 ยอมออกหนังสือค้ำประกันให้แก่จำเลยที่ 1 ย่อมทราบดีถึงข้อสัญญาและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาตัวแทนจำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดชดใช้ต้นเงินแทนจำเลยที่ 1 พร้อมดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5477/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงฝากเงินเพื่อประกันหนี้ ไม่ใช่การจำนำ แม้มีการสลักหลังจำนำสมุดคู่ฝาก
ธนาคารผู้ร้องค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 ซึ่งซื้อเชื่อสินค้าจากโจทก์ในวงเงิน 50,000 บาท โดยมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบสมุดคู่ฝากประจำจำนวนเงิน 50,000 บาท ที่ฝากไว้กับธนาคารผู้ร้องและสลักหลังจำนำเงินฝากตามสมุดคู่ฝากดังกล่าวต่อผู้ร้องด้วย แม้ผู้ร้องได้ยินยอมให้นำเงินฝากดังกล่าวเป็นประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ร้องค้ำประกันจำเลยที่ 1 แต่เงินฝากดังกล่าวย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องมาตั้งแต่มีการฝากเงิน จำเลยที่ 1 ผู้ฝากคงมีสิทธิที่จะถอนเงินที่ฝากไปได้ผู้ร้องมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบจำนวนที่ขอถอนเท่านั้น จึงไม่ใช่การส่งมอบสังหาริมทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ให้แก่ผู้ร้องตามลักษณะจำนำแต่อย่างใด การที่จำเลยที่ 1 ตกลงนำเงินฝากในสมุดคู่ฝากประจำมาค้ำประกันต่อผู้ร้องเป็นเพียงแต่ตกลงว่าจะไม่ถอนเงินไปจากบัญชี และหากจำเลยที่ 1 มีหนี้ค้างชำระอยู่เท่าไร จำเลยที่ 1 ยอมให้ธนาคารผู้ร้องหักเงินฝากมาชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้เสร็จสิ้นไปทันที ข้อตกลงระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 คงเป็นการฝากเงินเพื่อประกันหนี้เท่านั้น ไม่ใช่การจำนำ ทั้งข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 ตามสัญญาค้ำประกันไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบังคับชำระหนี้เอาจากเงินฝากที่ผู้ร้องได้นำส่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่โจทก์ได้ขออายัดไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3895/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องไล่เบี้ยผู้ค้ำประกัน - สิทธิไล่เบี้ยตาม ป.พ.พ. มาตรา 693 ใช้ อายุความ 10 ปี
โจทก์ทำสัญญาค้ำประกันการชำระเงินกู้ของจำเลยกับธนาคารไว้ต่อมาจำเลยผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารจึงหักบัญชีเงินฝากของโจทก์โจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทนจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ไปแล้ว ย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากจำเลยเพื่อต้นเงินและดอกเบี้ยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 693 กรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: ผู้ค้ำประกันไม่มีสิทธิรับช่วงสิทธิหลังพ้นกำหนด
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกสิกรไทย เจ้าหนี้รายที่ 8 เมื่อพ้นระยะเวลาขอชำระหนี้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แล้ว ไม่ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับช่วงสิทธิการขอรับชำระหนี้ของธนาคารกสิกรไทยต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่อย่างไร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: ผู้ค้ำประกันไม่มีสิทธิขอรับช่วงสิทธิหลังพ้นกำหนด
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกสิกรไทย เจ้าหนี้รายที่ 8 เมื่อพ้นระยะเวลาขอรับชำระหนี้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483แล้ว ไม่ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับช่วงสิทธิการขอรับชำระหนี้ของธนาคารกสิกรไทย ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่อย่างไร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์เมื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการฟ้องไล่เบี้ย
การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันนำสัญญาค้ำประกันมาสืบประกอบในการฟ้องไล่เบี้ยจำเลยซึ่งเป็นผู้กู้ มิใช่เป็นการนำสืบบังคับตามสัญญาค้ำประกันโดยตรง แม้สัญญาค้ำประกันจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังได้