คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 53

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินกว่าเหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 ให้จำคุก 20 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา249,53 เช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษเป็นจำคุกจำเลยไว้เพียง 6 ปีและลดตามมาตรา 59 อีกคงเหลือโทษจำคุกเพียง 4 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายบุกรุก แต่การยิงซ้ำหลังล้มแล้วถือเกินกว่าเหตุ
คดีฟังเป็นยุติว่าจำเลยยิงผู้ตายตายแต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานขณะจำเลยยิงผู้ตายคงมีคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนว่าผู้ตายเป็นฝ่ายบุกรุกขึ้นไปจะทำร้ายจำเลยถึงบนเรือนในเวลาค่ำคืนจำเลยจึงยิงผู้ตายตายและพยานแวดล้อมกรณีเห็นจำเลยตอนหามศพผู้ตายดังนี้แม้ชั้นพิจารณาจำเลยจะไม่ได้ต่อสู้และนำสืบว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวก็ดี เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานและคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนก็เป็นพยานหลักฐานของโจทก์เองอยู่แล้วจึงฟังได้ตามคำรับสารภาพของจำเลยนั้นว่าจำเลยยิงผู้ตายตายเพื่อป้องกันตัวแต่เมื่อปรากฏว่า(ตามคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวน) ยิงผู้ตายสองนัด ผู้ตายล้มลงแล้วยังยิงซ้ำอีกดังนี้ เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการยิงผู้บุกรุก ศาลอาศัยคำรับสารภาพชั้นสอบสวน
คดีฟังเป็นยุติว่าจำเลยยิงผู้ตาย ตาย แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พะยานขณะจำเลยยิงผู้ตาย คงมีคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนว่าผู้ตายเป็นฝ่ายบุกรุกขึ้นไปจะทำร้ายจำเลยถึงบนเรือนในเวลาค่ำคืน จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย และพยานแวดล้อมกรณีเห็นจำเลยตอนหามศพผู้ตายดังนี้ แม้ชั้นพิจารณาจำเลยจะไม่ได้ต่อสู้และนำสืบว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวก็ดี เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์พะยานและคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนก็เป็นพะยานหลักฐานของโจทก์เองอยู่แล้ว จึงฟังได้ตามคำรับสารภาพของจำเลยนั้นว่าจำเลยยิงผู้ตายตายเพื่อป้องกันตัว แต่เมื่อปรากฎว่า(ตามคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวน)ยิงผู้ตายสองนัด ผู้ตายล้มลงแล้วยังยิงซ้ำอีกดังนี้ เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดเจตนาในการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุ ไม่ใช่ฆ่าคนโดยประมาท
ผู้ตายนำคบไฟเข้าไปเผารังต่อในที่ดินของบิดาเลี้ยงจำเลย ๆ สำคัญผิดว่าเป็นโจรมาทำพิธีจะเข้าปล้นเรือนบิดาเลี้ยง จึงใช้ปืนยิงผู้ตายตายดังนี้ เป็นการกระทำ+หาใช่ความผิดฐานฆ่าคนโดยประมาทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายและการลวนลาม
ผู้เสียหายเมาสุราแล้วขึ้นไปลวนลามภรรยาจำเลยบนเรือนและทำร้ายจำเลยจำเลยจึงต่อสู้ แล้วโดดหนี ผู้เสียหายกลับแสดงอาการจะทำร้ายอีก จำเลยจึงทำร้ายผู้เสียหายรวม13 แห่งถึงสาหัส ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การยิงผิดตัวในภาวะหวาดระแวง
จำเลยถูกผู้ร้ายในท้องถิ่นรบกวนเสียจนประสาทหวาดระแวงไม่ปกติ ในคืนเกิดเหตุ จำเลยตื่นขึ้นกลางดึกเห็นคน ดำ ๆ ที่นอกชาน จำเลยจึงเอาปืนลูกซองที่เอาไว้ข้างที่นอนยิงไป 1 นัด ปรากฎว่าเป็นภริยาจำเลยเอง ภริยาจำเลย ถูกกระสุนปืนตายคาที่ ที่นอกชานนั่นเอง ดังนี้ เป็นเรื่องสำคัญผิดว่าเป็นผู้ร้าย ถือได้ว่าเป็นการป้องกันเกินกว่า
เหตุ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน: ป้องกันเกินกว่าเหตุและเจตนา
จำเลยถูกผู้ร้ายในท้องถิ่นรบกวนเสียจนประสาทหวาดระแวงไม่ปกติ ในคืนเกิดเหตุ จำเลยตื่นขึ้นกลางดึกเห็นคนดำๆ ที่นอกชานจำเลยจึงเอาปืนลูกซองที่เอาไว้ข้างที่นอนยิงไป 1 นัด ปรากฏว่าเป็นภริยาจำเลยเอง ภริยาจำเลยถูกกระสุนปืนตายคาที่ ที่นอกชานนั่นเองดังนี้ เป็นเรื่องสำคัญผิดว่าเป็นผู้ร้าย ถือได้ว่าเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ ผู้กระทำไม่อ้างป้องกันหรือถูกยั่วยุได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้นจะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกายด้วยความสมัครใจ ไม่อ้างป้องกันหรือยั่วโทสะได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดากัน เกิดทะเลาะโต้เถียงเรื่องนวดข้าว แล้วจำเลยเอาไม้คันฉายจะตีผู้ตายผู้ตายแย่งไม้ได้จำเลยผละวิ่งหนี แต่ล้มลงผู้ตายไล่ทัน จึงเอาไม้ตีเอา 2 ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยห่างออกมาได้ 2 วาผู้ตายก็สะบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าจะตีซ้ำเติมจำเลยซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้นจำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย2 นัดติดๆกัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและใต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันทีดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
of 11