คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 420.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละประเด็นข้อพิพาท และการสืบพยานเพื่อวินิจฉัยประเด็นเดียวที่เหลือ
คดีมีประเด็นข้อพิพาทหลายข้อ ต่อมาระหว่างพิจารณาคู่ความขอสละประเด็นข้ออื่น คงเหลือประเด็นข้อเดียวว่า โจทก์รังวัดเข้ามาในที่ดินของจำเลยหรือไม่ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยสละข้อต่อสู้อื่น ๆ ทั้งหมด คงให้ศาลสืบพยานและวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวข้อเดียวเป็นข้อแพ้ชนะ ฉะนั้นหากฟังได้ว่าโจทก์รังวัดเข้าไปในที่ดินของจำเลย ศาลต้องพิพากษายกฟ้องแต่ถ้าฟังได้ว่าไม่ได้รังวัดเข้าไปในที่ดินของจำเลย ก็ต้องพิพากษาบังคับให้จำเลยรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ตามฟ้อง จะอ้างว่าคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ไม่อาจบังคับตามกฎหมายให้โจทก์ได้หาได้ไม่ จึงต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยในประเด็นดังกล่าวต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บเกี่ยวข้าวในที่ดินของผู้อื่น แม้ไม่มีกรรมสิทธิ แต่ทำด้วยความยินยอมเจ้าของ ถือเป็นการละเมิด
โจทก์ฟ้องอ้างว่ามีกรรมสิทธิในที่นา จำเลยเข้ามาเก็บเอาข้าวในนาของโจทก์ไป เป็นเงินจำนวนหนึ่ง ขอให้จำเลย ใช้ แม้จะได้ความว่านาเป็นของบุคคลอื่น แต่โจทก์ได้ปลูกข้าวไว้ในที่ด้วยความยินยอมของเจ้าของแล้ว แม้โจทก์จะ ไม่มีกรรมสิทธิในที่ การที่จำเลยมาเก็บข้าวไปย่อมเป็นการละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้าต่างกันชัดเจน แม้มีคำร่วมกัน ไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้ารูปนกยูงในวงกลมสองชั้น ภายนอกมีรัศมี ภายในวงกลมมีตัวอักษรว่า "แม่เลื่อน" และ ใช้ชื่อว่า "ห้างขายยาตรานกยูงแม่เลื่อน"
ฝ่ายจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าหรือภาพแม่เลื่อน ภายในวงกลมรัศมี และใช้ชื่อว่าห้างขายยาตราแม่เลื่อน ดังนี้ เห็นได้ว่า ฝ่ายโจทก์ใช้ตรานกยูงเป็นเครื่องหมายการค้า ฝ่ายจำเลยใช้ตราเป็นรูปตัวแม่เลื่อน ตรานกกับตราคน ผู้ใดเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นตราคนสะอย่างแตกต่างกันไกลมาก จะว่าเลียนแบบของโจทก์ไม่ได้.
ส่วนสลากปิดขวดยาก็ดี แผ่นพิมพ์ฉลากสรรพคุณยา ก็ดี แม้จะมีข้อความเหมือนกับฉลากของโจทก์ ก็ เห็นว่าข้อ ความเช่นนี้ ไม่เป็นลิขสิทธิตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม โจทก์จึงไม่มีอำนาจที่จะห้ามจำเลย หรือ ว่าจำเลยละเมิดลิขสิทธิของโจทก์ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการยักยอกทรัพย์และการใช้เงินคืน แม้มีการฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้อื่น
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และขอให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปด้วยนั้น แม้จะปรากฎว่าได้มีการฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไปนั้นจากผู้อื่น ซึ่งอาจต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อปรากฎว่าความจริงยังมิได้รับใช้เงิน จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปิดทางน้ำไหลแต่ไม่เกิดความเสียหาย เจ้าของที่ดินสูงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ปิดทางน้ำไหล ทำให้น้ำบนที่ดินสูงไหลลงไม่ได้นั้น เมื่อไม่เกิดการเสียหาย เจ้าของที่ดินสูงจะเรียกค่าเสียหายแก่ผู้ปิดทางน้ำไหลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและเก็บผลประโยชน์ที่ดินพิพาทช่วงระหว่างเป็นความคดีก่อน ผู้ครอบครองต้องชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให่ศาลแสดงว่าที่ดินที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์และห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทต่อไปแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายในระหว่างที่เป็นความกันในคดีก่อนว่า จำเลยได้ครอบครองและเก็บผลประโยชน์จากที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นของโจทก์ไปอีก ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินที่ชำระเพื่อหลีกเลี่ยงโทษทางภาษี แต่จำเลยไม่ได้ดำเนินการตามที่ตกลง
โจทก์มอบเงินให้จำเลยไปตามที่จำเลยหลอกลวงว่าจะนำใบรับเงินที่ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ไปให้เจ้าพนักงานปิดอากรแสตมป์ให้บริบูรณ์ มิฉะนั้นจะมีโทษ แล้วจำเลยเอาเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ตนเสีย โดยมิได้จัดการประการใดนั้น โจทก์เรียกเงินคืนจากจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการถูกขับไล่ แม้ไม่มีหลักฐานการเช่า ก็คำนวณได้หากมีเหตุผลสมควร
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า โจทก์ได้รับความลำบากเสียหาย โดยต้องเสียค่าเช่าในการที่ต้องเร่ร่อนเที่ยวเช่าเขาอยู่ จึงขอค่าเสียหายนั้น แม้จะไม่ปรากฎว่าโจทก์ได้เช่าเขาอยู่ แต่การที่ศาลคำนวณเป็นค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยใช้ ก็สมควรแล้ว มิใช่เป็นเรื่องนอกประเด็นนอกฟ้องแต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และเหตุผลของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ของ ฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ.จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดใดคดีก่อนแล้วว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาคดีอาญาไม่ผูกพันคดีแพ่ง หากคดีแพ่งมีการนำสืบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจนฟังได้ชัดเจน
ศาลพิพากษาชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ว่า "ผู้เสียหายไม่รู้ว่าเขตต์โฉนดของตนอยู่แค่ไหน จำเลยจะบุกรุกเข้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่หาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไป ก็เพราะสังเกตไว้เข้าใจเอาเท่านั้น ฟังไม่ได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ดินของผู้เสียหายฯลฯ" ดังนี้ ถือว่าศาลไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้รุกที่ดินของผู้เสียหาย เป็นแต่ว่า ผู้เสียหายไม่รู้เขตต์ที่ คือ นำสืบไม่ชัดว่า ที่ดินของผู้เสียหายแค่ไหน จึงลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้เท่านั้น ฉะนั้น เมื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้จัดการทำแผนที่วิวาท และนำสืบจนฟังได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ของโจทก์แล้ว ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งว่า จำเลยรุกที่ดินโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 46.
of 2