พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการขับรถหลบภัยและการป้องกันภยันตรายจากบุคคลอื่น
ขับรถยนต์รับคนโดยสารมาตามถนน เผอิญเกิดยิงกันเกี่ยวกับการจลาจลจึงขับรถหนี แม้จะเร็วจนถึงขนาดผิดกฎจราจร ก็ได้รับยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 49 เพราะถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อหลบหนีภยันตรายอันร้ายแรงเมื่อเอาผิดในตอนนี้ไม่ได้ การวิ่งตัดหน้ารถยนต์ภายในระยะ 1 วา คนขับห้ามล้อรถหยุดไม่ทัน ทั้งๆที่ห้ามล้อดี วินิจฉัยว่าวิ่งตัดหน้ารถยนต์ในระยะกระชั้นชิด ใช่วิสัยที่จะป้องกันมิให้รถยนต์ทับได้การที่รถยนต์ทับคนที่วิ่งตัดหน้ารถนั้นจึงเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เรื่องผู้ขับรถประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง: ผู้ขับมีหน้าที่ระมัดระวัง แม้คาดการณ์ว่ารถยนต์จะหลีกทาง
จำเลยขับรถรางมาในระยะไกลได้เห็นรถยนต์ขวางทางรถรางอยู่แต่เข้าใจว่ารถยนต์คงถอยหลังพ้นรางไปเสียทันก่อนที่รถรางจะแล่นไปถึง จึงมิได้หยุดรถราง คงปล่อยให้แล่นเรื่อยไป จนชนรถยนต์ที่ขวางทางอยู่นั้นดังนี้ถือได้ว่า จำเลยประมาทผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก
การวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมาว่าจะเป็นประมาทหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
การวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมาว่าจะเป็นประมาทหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับรถประมาทต้องระบุรายละเอียดความประมาท มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องหาว่า เขาขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปกติชน เป็นเหตุให้ชนรถผู้อื่นเสียหายและเกิดบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2477 และ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 259 ดังนี้ เมื่อฟ้องมิได้บรรยายว่าจำเลยมีความประมาทอย่างไร อันเป็นลักษณะของคดีที่จะทำให้จำเลยรู้ข้อหาในความประมาทของตนได้ จัดว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างฎีกาที่ 241/2493) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่ชัดเจนของฟ้องอาญาเกี่ยวกับความประมาท ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ถือเป็นฟ้องที่ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขับรถรางโดยประมาท เป็นเหตุให้ชนรถยนตร์ของผู้อื่นเสียหาย แต่ฟ้องโจทก์ไม่บรรยายข้อความว่า จำเลยขับรถรางโดยประมาทนั้นประมาทด้วยอาการอย่างใด หรือชนรถยนตร์เสียหายนั้น ชนในลักษณะอย่างไร ซึ่งจะเป็นเหตุให้แสดงถึงความประมาท เพื่อจำเลยจะได้รู้และต่อสู้ได้ ดังนี้ย่อมไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: การบรรยายเหตุแห่งการประมาท
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถรางไปในถนนหลวงโดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปกติชน เป็นเหตุให้รถรางคันที่จำเลยขับชนท้ายรถโดยสารประจำทางเสียหาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้เพียงพอ โดยเฉพาะข้อที่ว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยชนท้ายรถประจำทางเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทต้องเป็นเหตุโดยตรงของการเสียชีวิต การไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับไม่ถือเป็นความประมาทหากไม่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิต
การฝ่าฝืนข้อบังคับจะต้องเปนเหตุโดยตรงไห้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจึงจะมีผิดถานค่าคนโดยประมาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนโดยประมาท: การกระทำต้องเป็นเหตุโดยตรงของการเสียชีวิต
การฝ่าฝืนข้อบังคับจะต้องเป็นเหตุโดยตรงให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจึงจะมีผิดฐานฆ่าคนโดยประมาท