คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สารนัยประสาสน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 186 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตทางราชการ ไม่คุ้มครองการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน จำเลยให้การว่าจำเลยพูดโดยแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว การที่ได้รับอนุญาตให้พูดมิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่จะให้กล่าวถ้อยคำอันเป็นความผิดอาญา หรือ ทำให้เกิดการเสียหายต่อผู้อื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตทางราชการ ไม่คุ้มครองการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน จำเป็นต้องมีการสืบพยานเพื่อพิสูจน์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานจำเลยให้การว่าจำเลยพูดโดยแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว การที่ได้รับอนุญาตให้พูดมิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่จะให้กล่าวถ้อยคำอันเป็นความผิดอาญา หรือทำให้เกิดการเสียหายต่อผู้อื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทลงชื่อเช็คโดยเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินของบริษัท ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยเป็นกรรมการบริษัท ตามข้อบังคับของบริษัท ต้องมีกรรมการ 2 นาย ลงชื่อและประทับตราของบริษัทในเช็ค ๆ จึงจะใช้ได้ เมื่อจำเลยลงชื่อในเช็คโดยเชื่อกรรมการผู้จัดการว่า บริษัทมีเงินพอจ่าย เช่นนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทลงชื่อในเช็คโดยเชื่อถือข้อมูลจากกรรมการผู้จัดการว่ามีเงินเพียงพอ ไม่เป็นความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงิน
จำเลยเป็นกรรมการบริษัท ตามข้อบังคับของบริษัทต้องมีกรรมการ 2 นาย ลงชื่อและประทับตราของบริษัทในเช็คเช็คจึงจะใช้ได้ เมื่อจำเลยลงชื่อในเช็คโดยเชื่อกรรมการผู้จัดการว่า บริษัทมีเงินพอจ่าย เช่นนี้จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหาเท็จต่อเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
ตำรวจจับจำเลยขณะลักเล่นการพนัน จำเลยพูดว่า ตำรวจล้วงเอาเงินส่วนตัวในกระเป๋าของจำเลยไป พูดซ้ำกันหลายครั้งโดยไม่เป็นความจริง ดังนี้ เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหาเจ้าพนักงานลักทรัพย์โดยไม่เป็นความจริงเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
ตำรวจจับจำเลยขณะลักเล่นการพนัน จำเลยพูดว่า ตำรวจล้วงเอาเงินส่วนตัวในกระเป๋าของจำเลยไป พูดซ้ำกันหลายครั้ง โดยไม่เป็นความจริง ดังนี้เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะกระทำตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: ลูกหนี้มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลได้ แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจดำเนินคดีแทน
ในคดีล้มละลาย เมื่อเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และจำเลยโต้แย้งคัดค้าน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนทำความเห็นแล้ว หากศาลสั่งขัดต่อข้อโต้แย้งของจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิจะอุทธรณ์คัดค้านได้ ไม่มีบทบัญญัติห้ามอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลในคดีล้มละลาย: ลูกหนี้มีสิทธิโต้แย้งการรับชำระหนี้ แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจดำเนินคดี
ในคดีล้มละลาย เมื่อเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และจำเลยโต้แย้งคัดค้าน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนทำความเห็นแล้ว หากศาลสั่งขัดต่อข้อโต้แย้งของจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิจะอุทธรณ์คัดค้านได้ ไม่มีบทบัญญัติห้ามอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินโดยปริยายเป็นทางสาธารณะ: การใช้ประโยชน์ต่อเนื่องโดยไม่หวงห้าม
ที่ดินของจำเลยเป็นที่ดินมือเปล่ามีทางพิพาทมาไม่น้อยกว่า 40 ปี สาธารณชนได้ใช้เดินเข้าสวนทุเรียนและชักลากไม้มาประมาณ 20 ปี ตั้งแต่เจ้าของเดิมก่อนจำเลย ไม่มีการหวงห้ามแสดงสิทธิใดๆ เลย ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการอุทิศโดยปริยายให้เป็นทางสาธารณแล้ว (อ้างฎีกาที่ 123/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินโดยปริยายเป็นทางสาธารณะ แม้เจ้าของไม่แสดงเจตนา
ที่ดินของจำเลยเป็นที่ดินมือเปล่ามีทางพิพาทมาไม่น้อยกว่า 40 ปี สาธารณชนได้ใช้เดินเข้าสวนทุเรียนและชักลากไม้มาประมาณ 20 ปี ตั้งแต่เจ้าของเดิมก่อนจำเลย ไม่มีการหวงห้ามแสดงสิทธิใด ๆ เลย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการอุทิศโดยปริยาย ให้เป็นทางสาธารณะแล้ว (อ้างฎีกาที่ 123/2483)
of 19