คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชำนาญเนติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการดำเนินคดีของผจก.ธนาคาร: การมอบหมายอำนาจไม่ใช่การทำนิติกรรม แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์
การที่ผู้จัดการธนาคารอุตสาหกรรมยื่นคำร้องขอหรือคำฟ้องต่อศาลนั้น ไม่ใช่เป็นการทำนิติกรรมของธนาคารอุตสาหกรรมและทั้งไม่ใช่เป็นการตั้งตัวแทนของธนาคารอุตสาหกรรมด้วย หากเป็นแต่ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า คณะกรรมการธนาคารอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ผู้จัดการทำการยื่นคำร้องขอหรือคำฟ้องในคดีได้หรือไม่ เอกสารต่าง ๆ ที่ธนาคารอุตสาหกรรมซึ่งเป็นโจทก์ส่งต่อศาล จึงเป็นแต่เพียงพยานหลักฐาน เบื้องต้นแห่งการมอบหมายให้ดำเนินคดี ไม่ใช่หนังสือมอบอำนาจหรือการตั้งตัวแทนอันจะต้องทำตามแบบ ถ้าจำเลยต้องการโต้แย้งว่า ผู้จัดการธนาคารอุตสาหกรรมไม่ได้รับมอบหมายให้ยื่นคำร้องขอต่อศาล ก็เป็นหน้าที่ของผู้อ้างเอกสาร และผู้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงแห่งเอกสารนั้น จะต้องนำพยานหลักฐานมาสืบประกอบให้เห็นประจักษ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การกล่าวถึงผู้กระทำผิดโดยรวมถึงจำเลย
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่าได้มีผู้บังอาจปลอมใบเสร็จรับเงินและฟ้องตอนหลังกล่าวว่า จำเลยบังอาจสมคบกันปลอมใบเสร็จรับเงินนั้นเป็นการกล่าวว่ามีผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินซึ่งหมายรวมถึงตัวจำเลยเป็นผู้ปลอมด้วย ข้อเท็จจริงในฟ้องจึงหาขัดกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญา: ความสมบูรณ์ของฟ้องที่บรรยายลักษณะการกระทำผิดที่เปลี่ยนแปลงไป
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่าได้มีผู้บังอาจปลอมใบเสร็จรับเงินและฟ้องตอนหลังกล่าวว่า จำเลยบังอาจสมคบกันปลอมใบเสร็จรับเงินนั้นเป็นการกล่าวว่ามีผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินซึ่งหมายรวมถึงตัวจำเลยเป็นผู้ปลอมด้วย ข้อเท็จจริงในฟ้องจึงหาขัดกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน สร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน
จำเลยกระทำการปล้น โดยใช้ปืนยิงยางรถยนต์ที่ผู้เสียหายกับพวกโดยสารมา และยิงขู่อีก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความหวาดหวั่นต่อประชาชนทั่วไปการกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน
จำเลยกระทำการปล้น โดยใช้ปืนยิงยางรถยนต์ที่ผู้เสียหายกับพวกโดยสารมา และยิงขู่อีก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความหวาดหวั่นต่อประชาชนทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เตาอบในอาคารไม่ใช่การก่อสร้างอาคารตามกฎหมาย หากไม่ได้ขยายพื้นที่อาคารเดิม
เตาอบขนมปังไม่เป็นอาคารตามความหมายของพ.ร.บ. ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 4 และประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 3/2493 จำเลยได้ต่อเติม ขยายเตาอบให้ใหญ่ขึ้นภายในห้องของจำเลย ตัวอาคารมิได้กว้างออกไปจากเดิม จึงไม่เป็นการปลูกสร้างอาคารที่จะต้องขออนุญาตตามกฎหมายการกระทำของจำเลยจังยังไม่เป็นความผิดฐานต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เตาอบขนมปังไม่ใช่ 'อาคาร' ตามกฎหมายควบคุมการก่อสร้าง การต่อเติมภายในไม่ถือเป็นการปลูกสร้าง
เตาอบขนมปังไม่เป็นอาคารตามความหมายของพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 4 และประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ 3/2493 จำเลยได้ต่อเติมขยายเตาอบให้ใหญ่ขึ้นภายในห้องของจำเลย ตัวอาคารมิได้กว้างออกไปจากเดิม จึงไม่เป็นการปลูกสร้างอาคารที่จะต้องขออนุญาตตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดฐานต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องไม้หวงห้าม: การประกาศใช้ พ.ร.ก.ไม้หวงห้ามตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ป่าไม้ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งขององค์ความผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ บรรยายฟ้องว่า ไม้เหียงเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามพ.ศ.2494โดยไม่ได้บรรยายว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2494 ได้ประกาศตามความในมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ดังนี้ ก็ถือว่าเป็นฟ้องสมบูรณ์ลงโทษจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีไม้หวงห้าม ไม่ต้องระบุวิธีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา หากมีข้อเท็จจริงเพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ บรรยายฟ้องว่า ไม้เหียงเป็นไม้หวงห้าม พงศ. 2494 โดยไม่ได้บรรยายว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2494 ได้ประกาศตามความใน มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ดังนี้ ก็ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ลงโทษจำเลยได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนตาบอด แม้ไม่มีเจตนา แต่ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย
จำเลยต่อยหมายถูกบริเวณหน้าตาผู้เสียหาย เป็นผลให้ตาบอด เช่นนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (1)
of 7