คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประจักษ์ศุภอรรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องที่ขาดการลงชื่อ: ศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปได้
สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ โจทก์ยังมิได้ลงชื่อทั้งเป็นสำเนาด้วย โจทก์ขอส่งคำขอท้ายฟ้องอันแท้จริงใหม่ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยจำเลยว่าแล้วแต่ศาลจะสั่งดังนี้ศาลชั้นต้นจะสั่งยกคำร้องของโจทก์ หาชอบไม่ น่าจะเป็นความพลั้งเผลอของผู้ที่กลัดคำฟ้องกลัดสับสนกันไป หากศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จัดทำใหม่ให้ถูกต้อง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายในการดำเนินคดีหรือต่อสู้คดีแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องที่ขาดการลงชื่อ - ศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่า คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ โจทก์ยังมิได้ลงชื่อ ทั้งเป็นสำเนาด้วย โจทก์ขอส่งคำขอท้ายฟ้องอันแท้จริงใหม่ ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลย จำเลยว่าแล้วแต่ศาลจะสั่ง ดังนี้ ศาลชั้นต้นจะสั่งยกคำร้องของโจทก์ หาชอบไม่น่าจะเป็นความพลั้งเผลอของผู้ที่กลัดคำฟ้อง กลัดสับสนกันไป หากศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จัดทำใหม่ให้ถูกต้อง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายในการดำเนินคดี หรือต่อสู้คดีแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความในการมอบฉันทะยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี และการพิจารณาพยานหลักฐานของศาล
ทนายความมอบอำนาจให้ผู้อื่นนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความในการมอบฉันทะยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี และขอบเขตการพิจารณาของศาล
ทนายความมอบอำนาจให้ผู้อื่นนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่นำไปสู่การจับกุมผู้อื่นโดยตำรวจ ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมาย
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหายแล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลางและจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นถูกจับกุม ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังตามกฎหมาย หากเป็นการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหาย แล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลาง และจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เลื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์สัตว์พาหนะยังไม่โอน การเอากระบือคืนไม่เป็นลักทรัพย์
จำเลยได้ขายกระบือของกลางให้แก่ผู้เสียหายไปแล้วแต่ตั๋วรูปพรรณยังมิจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 มาตรา 14 การซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 แม้การชำระราคายังโต้เถียงกัน จำเลยยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ส่วนผู้เสียหายคงมีสิทธิครอบครองเท่านั้น เมื่อจำเลยไปเอากระบือจากผู้เสียหายมาดังนี้ จำเลยยังไม่มีผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์สัตว์พาหนะและการซื้อขายที่ยังไม่จดทะเบียน: การกระทำไม่ถึงฐานลักทรัพย์
จำเลยได้ขายกระบือของกลางให้แก่ผู้เสียหายไปแล้ว แต่ตั๋วรูปพรรณยังมีจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. สัตว์พาหนะ พงศ. 2482 ม. 14 การซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 456 แม้การชำระราคายังโต้เถียงกัน จำเลยยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ ส่วนผู้เสียหายคงมีสิทธิครอบครองเท่านั้น เมื่อจำเลยไปเอากระบือจากผู้เสียหายมา ดังนี้ จำเลยยังไม่มีผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายทางแพ่ง: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
จำเลยถูกลงโทษคดีถึงที่สุดในเรื่องแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จว่าโจทก์รับสิ่งของไว้โดยรู้ว่าเป็นสิ่งของที่หลีกเลี่ยงอากรขาเข้าจนเป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องในคดีอาญาเช่นนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทดแทนเพื่อเหตุละเมิดได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420,438 และในการพิจารณาคดีส่งแพ่งเรื่องนี้ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญาคือ ฟังว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จและเบิกความเท็จจริง เมื่อจำเลยยังต่อสู้ในเรื่องค่าเสียหายอยู่ ศาลจะต้องฟังคำพยานของคู่ความต่อไปเฉพาะในเรื่องจำนวนค่าเสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จเป็นละเมิด โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้
จำเลยถูกลงโทษคดีถึงที่สุดในเรื่องแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จว่า โจทก์รับสิ่งของไว้โดยรู้ว่า เป็นสิ่งของที่หลีกเหลี่ยงอากรขาเข้าจนเป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องในคดีอาญาเช่นนี้ ถือว่า การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทดแทนเพื่อเหตุละเมิดได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420, 438 และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่ง เรื่องนี้ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญา คือ ฟังว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จและเบิกความเท็จจริง เมื่อจำเลยยังต่อสู้ในเรื่องค่าเสียหายอยู่ ศาลจะต้องฟังพยานของคู่ความต่อไป เฉพาะในเรื่องจำนวนค่าเสียหายเท่านั้น
of 19