พบผลลัพธ์ทั้งหมด 240 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวัดในฐานะนิติบุคคลโดยมิได้ระบุผู้มีอำนาจลงนามสัญญา และการคิดดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
ในช่องคู่ความในฟ้องใส่ว่า วัดเป็นจำเลยที่ 1 ในคำบรรยายฟ้องมีความรวมๆ ว่าจำเลยจ้างเหมาโจทก์ โดยมิได้บรรยายว่าวัดซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างโดยใครเป็นผู้แทน คำฟ้องเช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้ฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลให้มีความรับผิดตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วยและวัดก็มิได้โต้แย้งว่าวัดมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์จึงไม่มีประเด็นว่าวัดไม่ต้องรับผิด เพราะมิได้เป็นคู่สัญญาแต่ประการใด
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลจากสัญญาจ้างเหมา แม้จะไม่ได้ระบุผู้แทนชัดเจน วัดต้องรับผิดหากไม่โต้แย้ง
ในช่องคู่ความในฟ้องใส่ว่า วัดเป็นจำเลยที่ 1 ในคำบรรยายฟ้องมีความรวมๆ ว่าจำเลยจ้างเหมาโจทก์ โดยมิได้บรรยายว่าวัดซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างโดยใครเป็นผู้แทน คำฟ้องเช่นนี้ก็ถือว่า โจทก์ได้ฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลให้มีความรับผิดขอบตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วย และวัดก็มิได้โต้แย้งว่าวัดมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ จึงไม่มีประเด็นว่าวัดไม่ต้องรับผิดเพราะมิได้เป็นคู่สัญญาแต่ประการใด
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2503
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2503
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกทรัพย์ของเจ้าหน้าที่รัฐ: โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
เอกชนเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้ากองปกครองท้องถิ่นในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ยักยอกทรัพย์ตามฟ้องแสดงว่าเงินที่จำเลยรับมอบมานั้นเป็นเงินของรัฐบาลเมื่อจำเลยยังไม่ได้จ่ายให้โจทก์ ก็ยังคงเป็นเงินของรัฐบาลอยู่ หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินรัฐบาล โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายเกี่ยวกับความผิดที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ: โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แม้จะได้รับความเสียหายจากการไม่ชำระหนี้
เอกชนเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้ากองปกครองท้องถิ่น ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ยักยอกทรัพย์ ตามฟ้องแสดงว่า เงินที่จำเลยรับมอบมานั้นเป็นเงินของรัฐบาล เมื่อจำเลยยังไม่ได้จ่ายให้โจทก์ ก็ยังคงเป็นเงินรัฐบาลอยู่ หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินรัฐบาล โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายเกี่ยวกับความผิดที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการชันสูตรพลิกศพ: อนามัยอำเภอทำหน้าที่แทนได้ตามกฎหมาย
แพทย์ที่ทำการชันสูตรพลิกศพเป็นอนามัยอำเภอก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจแพทย์ชันสูตรพลิกศพ: อนามัยอำเภอสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฎหมาย
แพทย์ที่ทำการชันสูตรพลิกศพเป็นอนามัยอำเภอก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัด จากการยักยอกเงินของสารวัตรสุขาภิบาล โดยอายุความ 1 ปี
กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยจังหวัดชัยภูมิไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้รับเงิน ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทน แล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปด้วยความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้ เป็นกรณีละเมิด ต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 วรรค 1 โดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าฯ-อนามัยจังหวัด กรณีเงินยักยอก อายุความ 1 ปี
กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยจังหวัดไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับเงิน
ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทนแล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้เป็นกรณีละเมิดต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่งโดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทนแล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้เป็นกรณีละเมิดต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่งโดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีธนบัตรปลอมเพื่อนำออกใช้ การกระทำความผิดฐานจำหน่ายธนบัตรปลอมเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244
คำว่า มีไว้เพื่อใช้ในมาตรา 244 นั้น บัญญัติไว้เพื่อให้แตกต่างกับมีไว้เฉย ๆ
การที่จำเลยมีธนบัตรปลอมไว้แล้วนำออกขาย ถือว่า เป็นการมีไว้เพื่อนำออกใช้ ตามมาตรา 244 แล้ว (นัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1254/2503)
การที่จำเลยมีธนบัตรปลอมไว้แล้วนำออกขาย ถือว่า เป็นการมีไว้เพื่อนำออกใช้ ตามมาตรา 244 แล้ว (นัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1254/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีธนบัตรปลอมเพื่อจำหน่ายเข้าข่าย 'มีไว้เพื่อใช้' ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244
คำว่า มีไว้เพื่อใช้ ในมาตรา 244 นั้นบัญญัติไว้เพื่อให้แตกต่างกันกับ มีไว้ เฉยๆ
การที่จำเลยมีธนบัตรปลอมไว้แล้วนำออกขาย ถือว่าเป็นการมีไว้เพื่อนำออกใช้ ตามมาตรา 244 แล้ว(นัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1654/2503)
การที่จำเลยมีธนบัตรปลอมไว้แล้วนำออกขาย ถือว่าเป็นการมีไว้เพื่อนำออกใช้ ตามมาตรา 244 แล้ว(นัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1654/2503)