พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหนังสือสัญญา สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกัน คือ ไม่ชำระค่าเช่าสำหรับเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม 2503 และมกราคม 2504 เป็นการผิดพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ จึงหมดสิทธิใช้ประโยชน์ในห้องเช่ารายพิพาท จำเลยให้การสู้คดีว่าค่า 3 เดือนนั้นโจทก์ไม่มาเก็บตามที่เคยปฏิบัติ จำเลยนำไปชำระโจทก์ไม่ยอมรับ ดังนี้ เมื่อจำเลยสู้คดีอ้างว่าเป็นความผิดของโจทก์ จำเลยก็ต้องนำสืบ เมื่อไม่สืบพยานก็ต้องฟังว่าจำเลยผิดนัดจริง
เมื่อฟังว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกันแล้ว และการเช่านั้นมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งเป็นการเช่าที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ จำเลยจะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 มาบังคับโจทก์ว่าจะต้องมีการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าก่อนชั่วระยะเวลาชำระค่าเช่าระยะหนี่งหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2507)
เมื่อฟังว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกันแล้ว และการเช่านั้นมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งเป็นการเช่าที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ จำเลยจะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 มาบังคับโจทก์ว่าจะต้องมีการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าก่อนชั่วระยะเวลาชำระค่าเช่าระยะหนี่งหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหนังสือสัญญา สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกัน คือ ไม่ชำระค่าเช่าสำหรับเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม 2503 และมกราคม 2504เป็นการผิดพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ จึงหมดสิทธิใช้ประโยชน์ในห้องเช่ารายพิพาท จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า ค่าเช่า 3 เดือนนั้นโจทก์ไม่มาเก็บตามที่เคยปฏิบัติ จำเลยนำไปชำระโจทก์ไม่ยอมรับ ดังนี้ เมื่อจำเลยสู้คดีอ้างว่าเป็นความผิดของโจทก์ จำเลยก็ต้องนำสืบ เมื่อไม่สืบพยานก็ต้องฟังว่าจำเลยผิดนัดจริง
เมื่อฟังว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกันแล้ว และการเช่านั้นมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งเป็นการเช่าที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯจำเลยจะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 มาบังคับโจทก์ว่าจะต้องมีการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าก่อนชั่วระยะเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2507)
เมื่อฟังว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติดกันแล้ว และการเช่านั้นมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งเป็นการเช่าที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯจำเลยจะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 มาบังคับโจทก์ว่าจะต้องมีการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าก่อนชั่วระยะเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ผู้เช่ากรณีค้างชำระค่าเช่าหลายงวด
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าซึ่งต้องชำระรายเดือนรวม 6 เดือนเศษ เป็นการผิดนัด 2 คราวติดๆ กัน ผู้เช่าต่อสู้เพียงว่าไม่เคยค้างชำระค่าเช่า เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าให้โจทก์เกินกว่า 2 เดือนติดๆ กันแล้ว ก็ย่อมถือว่าผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าเกินกว่า 2 คราวติดๆ กันด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ผู้เช่ากรณีผิดนัดชำระค่าเช่าหลายคราว
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าซึ่งต้องชำระรายเดือนรวม 6 เดือนเศษ เป็นการผิดนัด 2 คราว ติด ๆ กัน ผู้เช่าต่อสู้เพียงว่าไม่เคยค้างชำระค่าเช่า เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าให้โจทก์เกินกว่า 2 เดือนติด ๆ กันแล้ว ก็ย่อมถือว่าผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าเกินกว่า 2 คราวติด ๆ กันด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดนัดชำระค่าเช่าและการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: หน้าที่ของผู้เช่าในการชำระค่าเช่า แม้เจ้าของบ้านเปลี่ยนเเปลง
เมื่อจำเลยจำต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์หรือผู้ซื้อบ้านเช่าที่จำเลยเช่าอยู่ จำเลยก็ย่อมต้องขวนขวายตามสมควรในการส่งมอบค่าเช่าแก่ผู้รับหรือทนายไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้วถ้าจำเลยค้างส่งค่าเช่า 2 เดือนติดกัน จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดชำระค่าเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า จำเลยต้องขวนขวายชำระค่าเช่า แม้จะยังไม่ทราบเจ้าของที่ชัดเจน
เมื่อจำเลยจำต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์หรือผู้ซื้อบ้านเช่าที่จำเลยเช่าอยู่ จำเลยก็ย่อมต้องขวนขวายตามสมควรในการส่งมอบ ค่าเช่าแก่ผู้รับ หรือทนายไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้ว ถ้าจำเลยค้างส่งค่าเช่า 2 เดือนติดกัน จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดชำระค่าเช่าหลังศาลตัดสินว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
เดิมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนายเปงสำ ๆ ได้ออกจากห้องพิพาทไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป คดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเองเป็นผู้เช่าจากโจทก์และได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ศาลฎีกา พิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้เช่าและได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พิพากษายกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1356/2496 ซึ่งอ่านให้โจทก์จำเลยฟังเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2497
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494 (วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย) ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ.94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย.97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือน กุมภาพันธ์ 2497 รวม 2 เดือน ไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม39 เดือน จำเลยก็ไม่ชำระ โจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติด ๆ กัน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ม. 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494 (วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย) ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ.94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย.97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือน กุมภาพันธ์ 2497 รวม 2 เดือน ไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม39 เดือน จำเลยก็ไม่ชำระ โจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติด ๆ กัน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ม. 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า การผิดนัดชำระค่าเช่า และสิทธิของเจ้าของบ้านในการฟ้องขับไล่
เดิมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2494 โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนายเป่งส่ำนายเป่งส่ำได้ออกจากห้องพิพาทไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป คดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเองเป็นผู้เช่าจากโจทก์และได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ศาลฎีกาพิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้เช่าและได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พิพากษายกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาฎีกาที่1356/2496ซึ่งอ่านให้โจทก์จำเลยฟังเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2497
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494(วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย)ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ. 94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย. 97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือนกุมภาพันธ์2497 รวม 2 เดือนไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม 39 เดือนจำเลยก็ไม่ชำระโจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติดๆ กันตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494(วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย)ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ. 94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย. 97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือนกุมภาพันธ์2497 รวม 2 เดือนไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม 39 เดือนจำเลยก็ไม่ชำระโจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติดๆ กันตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระค่าเช่าของผู้เช่า แม้มีการต่อสู้คดีก่อนหน้า และการผิดนัดชำระค่าเช่าเป็นเหตุให้ถูกขับไล่
เดิมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2494 โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนายเป่งส่ำนายเป่งส่ำได้ออกจากห้องพิพาทไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป คดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเองเป็นผู้เช่าจากโจทก์และได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ศาลฎีกาพิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้เช่าและได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พิพากษายกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาฎีกาที่1356/2496ซึ่งอ่านให้โจทก์จำเลยฟังเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2497
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494(วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย)ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ. 94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย. 97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือนกุมภาพันธ์2497 รวม 2 เดือนไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม 39 เดือนจำเลยก็ไม่ชำระโจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติดๆ กันตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494(วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย)ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ. 94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย. 97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือนกุมภาพันธ์2497 รวม 2 เดือนไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม 39 เดือนจำเลยก็ไม่ชำระโจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติดๆ กันตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดชำระค่าเช่ามีผลต่อสิทธิในการฟ้องขับไล่
การค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดไม่ชำระค่าเช่านั้นต่างกัน จำเลยค้างชำระค่าเช่า 12 เดือน จะถือว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวยังไม่ได้ เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยผิดนัดเพียงครั้งเดียว กรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 มาตรา 16(1) ที่จะฟ้องขับไล่ได้