คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยง เหลืองรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามปล้นทรัพย์: การกระทำไม่สำเร็จเนื่องจากถูกขัดขวาง และการลดโทษจากความผิดพลาดเยาว์วัย
คนร้ายปลดโคออกจากเกวียนแล้วปล่อยโคไว้แถวบริเวณที่เกวียนจอดนั้นเองเอาโคไปไม่ได้ เพราะผู้เสียหายกับชาวบ้านพากันมายังที่เกิดเหตุเกือบจะในทันที และตามบริเวณทุ่งนาใกล้ ๆ ก็ยังมีคนเกี่ยวข้าวอยู่เป็นอันมาก คนพวกนี้ได้คอยสกัดกั้นจำเลยไว้จนไม่สามารถจะนำโคไปได้ ต้องทิ้งไว้แล้วหนีเอาตัวรอด ความผิดของจำเลยจึงเป็นเพียงขั้นพยายามเท่านั้น
จำเลย (อายุ 19 ปี) กับพวกรวม 3 คนปล้นทรัพย์ในเวลากลางวันอันน่าจะทำไปด้วยความคนองตามประสาเด็กหนุ่ม ไม่ได้คิดและตระเตรียมการให้รอบคอบอย่างคนธรรมดาที่คิดจะทำการใหญ่เช่นนี้ผลที่ได้รับก็คือพวกของตนถูกยิงตายไป 1 คน ตัวเองก็ถูกยิงบาดเจ็บดังนี้ ศาลลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 76 เป็นการสมควรแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์: การกระทำไม่สำเร็จเนื่องจากมีผู้ขัดขวาง และเหตุผลในการลดโทษ
คนร้ายปลดโคออกจากเกวียนแล้วปล่อยโคไว้แถวบริเวณที่เกวียนจอดนั้นเองเอาโคไปไม่ได้ เพราะผู้เสียหายกับชาวบ้านพากันมายังที่เกิดเหตุเกือบจะในทันที และตามบริเวณทุ่งนาใกล้ ๆ ก็ยังมีคนเกี่ยวข้าวอยู่เป็นอันมาก คนพวกนี้ได้คอยสกัดกั้นจำเลยไว้จนไม่สามารถจะนำโคไปได้ ต้องทิ้งไว้แล้วหนีเอาตัวรอด ความผิดของจำเลยจึงเป็นเพียงชั้นพยายามเท่านั้น
จำเลย (อายุ 19 ปี) กับพวกรวม 3 คนปล้นทรัพย์ในเวลากลางวัน อันน่าจะทำไปด้วยความคนองตามประสาเด็กหนุ่ม ไม่ได้คิดและตระเตรียมการให้รอบคอบอย่างคนธรรมดาที่คิดจะทำการใหญ่เช่นนี้ ผลที่ได้รับก็คือ พวกของตนถูกยิงตายไป 1 คน ตัวเองก็ถูกยิงบาดเจ็บ ดังนี้ ศาลลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 76 เป็นการสมควรแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินและโฉนด การเพิกถอนโฉนดทับซ้อน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้มาก โจทก์ฎีกาได้
คดีที่มีทุนทรัพย์ 3,400 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินตามรูปแผนที่พิพาทเป็นของโจทก์ และจำเลยที่ 2 ให้เพิกถอนโฉนดเลขที่ 5639 ของจำเลย โดยตัดเฉพาะที่ดินส่วนที่ปรากฏในแผนที่พิพาทเส้นสีแดงหมายเลข 2 ออกเสียจากโฉนดส่วนคำขอของโจทก์ให้แบ่งที่พิพาท ศาลพิพากษาให้แบ่งไว้ในคดีแดงที่ 785/2503 แล้ว ไม่ต้องพิพากษาซ้ำอีก คำขออื่นให้ยก(ซึ่งหมายรวมถึงคำขอที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท) ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด ดังนี้ เป็นแก้มาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพาทเรื่องที่ดินซ้อนทับ โฉนดที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์แก้เป็นยกฟ้อง โจทก์ฎีกาแต่ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีที่มีทุนทรัพย์ 3,400 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินตามรูปแผนที่พิพาทเป็นของโจทก์ และจำเลยที่ 2 ให้เพิกถอนโฉนดเลขที่ 5639 ของจำเลย โดยตัดเฉพาะที่ดินส่วนที่ปรากฏในแผนที่พิพาทเส้นสีแดงหมายเลข 2 ออกเสียจากโฉนด ส่วนคำขอของโจทก์ให้แบ่งที่พิพาท ศาลพิพากษาให้แบ่งไว้ในคดีแดงที่ 785/2503 แล้ว ไม่ต้องพิพากษาซ้ำอีก คำขออื่นให้ยก (ซึ่งหมายรวมถึงคำขอที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท) ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด ดังนี้ เป็นแก้มาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องพิจารณาความต่อเนื่องของการกระทำ
คนร้าย ตี ถีบ เตะ เจ้าทรัพย์และยิงปืนขณะทำการปล้นทรัพย์ แล้วคุมตัวเจ้าทรัพย์ให้ไปส่ง เมื่อถึงไร่ห่างบ้านเจ้าทรัพย์ประมาณ 40 เส้น คนร้ายยิงเจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเจ้าทรัพย์มิได้ถูกจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายกับพวกยิงตายในขณะปล้น แต่เพิ่งจะไปถูกยิงตายต่างตำบลต่างอำเภอกับที่เกิดเหตุ ห่างไกลถึง 40 เส้นเช่นนี้ การที่เจ้าทรัพย์ถูกยิงตายนั้น มิใช่เป็นการต่อเนื่องกับการปล้น หรือเป็นผลซึ่งเปิดขึ้นตามธรรมดาจากการปล้นทรัพย์ การปล้นทรัพย์ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 ไม่ใช่วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์และการตายของเหยื่อ การพิสูจน์ความต่อเนื่องของการกระทำผิดเพื่อลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย
คนร้าย ตี ถีบ เตะ เจ้าทรัพย์และยิงปืนขณะทำการปล้นทรัพย์ แล้วคุมตัวเจ้าทรัพย์ให้ไปส่งเมื่อถึงไร่ห่างบ้านเจ้าทรัพย์ประมาณ 40 เส้น คนร้ายยิงเจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเจ้าทรัพย์ มิได้ถูกจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายกับพวกยิงตายในขณะปล้นแต่เพิ่งจะไป ถูกยิงตายต่างตำบลต่างอำเภอกับที่เกิดเหตุ ห่างไกลถึง 40 เส้น เช่นนี้ การที่เจ้าทรัพย์ถูกยิงตายนั้นมิใช่เป็นการต่อเนื่องกับการปล้น หรือเป็นผลซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการปล้นทรัพย์การปล้นทรัพย์ ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ ไม่ใช่วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมข่มขืน: หญิงมีส่วนร่วมได้แม้ไม่ได้ลงมือกระทำชำเรา
ความผิดในเรื่องข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำผิดได้โดยผู้ร่วมกระทำผิดมิต้องเป็นผู้ลงมือกระทำชำเราด้วยทุกคนเพียงแต่คนใดคนหนึ่งกระทำชำเราผู้ที่ร่วมกระทำผิดทุกคน ก็มีความผิดฐานเป็นตัวการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ก็หาได้บัญญัติให้ลงโทษแต่เฉพาะชายเท่านั้นในบทกฎหมายมาตรานี้บัญญัติแต่เพียงว่า 'ผู้ใดกระทำผิด ฯลฯ' เท่านั้น ฉะนั้น แม้จำเลยที่ 2 จะเป็นหญิงเมื่อฟังได้ว่าได้สมคบกับจำเลยที่ 1 ร่วมกันกระทำผิดศาลก็ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมข่มขืน: หญิงสามารถเป็นตัวการร่วมได้ แม้ไม่ได้ลงมือกระทำเอง
ความผิดในเรื่องข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำผิดได้ โดยผู้ร่วมกระทำผิดมิต้องเป็นผู้ลงมือกระชำเราด้วยทุกคน เพียงแต่คนใดคนหนึ่งกระทำชำเราผู้ที่ร่วมกระทำผิดทุกคนก็มีความผิดฐานเป็นตัวการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ก็หาได้บัญญัติให้ลงโทษแต่เฉพาะชายเท่านั้น ในบทกฎหมายมาตรานี้บัญญัติแต่เพียงว่า "ผู้ใดกระทำผิด ฯลฯ" เท่านั้น ฉะนั้น แม้จำเลยที่ 2 จะเป็นหญิง เมื่อฟังได้ว่าได้สมคบกับจำเลยที่ 1 ร่วมกันกระทำผิดศาลก็ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกา
จำเลยยื่นฎีกาไว้ แล้วเพิกเฉยไม่มาติดต่อนำพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้นานเกินกว่ากำหนดเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกา ทำให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากทิ้งฟ้อง
จำเลยยื่นฎีกาไว้ แล้วเพิกเฉยไม่มาติดต่อนำพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้นานเกินกว่ากำหนดเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ ถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174
of 116