พบผลลัพธ์ทั้งหมด 59 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระชากทรัพย์สินของตนเองที่จำนำไว้ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ แต่ฟ้องผิดฐานโจทก์ไม่อาจลงโทษฐานอื่นได้
คดีอาญา ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ประกอบด้วยมาตรา 201
จำเลยจำนำสร้อยคอของตนไว้กับผู้เสียหายเพื่อเอาเงินมาเล่นการพนัน แล้วจำเลยกระชากสร้อยเส้นนั้นไปจากคอผู้เสียหาย ไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ เพราะสร้อยนั้นเป็นของจำเลยเอง และเมื่อไม่เป็นการลักทรัพย์ ก็ไม่อาจเป็นผิดฐานชิงทรัพย์ได้
การกระทำของจำเลยดังกล่าวแล้วนั้นอาจเป็นผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349 แต่โจทก์ฟ้องว่าชิงทรัพย์ จะลงโทษฐานโกงเจ้าหนี้ไม่ได้ เพราะถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้องในข้อสารสำคัญ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2 คดีต้องยกฟ้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานโกงเจ้าหนี้ด้วยหรือไม่
จำเลยจำนำสร้อยคอของตนไว้กับผู้เสียหายเพื่อเอาเงินมาเล่นการพนัน แล้วจำเลยกระชากสร้อยเส้นนั้นไปจากคอผู้เสียหาย ไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ เพราะสร้อยนั้นเป็นของจำเลยเอง และเมื่อไม่เป็นการลักทรัพย์ ก็ไม่อาจเป็นผิดฐานชิงทรัพย์ได้
การกระทำของจำเลยดังกล่าวแล้วนั้นอาจเป็นผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349 แต่โจทก์ฟ้องว่าชิงทรัพย์ จะลงโทษฐานโกงเจ้าหนี้ไม่ได้ เพราะถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้องในข้อสารสำคัญ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2 คดีต้องยกฟ้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานโกงเจ้าหนี้ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้างขณะใช้รถยนต์ส่วนตัว
ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกรบจ้างของนายจ้าง ได้ขับรถยนต์บรรทุกของบุคคลอื่นที่มาฝากนายจ้างไว้เพื่อไปเที่ยวงานวัดในตอนกลางคืน แม้นายจ้างจะรู้เห็นยินยอมด้วย ก็หาใช่เป็นเรื่องที่ลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างตามประมวบกฎหมายแห่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้างนอกเหนือการปฏิบัติงานตามสัญญา
ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกรับจ้างของนายจ้างได้ขับรถยนต์บรรทุกของบุคคลอื่นที่มาฝากนายจ้างไว้เพื่อไปเที่ยวงานวัดในตอนกลางคืน แม้นายจ้างจะรู้เห็นยินยอมด้วยก็หาใช่เป็นเรื่องที่ลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานหลังเลื่อนนัด – สิทธิในการยื่นเพิ่มเติมก่อนวันนัดใหม่
ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานแทนโจทก์โดยไม่มีอำนาจ แต่ต่อมาทนายโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน แม้จะแถลงว่าเป็นการขออ้างพยานเพิ่มเติม ทั้ง ๆ ที่บัญชีระบุพยานเดิมใช้ไม่ได้ บัญชีระบุพยานที่ทนายโจทก์ได้ยื่นต่อศาลก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันนั้นก็ไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานที่ไม่ถูกต้องและการยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม ศาลย่อมมีสิทธิรับพยานใหม่ได้หากยื่นก่อนวันนัดสืบ
ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานแทนโจทก์โดยไม่มีอำนาจ แต่ต่อมาทนายโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก่อนวันนัดสืบพยาน ไม่น้อยกว่า 3 วัน แม้จะแถลงว่าเป็นการขออ้างพยานเพิ่มเติม ทั้ง ๆ ที่บัญชีระบุพยานเดิมใช้ไม่ได้ บัญชีระบุพยานที่ทนายโจทก์ ได้ยื่นต่อศาลก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันนั้นก็ไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดระยะเวลาสัญญา: วันหยุดราชการขยายเวลาได้ตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล ตกลงแบ่งที่พิพาทกันคนละครึ่ง จำเลยอมชดใช้ให้เงินโจทก์ 8,000 บาท โดยจะนำมาวางศาลภายในเดือนเมษายน 2509 หากจำเลยไม่นำเงินมาวางภายในเดือนเมษายน 2509 จำเลยยอมให้ที่พิพาททั้งหมดตกเป็นสิทธิของโจทก์ ดังนี้ เมื่อได้ความว่า วันสุดท้ายที่จำเลยมีโอกาสจะนำเงินมาวางศาลในคดีนี้คือวันที่ 30 เมษายน 2509 ตรงกับวันหยุดราชการ และเริ่มเปิดทำงานใหม่ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2509 จำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำเงินมาวางศาลได้ในวันที่เปิดทำงานใหม่ตามมาตรา 161 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยมิได้ผิดสัญญา สัญญาที่มีกำหนดเวลาดังเช่นนี้ย่อมมีวิธีการกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาดังที่บัญญัติไว้ในลักษณะ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดระยะเวลาสัญญา: วันหยุดราชการขยายเวลาได้ตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล ตกลงแบ่งที่พิพาทกันคนละครึ่ง จำเลยยอมชดใช้เงินให้โจทก์ 8,000 บาท โดยจะนำมาวางศาลภายในเดือนเมษายน 2509 หากจำเลยไม่นำเงินมาวางภายในเดือนเมษายน 2509 จำเลยยอมให้ที่พิพาททั้งหมดตกเป็นสิทธิของโจทก์ ดังนี้ เมื่อได้ความว่าวันสุดท้ายที่จำเลยมีโอกาสจะนำเงินมาวางศาลในคดีนี้คือวันที่ 30 เมษายน 2509 ตรงกับวันหยุดราชการและเริ่มเปิดทำงานใหม่ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2509 จำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำเงินมาวางศาลได้ในวันที่เปิดทำงานใหม่ตามมาตรา 161 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยมิได้ผิดสัญญาสัญญาที่มีกำหนดเวลาดังเช่นคดีนี้ย่อมมีวิธีการกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและวันสุดท้ายแห่ง ระยะเวลาดังที่บัญญัติไว้ในลักษณะ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยกับภรรยาโต้เถียงกัน แล้วจำเลยใช้ไม้ไผ่ซึ่งมีขนาดโตกว่าหัวแม่มือนิดหน่อย ยาวประมาณ 1 วา ตีภรรยา แต่ตีหนักมือไป ทำให้พลากไปถูกนางบุญลืมซึ่งภรรยาของจำเลยยืนเกาะหลังอยู่ถึงแก่ความตาย เมื่อภรรยาจำเลยหนีไปแล้ว จำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยไม่รู้สำนึกในการกระทำ และมิได้ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลว่านางบุญลืมอาจถึงแก่ความตายเพราะการกระทำของจำเลยได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลตัดสินฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยกับภรรยาโต้เถียงกัน แล้วจำเลยใช้ไม้ไผ่ซึ่งมีขนาดโตกว่า หัวแม่มือนิดหน่อย ยาวประมาณ 1 วา ตีภรรยาแต่ตีหนักมือไป ทำให้พลาดไปถูกนางบุญลืมซึ่งภรรยาของจำเลยยืนเกาะหลังอยู่ถึงแก่ความตาย เมื่อภรรยาจำเลยหนีไปแล้ว จำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยไม่รู้สำนึกในการกระทำและมิได้ ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลว่านางบุญลืมอาจถึงแก่ความตาย เพราะการกระทำของจำเลยได้จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290