คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ถาวร หุตะโกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 545 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเพื่อหากำไรเข้าข่ายการค้า ต้องเสียภาษีการค้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การขายอสังหาริมทรัพย์ในทางการค้าก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน2502 ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 มาตรา 40. ซึ่งต้องคำนึงถึงค่ารายปีของสถานที่ประกอบการค้าและเสียภาษีตามยอดเงินรายรับส่วนการค้าตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2502 ตลอดมา ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่16) พ.ศ.2502 มาตรา 38 จึงไม่ต้องคำนึงถึงค่ารายปีหรือจำนวนเงินซึ่งสถานการค้าสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆนั้นอีก
โจทก์ซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2485 จำนวน6 โฉนด เนื้อที่ 39 ไร่ ราคา 113,996 บาท. ต่อมาปีเศษ โจทก์ยื่นคำร้องขอรวมที่ดินทั้งหมดนี้เข้าเป็นแปลงเดียวกัน เมื่อเจ้าพนักงานจัดทำให้เสร็จแล้ว ได้ขอแบ่งแยกเป็นที่ดินแปลงย่อยๆ รวม 24 แปลง โจทก์ตัดถนนผ่านที่ดินกว้าง 10 เมตร เป็นถนนคอนกรีตทำเสร็จเมื่อ พ.ศ.2496 และได้ขอต่อไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าที่ดินทั้งหมดและในปี พ.ศ.2496 นี้ ได้เริ่มขายที่ดินแปลงย่อย ๆ จนถึง พ.ศ.2504 จำนวน 20 แปลงเป็นเงิน 7,831,803 บาท ตามพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่า โจทก์ประกอบธุรกิจการค้าหากำไรจึงมีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีเทศบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเพื่อหากำไร มีหน้าที่เสียภาษีการค้า แม้จะอ้างเป็นการขายของเดิม
การขายอสังหาริมทรัพย์ในทางการค้าก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน2502 ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 มาตรา 40 ซึ่งต้องคำนึงถึงค่ารายปีของสถานที่ประกอบการค้าและเสียภาษีตามยอดเงินรายรับส่วนการค้าตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2502 ตลอดมา ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่16) พ.ศ.2502 มาตรา 38 จึงไม่ต้องคำนึงถึงค่ารายปีหรือจำนวนเงินซึ่งสถานการค้าสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆนั้นอีก
โจทก์ซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2485 จำนวน 6 โฉนด เนื้อที่ 39 ไร่ ราคา 113,996 บาท ต่อมาปีเศษ โจทก์ยื่นคำร้องขอรวมที่ดินทั้งหมดนี้เข้าเป็นแปลงเดียวกัน เมื่อเจ้าพนักงานจัดทำให้เสร็จแล้ว ได้ขอแบ่งแยกเป็นที่ดินแปลงย่อยๆ รวม 24 แปลงโจทก์ตัดถนนผ่านที่ดินกว้าง 10 เมตร เป็นถนนคอนกรีตทำเสร็จเมื่อ พ.ศ.2496 และได้ขอต่อไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าที่ดินทั้งหมดและในปี พ.ศ.2496 นี้ ได้เริ่มขายที่ดินแปลงย่อยๆจนถึงพ.ศ.2504 จำนวน 20 แปลงเป็นเงิน 7,831,803 บาทตามพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่า โจทก์ประกอบธุรกิจการค้าหากำไรจึงมีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีเทศบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายที่ดินเพื่อหากำไรหน้าที่เสียภาษีการค้า พิจารณาตามกฎหมายที่ใช้บังคับในแต่ละช่วงเวลา
การขายอสังหาริมทรัพย์ในทางการค้าก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน2502 ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 มาตรา 40. ซึ่งต้องคำนึงถึงค่ารายปีของสถานที่ประกอบการค้าและเสียภาษีตามยอดเงินรายรับ.ส่วนการค้าตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2502 ตลอดมา ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่16) พ.ศ.2502 มาตรา 38. จึงไม่ต้องคำนึงถึงค่ารายปีหรือจำนวนเงินซึ่งสถานการค้าสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆนั้นอีก.
โจทก์ซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2485 จำนวน6 โฉนด เนื้อที่ 39 ไร่ ราคา 113,996 บาท. ต่อมาปีเศษ โจทก์ยื่นคำร้องขอรวมที่ดินทั้งหมดนี้เข้าเป็นแปลงเดียวกัน. เมื่อเจ้าพนักงานจัดทำให้เสร็จแล้ว ได้ขอแบ่งแยกเป็นที่ดินแปลงย่อยๆ รวม 24 แปลง. โจทก์ตัดถนนผ่านที่ดินกว้าง 10 เมตร เป็นถนนคอนกรีตทำเสร็จเมื่อ พ.ศ.2496. และได้ขอต่อไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าที่ดินทั้งหมด.และในปี พ.ศ.2496 นี้ ได้เริ่มขายที่ดินแปลงย่อยๆจนถึง พ.ศ.2504 จำนวน 20 แปลงเป็นเงิน 7,831,803 บาท. ตามพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่า โจทก์ประกอบธุรกิจการค้าหากำไรจึงมีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีเทศบาล.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายที่ดินของคนต่างด้าวที่ฝ่าฝืนกฎหมาย: สิทธิในการบังคับคดีล้มละลายและการใช้บทบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดิน
ที่ดินที่คนต่างด้าวได้มาโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2493 ก็เป็นที่ดินที่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 94,96 ที่ให้คนต่างด้าวจำหน่ายได้ ถ้าไม่จำหน่ายก็ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายได้เมื่อที่ดินนั้นคนต่างด้าวจำหน่ายได้ตามกฎหมายดังกล่าวแล้วโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของคนต่างด้าวผู้ล้มละลาย ก็ย่อมจำหน่ายที่ดินนั้นในการบังคับคดีล้มละลายได้เช่นเดียวกัน(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายที่ดินของคนต่างด้าวที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายภายใต้ประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายล้มละลาย
ที่ดินที่คนต่างด้าวได้มาโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ. 2486 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2493 ก็เป็นที่ดินที่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 94, 96 ที่ให้คนต่างด้าวจำหน่ายได้ ถ้าไม่จำหน่ายก็ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายได้ เมื่อที่ดินนั้นคนต่างด้าวจำหน่ายได้ตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของคนต่างด้าวผู้ล้มละลาย ก็ย่อมจำหน่ายที่ดินนั้นในการบังคับคดีล้มละลายได้เช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายที่ดินของคนต่างด้าวที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การบังคับคดีล้มละลาย และอำนาจของอธิบดีกรมที่ดิน
ที่ดินที่คนต่างด้าวได้มาโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 และฉบับที่ 2พ.ศ.2493 ก็เป็นที่ดินที่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 94,96 ที่ให้คนต่างด้าวจำหน่ายได้. ถ้าไม่จำหน่ายก็ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายได้. เมื่อที่ดินนั้นคนต่างด้าวจำหน่ายได้ตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว. โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของคนต่างด้าวผู้ล้มละลาย ก็ย่อมจำหน่ายที่ดินนั้นในการบังคับคดีล้มละลายได้เช่นเดียวกัน.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าสิ้นสุด: ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ หากมูลฟ้องใหม่เกิดขึ้นหลังฟ้องคดีเดิม
คดีเดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าในระหว่างที่สัญญาเช่ายังมีอายุอยู่ โดยจำเลยให้เช่าช่วงและทำให้อาคารที่เช่าเสียหาย โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย แต่คดีนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมไว้แล้ว คือหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วนั้น บัดนี้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่า สัญญาเช่าจึงสิ้นสุดลงในเวลาที่คดีเดิมอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยังไม่ออกจากอาคารที่เช่า โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นใหม่ มูลฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วโจทก์จึงฟ้องคดีนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าสิ้นสุด: ไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากมูลฟ้องใหม่เกิดขึ้นหลังฟ้องคดีเดิม
คดีเดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าในระหว่างที่สัญญาเช่ายังมีอายุอยู่โดยจำเลยให้เช่าช่วงและทำให้อาคารที่เช่าเสียหาย. โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย. แต่คดีนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมไว้แล้วคือหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วนั้น. บัดนี้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่า.สัญญาเช่าจึงสิ้นสุดลงในเวลาที่คดีเดิมอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น. จำเลยยังไม่ออกจากอาคารที่เช่าโจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นใหม่ มูลฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วโจทก์จึงฟ้องคดีนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173.(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าสิ้นสุด: ไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้มีคดีเดิมเกี่ยวกับสัญญาเช่า
คดีเดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าในระหว่างที่สัญญาเช่ายังมีอายุอยู่โดยจำเลยให้เช่าช่วงและทำให้อาคารที่เช่าเสียหาย โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย แต่คดีนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมไว้แล้วคือหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วนั้น บัดนี้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าสัญญาเช่าจึงสิ้นสุดลงในเวลาที่คดีเดิมอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยังไม่ออกจากอาคารที่เช่าโจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นใหม่ มูลฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่โจทก์ฟ้องคดีเดิมแล้วโจทก์จึงฟ้องคดีนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล่อยที่ดินจากการบังคับคดี: เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมและสิทธิครอบครองเกิน 10 ปี
โจทก์นำยึดที่ดินทั้งแปลงตามโฉนดเนื้อที่ 79 ไร่.ผู้ร้องขอให้ปล่อยที่ดินบางส่วนเนื้อที่ 29 ไร่เศษ. ศาลพิพากษาให้ปล่อยที่ดินทั้งแปลงเนื้อที่ 79 ไร่เศษได้.ในเมื่อฟังได้ว่าจำเลยไม่มีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินในโฉนดนั้นเลย.
of 55