พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานนำเงินตราปลอมออกใช้ การระบุเวลาเกิดเหตุตามฟ้องต้องชัดเจนและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11) เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน เป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ตามกฎหมาย แต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา24.00 นาฬิกาของวันเดียวกัน อันเป็นระยะเวลาหลังจากจำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึงมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเงินตราปลอมออกใช้หลังทราบว่าเป็นของปลอม มีรายละเอียดเวลาการกระทำความผิดตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11)เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันเป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ ตามกฎหมายแต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันอันเป็นระยะเวลาหลังจาก จำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึง มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดเหรียญปลอมไม่ถึงขั้นทำปลอมเงินตรา ต้องมีเจตนาและกระบวนการที่ชัดเจน
เหรียญห้าบาทปลอมมีแร่ผสมทำให้ด้านไม่ขึ้นเงา นำออกใช้ไม่ได้ ต้องขัดก่อน จำเลยใช้น้ำยาขัดเหรียญเท่านั้นไม่พอฟังว่าจำเลยทำปลอมเหรียญกษาปณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา: ลงโทษกระทงเดียวตามมาตรา 248
เมื่อจำเลยทำปลอมเงินตราเป็นเหรียญกษาปณ์ราคาอันละห้าบาทซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และจำเลยมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 244 กับจำเลยทำและมีเครื่องมือและวัตถุสำหรับทำปลอมเงินตราดังกล่าวด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 246 จำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และได้กระทำผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 เกี่ยวกับเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นด้วยซึ่งความผิดตาม มาตรา 244 มาตรา 246 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวดเดียวกับมาตรา 240 ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และศาลลงโทษตามมาตรา 240 แล้ว จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 246 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้ เพราะมาตรา 248 บัญญัติให้ลงโทษแต่กระทงเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา: ลงโทษเฉพาะกระทงปลอมแปลง ตามมาตรา 248
เมื่อจำเลยทำปลอมเงินตราเป็นเหรียญกษาปณ์ราคาอันละห้าบาท ซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และจำเลยมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 244 กับจำเลยทำและมีเครื่องมือและวัตถุสำหรับทำปลอมเงินตราดังกล่าวด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 246 จำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และได้กระทำผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 เกี่ยวกับเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นด้วย ซึ่งความผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวดเดียวกับมาตรา 240 ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และศาลลงโทษตามมาตรา 240 แล้ว จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 246 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้ เพราะมาตรา 248 บัญญัติให้ลงโทษแต่กระทงเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการปลอมเหรียญกษาปณ์: ผู้ให้ความสะดวกสถานที่และเครื่องมือ มีความผิดฐานผู้สนับสนุน
บุคคลอื่นนำเครื่องมือปลอมเหรียญกษาปณ์ไปทำปลอมเหรียญกษาปณ์ที่บ้านจำเลยเพื่อให้จำเลยดูความสามารถนั้น จำเลยไม่ใช่ตัวการในการทำปลอม เพราะมิได้ร่วมในการทดลองทำด้วย แต่การที่จำเลยยอมให้ใช้สถานที่ ภาชนะเตาไฟของตนนั้นเป็นการให้ความสะดวกในการทำปลอมเหรียญกษาปณ์ จึงมีผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
บุคคลอื่นนำเครื่องมือไปทำเหรียญกษาปณ์ปลอมที่บ้านจำเลยมาทดลองทำให้ดูใหม่อีกเช่นนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยมีเครื่องมือไว้เพื่อใช้ในการปลอมเหรียญกษาปณ์แล้ว ส่วนเหรียญกษาปณ์ที่จำเลยรับฝากไว้นั้นไม่เหมือนของจริงบุคคลอื่นจะมาทำให้ดูอีก จึงเป็นการรับไว้มิใช่เพื่อนำออกใช้
จำเลยสนับสนุนให้บุคคลอื่นทำปลอมเหรียญกษาปณ์และมีเครื่องมืออันเกี่ยวกับการทำปลอมเหรียญกษาปณ์นั้นไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246,240,86นั้นให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 240,86 กระทงเดียวตามมาตรา 248 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2505)
บุคคลอื่นนำเครื่องมือไปทำเหรียญกษาปณ์ปลอมที่บ้านจำเลยมาทดลองทำให้ดูใหม่อีกเช่นนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยมีเครื่องมือไว้เพื่อใช้ในการปลอมเหรียญกษาปณ์แล้ว ส่วนเหรียญกษาปณ์ที่จำเลยรับฝากไว้นั้นไม่เหมือนของจริงบุคคลอื่นจะมาทำให้ดูอีก จึงเป็นการรับไว้มิใช่เพื่อนำออกใช้
จำเลยสนับสนุนให้บุคคลอื่นทำปลอมเหรียญกษาปณ์และมีเครื่องมืออันเกี่ยวกับการทำปลอมเหรียญกษาปณ์นั้นไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246,240,86นั้นให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 240,86 กระทงเดียวตามมาตรา 248 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการปลอมเหรียญกษาปณ์: ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนและมีเครื่องมือปลอมแปลง
บุคคลอื่นนำเครื่องมือปลอมเหรียญกษาปณ์ไปทำปลอมเหรียญกษาปณ์ที่บ้านจำเลย เพื่อให้จำเลยดูความสามารถนั้น จำเลยไม่ใช่ตัวการในการทำปลอม เพราะมิได้ร่วมในการทดลองทำด้วย แต่การที่จำเลยยอมให้ใช้สถานที่ ภาชนะเตาไฟของตนนั้นเป็นการให้ความสะดวกในการทำปลอมเหรียญกษาปณ์ จึงมีผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
บุคคลอื่นนำเครื่องมือไปทำเหรียญกษาปณ์ปลอมที่บ้านจำเลย แต่ไม่เหมือนของจริงจึงฝากเครื่องมือไว้ วันรุ่งขึ้นจะมาทำลองทำให้ดูใหม่อีกเช่นนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยมีเครื่องมือไว้เพื่อใช้ในการปลอมเหรียญกษาปณ์แล้ว ส่วนเปรียญกษาปณ์ที่จำเลยรับฝากไว้นั้นไม่เหมือนของจริง บุคคลอื่นจะมาทำให้ดูอีก จึงเป็นการรับไว้มิใช่เพื่อนำออกใช้
จำเลยสนับสนุนให้บุคคลอื่นทำปลอมเหรียญกษาปณ์และมีเครื่องมืออันเกี่ยวกับการทำปลอมเหรียญกษาปณ์นั้นไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246, 240, 86 นั้น ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 240, 86 กระทงเดียวตามมาตรา 248
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2505)
บุคคลอื่นนำเครื่องมือไปทำเหรียญกษาปณ์ปลอมที่บ้านจำเลย แต่ไม่เหมือนของจริงจึงฝากเครื่องมือไว้ วันรุ่งขึ้นจะมาทำลองทำให้ดูใหม่อีกเช่นนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยมีเครื่องมือไว้เพื่อใช้ในการปลอมเหรียญกษาปณ์แล้ว ส่วนเปรียญกษาปณ์ที่จำเลยรับฝากไว้นั้นไม่เหมือนของจริง บุคคลอื่นจะมาทำให้ดูอีก จึงเป็นการรับไว้มิใช่เพื่อนำออกใช้
จำเลยสนับสนุนให้บุคคลอื่นทำปลอมเหรียญกษาปณ์และมีเครื่องมืออันเกี่ยวกับการทำปลอมเหรียญกษาปณ์นั้นไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246, 240, 86 นั้น ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 240, 86 กระทงเดียวตามมาตรา 248
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเงินตรา: เจตนาสำคัญในการพิจารณาความผิดตามมาตรา 240 หรือ 249
กรณีตาม มาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแนกความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา: เจตนาในการนำออกใช้เป็นเงินตราจริงหรือไม่
กรณีตาม มาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา 249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา 249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240