คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2490 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบโรคศิลปะโดยมิได้รับอนุญาต: ความผิดอยู่ในตัวหรือไม่ และการริบของกลาง
จำเลยไม่มีความรู้ทางหมอแต่อย่างใด เป็นคนธรรมดาไม่มีสิทธิจะขออนุญาตเพื่อประกอบโรคศิลปะ ได้บังอาจรับฉีดยาบำบัดโรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์และสินจ้าง การกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นความผิดอยู่ในตัว มิใช่มีสิทธิจะขออนุญาตแต่ไม่ได้ขอ ซึ่งเป็นเพียงความผิดเพราะการที่ไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ยาฉีด เข็มฉีดยา ฯลฯ ของกลางที่จำเลยมีไว้ใช้ในการกระทำผิดจึงเป็นของควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดอยู่ในตัว มิใช่แค่ขาดใบอนุญาต
จำเลยไม่มีความรู้ทางหมอแต่อย่างใด เป็นคนธรรมดาไม่มีสิทธิจะขออนุญาตเพื่อประกอบโรคศิลปะ ได้บังอาจรับฉีดยาบำบัดโรค เพื่อแสวงหาผลประโยชน์และสินจ้างการกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นความผิดอยู่ในตัว มิใช่มีสิทธิจะขออนุญาตแต่ไม่ได้ขอซึ่งเป้นเพียงความผิดเพราะการที่ไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ยาฉีด เข็มฉีดยา ฯลฯ ของกลางที่จำเลยมีไว้ใช้ในการกระทำผิด จึงเป็นของควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรักษโรคด้วยน้ำมนต์ไม่ถือเป็นการบำบัดโรคทางจิตวิเคราะห์ตามกฎหมาย
จำเลยใช้น้ำมนต์ให้ผู้ป่วยเป็นโรคจิตอาบและกินและรับเงินเป็นค่ารักษาเป็นค่าน้ำมนต์ในการรักษาบำบัดโรคของผู้ป่วย
ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการบำบัดโรคด้วยจิตวิเคราะห์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2490มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้น้ำมนต์รักษาโรคจิต ไม่ถือเป็นการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมาย
จำเลยใช้น้ำมนต์ให้ผู้ป่วยเป็นโรคจิตอาบและกินและรับเงินเป็นค่ารักษาเป็นค่าน้ำมนตร์ในการรักษาบำบัดโรคของผู้ป่วย ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการบำบัดโรคด้วยจิตวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3.