คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการเช่าทรัพย์: การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าในที่เปลี่ยวจำเลยไม่ต้องรับผิด
จำเลยเช่าหม้อแปลงไฟฟ้าจากโจทก์แล้วถูกคนร้ายลักเอาไป ตามสัญญาผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเว้นแต่เหตุสุดวิสัย แต่หม้อแปลงไฟฟ้าที่จำเลยเช่าติดตั้งอยู่ในที่เปลี่ยวนอกที่ดินจำเลยห่างบ้านจำเลยถึงครึ่งกิโลเมตรเศษ จำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะป้องกันมิให้คนร้ายลักเอาหม้อแปลงไฟฟ้าในยามวิกาล ขณะเกิดเหตุฝนตกลมแรงซึ่งปกติไฟดับได้ การที่จำเลยไม่ออกไปตรวจดูในขณะนั้นจะถือว่าจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายไม่ได้ การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าในกรณีเช่นนี้จึงเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยไม่อาจป้องกันได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: สิทธิของเจ้าหนี้ผู้ค้ำประกันและผลของการไม่ยื่นภายในกำหนด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด ธนาคารค้ำประกันหนี้ค่าภาษีศุลกากรขาเข้าและภาษีการค้าของลูกหนี้ไว้ก่อน ถือว่ามูลหนี้เกิดขึ้นก่อนแล้ว แม้ลูกหนี้ยังไม่ถูกกรมศุลกากรเรียกให้ชำระหนี้ก็ตามธนาคารไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน จึงหมดสิทธิขอรับชำระหนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้น ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดตามคำสั่งศาลชั้นต้นธนาคารขอรับชำระหนี้ภายในสองเดือนนับแต่โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ครั้งที่สองนี้ไม่ได้ การโฆษณาคำสั่งครั้งที่สองนี้สำหรับหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องแล้วเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ค้ำประกันและการใช้สิทธิไล่เบี้ย เมื่อโจทก์ละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 695 ให้สิทธิแก่ลูกหนี้ที่จะอ้างขึ้นเถียงผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ไม่ให้ไล่เบี้ยลูกหนี้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อโจทก์ ในกรณีที่โจทก์ถูกเรียกร้องให้ชำระเงินตามภาระที่โจทก์ออกหนังสือค้ำประกันห้างหุ้นส่วนจำกัดร. ลูกหนี้ของโจทก์แล้ว จำเลยจะเป็นผู้ชดใช้ให้โจทก์ จำเลยจึงไม่ใช่ตัวลูกหนี้ แต่เป็นผู้ทำสัญญาผูกพันไว้กับโจทก์อีกส่วนหนึ่งต่างหาก จะใช้สิทธิของลูกหนี้ตามมาตรา 695 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน: สิทธิการไล่เบี้ยและการใช้สิทธิของลูกหนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 695 ให้สิทธิแก่ลูกหนี้ที่จะอ้างขึ้นเถียงผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ไม่ให้ไล่เบี้ยลูกหนี้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อโจทก์ ในกรณีที่โจทก์ถูกเรียงร้องให้ชำระเงินตามภาระที่โจทก์ออกหนังสือค้ำประกันห้างหุ้นส่วนจำกัด ร. ลูกหนี้ของโจทก์แล้ว จำเลยจะเป็นผู้ชดใช้ให้โจทก์ จำเลยจึงไม่ใช่ตัวลูกหนี้ แต่เป็นผู้ทำสัญญาผูกพันไว้กับโจทก์อีกส่วนหนึ่งต่างหาก จะใช้สิทธิของลูกหนี้ตามมาตรา 695 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าโฆษณา: สถานีวิทยุของรัฐที่หารายได้จากการโฆษณา เข้าข่ายผู้ค้า ต้องใช้ อายุความ 2 ปี
สถานีวิทยุกระจายเสียงของกองทัพเรือโจทก์หารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีวิทยุ โดยรับทำการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นปกติธุระ ค่าโฆษณามีอัตรากำหนดไว้ให้ชำระเป็นรายเดือน เงินค่าโฆษณามิได้นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ดังนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ คือการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (7) สิทธิเรียกร้องเอาเงินสินจ้างค่าโฆษณาของโจทก์จึงมีอายุความสองปี และแม้การสื่อสารเป็นราชการ กองทัพเรือซึ่งมีหน้าที่เตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักร ก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้นำอายุความสิบปีมาใช้บังคับได้ เพราะสิทธิเรียกร้องของรัฐบาลเพื่อหนี้อย่างอื่นต้องบังคับตามบทบัญญัติอายุความในเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะดังที่บัญญัติไว้มาตรา 167

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานีวิทยุของกองทัพเรือรับจ้างโฆษณา ถือเป็นผู้ค้า อายุความสิทธิเรียกร้อง 2 ปี
สถานีวิทยุกระจายเสียงของกองทัพเรือโจทก์หารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีวิทยุ โดยรับทำการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นปกติธุระค่าโฆษณามีอัตรากำหนดไว้ให้ชำระเป็นรายเดือน เงินค่าโฆษณามิได้นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ดังนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ คือการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7) สิทธิเรียกร้องเอาเงินสินจ้างค่าโฆษณาของโจทก์จึงมีอายุความสองปี และแม้การสื่อสารเป็นราชการกองทัพเรือซึ่งมีหน้าที่เตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักรก็ไม่เป็นเหตที่จะให้นำอายุความสิบปีมาใช้บังคับได้เพราะสิทธิเรียกร้องของรัฐบาลเพื่อหนี้อย่างอื่นต้องบังคับตามบทบัญญัติอายุความในเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 167

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินฝากในบัญชีเด็ก: ไม่เป็นมรดก - ไม่ต้องตั้งผู้จัดการมรดก
เงินฝากในบัญชีชื่อเด็ก โดยผู้ตายถอนได้ เงินนี้เป็นของเด็กผู้ตายไม่มีมรดกก็ไม่มีเหตุที่จะตั้งผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญา การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนอกศาลหลังการแถลงต่อศาล
จำเลยกับโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิภารจำยอมเป็นถนนผ่านที่ดินจำเลยโดยโจทก์ต้องทำถนนให้เสร็จภายในเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนสิทธิภารจำยอม ถ้าไม่ทำจนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวถือว่าสัญญาประนีประนอมยอมความยกเลิกไป และโจทก์จะต้องไปจดทะเบียนถอนภารจำยอมออกจากที่ดินดังกล่าว เมื่อต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์มิได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาศาลสอบถามโจทก์ โจทก์ยืนยันว่าได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว ศาลจึงดำเนินการไต่สวนและเดินเผชิญสืบตรวจดูสถานที่ ได้ความว่า โจทก์ไม่ได้ทำถนนแต่อย่างใดเลยโจทก์กลับมายกข้ออ้างขึ้นใหม่ภายหลังที่เดินเผชิญสืบเสร็จการไต่สวนแล้วว่ามีบันทึกซึ่งจำเลยที่ 3 ทำขึ้นนอกศาลตกลงขยายเวลาทำถนนให้โจทก์ ซึ่งขัดกับที่โจทก์แถลงไว้เดิม จึงรับฟังไม่ได้ ศาลบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนภารจำยอมออกจากโฉนดที่ดินของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาและการยกข้ออ้างภายหลังการไต่สวน
จำเลยกับโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิการจำยอมเป็นถนนผ่านที่ดินจำเลย โดยโจทก์ต้องทำถนนให้เสร็จภายในเวลา 2 นับแต่วันที่ได้จดทะเบียนสิทธิภารจำยอม ถ้าไม่ทำจนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวถือว่าสัญญาประนีประนอมยอมความยกเลิกไป และโจทก์จะต้องไปจดทะเบียนถอนภารจำยอมออกจากที่ดินดังกล่าว เมื่อต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์มิได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาศาลสอบถามโจทก์ โจทก์ยืนยันว่าได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว ศาลจึงดำเนินการไต่สวนและเดินเผชิญสืบตรวจดูสถานที่ ได้ความว่า โจทก์ไม่ได้ทำถนนแต่อย่างใดเลยโจทก์กลับมายกข้ออ้างขึ้นใหม่ภายหลังที่เดินเผชิญสืบเสร็จการไต่สวนแล้วว่ามีบันทึกซึ่งจำเลยที่ 3 ทำขึ้นนอกศาลตกลงขยายเวลาทำถนนให้โจทก์ ซึ่งขัดกันที่โจทก์แถลงไว้เดิม จึงรับฟังไม่ได้ ศาลบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนภารจำยอมออกจากโฉนดที่ดินของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินจากการซื้อขายจะซื้อขาย และอำนาจฟ้องร้องกรณีบุกรุก
ที่ดิน น.ส.3 เจ้าของทำสัญญาขายให้ผู้ซื้อโดยทำหนังสือสัญญากันเอง ได้มีการชำระราคากันบางส่วน ที่เหลือจะชำระหมดในวันจดทะเบียนการโอน แม้จะมีข้อตกลงว่าให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ในระหว่างยังไม่ได้โอนที่พิพาทนั้นก็ตาม ก็เป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายและเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ เจ้าของจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์เมื่อมีผู้บุกรุกที่ดินดังกล่าวได้
of 70