คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สีห์ คลายนสูตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแข่งขันขนส่งสาธารณะละเมิดสิทธิผู้ประกอบการประจำทาง, การกำหนดค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้
จำเลยได้รับอนุญาตประกอบการขนส่งสาธารณะด้วยรถยนต์จำเลยเดินรถยนต์รับส่งคนโดยสารทับเส้นทางที่โจทก์ได้รับการอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา14เป็นละเมิดต่อโจทก์ โจทก์นำสืบค่าเสียหายแน่นอนไม่ได้ศาลกำหนดให้ตามที่โจทก์ได้รับจากผู้ที่นำรถมาร่วมรับส่งคนโดยสารกับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ความผิดฐานซื้อและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จลงแล้วนั่นเองการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทเพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การซื้อและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จลงแล้วนั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีที่ดิน: บุตรนอกกฎหมายต้องได้รับการรับรองเพื่อมีสิทธิรับมรดก
ตามคำฟ้องโจทก์กล่าวอ้างแต่เพียงว่า โจทก์ทั้งสี่เป็นบุตร นอกกฎหมายของ ม. และก่อนถึงแก่กรรม ม. บิดาโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท มิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ทั้งสี่มีสิทธิรับมรดกที่ดินพิพาทแปลงนี้ในฐานะอะไร เพราะบุตรนอกกฎหมายที่มีสิทธิรับมรดกของบิดาได้จะต้องเป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้วดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1627แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ก็ไม่ปรากฏว่าพฤติการณ์อันใดที่แสดงว่าโจทก์ทั้งสี่เป็นบุตร นอกกฎหมาย ที่บิดารับรองแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับ ที่ดินแปลงนี้ และเรื่องอำนาจฟ้องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้าง หากแต่ศาลพิจารณาเห็นสมควรย่อมมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่: หนังสือมอบอำนาจยังไม่สิ้นสุด แม้มีการถอนฟ้องคดีก่อนหน้า
โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ในคดีหนึ่งไปครั้งหนึ่งแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยมีสิทธิ อยู่ต่อไปชั่วเวลามีกำหนด โจทก์จึงถอนฟ้องอ้างว่ายังไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับจำเลย ต่อมา อ.ใช้หนังสือมอบอำนาจนั้นฟ้องจำเลยคดีนี้ เช่นนี้กิจการที่โจทก์มอบอำนาจให้ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทยังไม่เสร็จสิ้นและโจทก์ยังมิได้ถอนหรือบอกเลิกการมอบอำนาจ อ.มีหน้าที่ฟ้องขับไล่จำเลยตามที่ได้รับมอบอำนาจ จึงใช้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวฟ้องขับไล่จำเลยในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์เกิน 10 ปี แม้ไม่ได้แจ้งการครอบครองหรือเสียภาษี
การที่โจทก์ปลูกเรือนอยู่ในที่พิพาทโดยสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาเกินกว่าสิบปี จึงได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382นั้น แม้โจทก์ไม่เคยแจ้งการครอบครองที่ดิน ไม่เคยเสียภาษีบำรุงท้องที่และเมื่อมีการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเพื่อโอนทางทะเบียนก็ไม่เคยโต้แย้งหรือคัดค้านแต่อย่างใด ก็ไม่เป็นเหตุให้โจทก์เสียสิทธิที่มีอยู่กับที่พิพาทไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการเกิดไม่ใช่การยอมรับความเป็นบุตร เจ้าหน้าที่รับแจ้งไม่มีหน้าที่สืบสวน
การที่ ล. ไปแจ้งการเกิดของโจทก์ตามสูติบัตรว่าโจทก์เป็นบุตร ล. กับ ส. นั้นจะสันนิษฐานว่าโจทก์เป็นบุตรล.บิดากับส. มารดายังไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งการเกิดมีหน้าที่แต่เพียงรับแจ้งเท่านั้นไม่มีหน้าที่สืบสวนความจริงก่อนรับแจ้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินมัดจำจากการขายทอดตลาดบังคับคดี: สิทธิของเจ้าหนี้และการจัดการเงินหลังการยกเลิกการขาย
เงินที่ผู้ประมูลซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดได้นำมาวางศาลเป็นเงินมัดจำนั้น แม้ผู้ซื้อผิดสัญญาและศาลสั่งริบเงินมัดจำ ก็หาทำให้เงินที่ศาลสั่งริบตกเป็นรายได้ของแผ่นดินไม่ แต่ถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวนี้เป็นเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ในการบังคับคดี ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะได้รวบรวมไว้ เพื่อเอาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
เมื่อการขายทอดตลาดยังไม่แล้วเสร็จ ศาลชั้นต้นสั่งให้ขายทอดตลาดใหม่ แม้ว่าเงินมัดจำที่ศาลสั่งริบจะถือว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้ โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิขอรับไปจากศาล แต่จะต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินให้เสร็จและหักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีไว้เสียก่อน จึงจะจ่ายเงินให้แก่โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 318, 319

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินมัดจำจากการขายทอดตลาดบังคับคดี: สิทธิของเจ้าหนี้และขั้นตอนการรับชำระหนี้
เงินที่ผู้ประมูลซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดได้นำมาวางศาลเป็นเงินมัดจำนั้น แม้ผู้ซื้อผิดสัญญาและศาลสั่งริบเงินมัดจำ ก็หาทำให้เงินที่ศาลสั่งริบตกเป็นรายได้ของแผ่นดินไม่ แต่ถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวนี้เป็นเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ในการบังคับคดีซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะได้รวบรวมไว้เพื่อเอาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
เมื่อการขายทอดตลาดยังไม่แล้วเสร็จ ศาลชั้นต้นสั่งให้ขายทอดตลาดใหม่ แม้ว่าเงินมัดจำที่ศาลสั่งริบจะถือว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิขอรับไปจากศาล แต่จะต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินให้เสร็จและหักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีไว้เสียก่อน จึงจะจ่ายเงินให้แก่โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 318,319

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเงินตราเข้าประเทศเกิน 500 บาทโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่ความผิดฐานมีทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด จึงไม่ริบได้
การที่จำเลยนำเงินตราซึ่งเป็นธนบัตรไทยจำนวนหกพันบาทเข้ามาในประเทศเป็นความผิดเพราะมีจำนวนเกินกว่าห้าร้อยบาทนั้น ความผิดอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหาใช่เงินตราดังกล่าวเป็นของผิดกฎหมายที่ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดไม่จึงริบเงินตราไม่ได้
of 12