พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,151 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2787/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมรดก: ศาลฎีกายกฟ้องเมื่อข้อเท็จจริงไม่สนับสนุนการเป็นส่วนหนึ่งของมรดก
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายที่โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกเมื่อศาลฎีกาฟังว่าที่พิพาทมิได้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดกแล้ว แม้ในชั้นฎีกาจะมีเพียงโจทก์และจำเลยที่ 2 เป็นฎีกา โดยจำเลยที่ 1 มิได้ฎีกาด้วยแต่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยให้มีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2787/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมรดก: การพิสูจน์ความเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดก และผลกระทบต่อจำเลยที่ไม่ฎีกา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายที่โจทก์เป็นผู้จัดการมรดก เมื่อศาลฎีกาฟังว่าที่พิพาทมิได้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดกแล้ว แม้ในชั้นฎีกาจะมีเพียงโจทก์และจำเลยที่ 2 เป็นฎีกา โดยจำเลยที่ 1 มิได้ฎีกาด้วยแต่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยให้มีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2787/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมรดก: ศาลฎีกายกฟ้องกรณีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์และสิ่งปลูกสร้าง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายที่โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกเมื่อศาลฎีกาฟังว่าที่พิพาทมิได้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดกแล้วแม้ในชั้นฎีกาจะมีเพียงโจทก์และจำเลยที่2เป็นฎีกาโดยจำเลยที่1มิได้ฎีกาด้วยแต่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยให้มีผลถึงจำเลยที่1ซึ่งมิได้ฎีกาด้วยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2763/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยเลี้ยงต่างจังหวัดไม่ถือเป็นค่าทำงานวันหยุด หากจำเลยไม่ได้สั่งให้ทำงานในวันหยุด
การที่จำเลยอนุมัติให้จ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้โจทก์ตามจำนวนวันที่ออกไปปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัด เป็นการให้เงินตอบแทนการทำงานในช่วงเวลาที่ทำงานในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานปกติหรือวันหยุดประจำสัปดาห์มีลักษณะเช่นเดียวกับเงินเดือน และจำเลยก็มิได้มีคำสั่งหรือระบุเจาะจงว่า โจทก์จะต้องทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ แต่เป็นดุลพินิจของโจทก์ที่จะเลือกปฏิบัติงานในวันใดเวลาใดก็ได้ในระหว่างช่วงเวลานั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุด โจทก์ไม่มีสิทธิได้ค่าทำงานในวันหยุดในช่วงเวลาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2763/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยเลี้ยงต่างจังหวัดไม่ถือเป็นค่าทำงานวันหยุด หากจำเลยไม่ได้สั่งให้ทำงานในวันหยุด
การที่จำเลยอนุมัติให้จ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้โจทก์ตามจำนวนวันที่ออกไป ปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัด เป็นการให้เงินตอบแทนการทำงานในช่วงเวลา ที่ทำงานในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานปกติหรือวันหยุดประจำสัปดาห์ มีลักษณะเช่นเดียวกับเงินเดือน และจำเลยก็มิได้มีคำสั่งหรือระบุเจาะจงว่า โจทก์จะต้องทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ แต่เป็นดุลพินิจของโจทก์ที่จะเลือกปฏิบัติงานในวันใดเวลาใดก็ได้ในระหว่างช่วงเวลานั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุด โจทก์ไม่มีสิทธิได้ ค่าทำงานในวันหยุดในช่วงเวลาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดมีส่วนร่วมจัดการธุรกิจ ทำให้ต้องรับผิดชอบหนี้สินไม่จำกัดตามกฎหมาย
หนังสือรับรองการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่1ปรากฏข้อจำกัดอำนาจของหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่2ว่าในการทำนิติกรรมผูกพันกับบุคคลภายนอกจะต้องให้ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นคือจำเลยที่3ที่4ยินยอมด้วยเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อนเช่นนี้เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าจำเลยที่3ที่4ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้สอดเข้าไปเกี่ยวข้องในการจัดการงานของห้างแล้วมีผลทำให้จำเลยทั้งสองต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างจำเลยที่1โดยไม่จำกัดจำนวนตามป.พ.พ.มาตรา1088 คำสั่งของศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวจนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาเป็นเวลาถึง20กว่าวันจำเลยไม่โต้แย้งคัดค้านคำสั่งดังกล่าวไว้จึงหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้าง: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลการเลิกจ้างเพื่อตัดสินว่าต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่ แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องเล็กน้อย
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่2มกราคม2529ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่6ธันวาคม2528ตามข้อต่อสู้ของจำเลยดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้องศาลจะต้องพิจารณาต่อไปว่าการเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่6ธันวาคม2528เป็นเพราะโจทก์ได้กระทำความผิดดังข้อต่อสู้ของจำเลยอันจะทำให้จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ตามประเด็นที่ศาลได้ตั้งไว้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้าง: ศาลต้องพิจารณาเหตุเลิกจ้างที่แท้จริงเพื่อวินิจฉัยสิทธิค่าชดเชยและสินจ้าง
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2529 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2528 ตามข้อต่อสู้ของจำเลย ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้อง ศาลจะต้องพิจารณาต่อไปว่าการเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2528 เป็นเพราะโจทก์ได้กระทำความผิดดังข้อต่อสู้ของจำเลยอันจะทำให้จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ ตามประเด็นที่ศาลได้ตั้งไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างและการพิจารณาเหตุผลเลิกจ้างเพื่อไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าสินจ้างทดแทน
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่2 มกราคม 2529 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2528 ตามข้อต่อสู้ของจำเลย ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้อง ศาลจะต้องพิจารณาต่อไปว่าการเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2528เป็นเพราะโจทก์ได้กระทำความผิดดังข้อต่อสู้ของจำเลยอันจะทำให้จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ ตามประเด็นที่ศาลได้ตั้งไว้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2742/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งค่าฤชาธรรมเนียม พิจารณาจากเหตุผลและความสุจริตของคู่ความ
ความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงเหตุผลและความสุจริตในการดำเนินกระบวนพิจารณาและ ต่อสู้คดีของคู่ความ ไม่จำต้องให้จำเลยชำระแทนเท่าทุนทรัพย์ ที่โจทก์ชนะคดี หรือจำเลยแต่ละคนต้องชำระตามส่วนใน คำพิพากษา ที่ศาลล่างเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งรับผิด ต่อโจทก์อันเนื่องมาจากมูลละเมิด และจำเลยที่ 3 ซึ่งรับผิด ต่อโจทก์ตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย แต่ ไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดแทนโจทก์ชอบแล้ว