พบผลลัพธ์ทั้งหมด 540 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3362/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์ที่อายัด: ต้องยื่นคำขอภายใน 3 เดือนนับจากวันอายัด หากเกินกำหนดไม่มีสิทธิ
ระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไปยังธนาคาร ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและได้มีคำสั่งกำหนดให้ธนาคารส่งเงินที่โจทก์ขออายัดมาภายใน 7 วัน ธนาคารได้ส่ง เงินที่ศาลอายัดมาให้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2525 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นได้ยื่นคำร้อง ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2525 ขอเฉลี่ยเงินที่ธนาคารส่ง มา ดังนี้เป็นกรณีที่ผู้ร้องเพิ่งมายื่นคำร้องภายหลัง ที่ธนาคารส่งเงินมา ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะขอ เฉลี่ยทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสี่ แม้ศาลจะได้สั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยเงินรายนี้ไปก่อน แล้ว เมื่อศาลเห็นว่าเป็นการผิดระเบียบ ก็อาจสั่งให้ เพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และแม้โจทก์จะไม่คัดค้านมาก่อน หรือมาคัดค้านใน ตอนหลัง ก็หาลบล้างอำนาจของศาลในเรื่องนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3362/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์ที่อายัดหลังชำระหนี้เกินกำหนดตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไปยังธนาคาร ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและได้มีคำสั่งกำหนดให้ธนาคารส่งเงินที่โจทก์ขออายัดมาภายใน 7 วัน ธนาคารได้ส่งเงินที่ศาลอายัดมาให้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2525 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นได้ยื่นคำร้อง ในวันที่ 8 พฤศจิกายน2525 ขอเฉลี่ยเงินที่ธนาคารส่ง มา ดังนี้เป็นกรณีที่ผู้ร้องเพิ่งมายื่นคำร้องภายหลัง ที่ธนาคารส่งเงินมา ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะขอ เฉลี่ยทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคสี่
แม้ศาลจะได้สั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยเงินรายนี้ไปก่อน แล้วเมื่อศาลเห็นว่าเป็นการผิดระเบียบ ก็อาจสั่งให้ เพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และแม้โจทก์จะไม่คัดค้านมาก่อน หรือมาคัดค้านใน ตอนหลัง ก็หาลบล้างอำนาจของศาลในเรื่องนี้ไม่
แม้ศาลจะได้สั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยเงินรายนี้ไปก่อน แล้วเมื่อศาลเห็นว่าเป็นการผิดระเบียบ ก็อาจสั่งให้ เพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และแม้โจทก์จะไม่คัดค้านมาก่อน หรือมาคัดค้านใน ตอนหลัง ก็หาลบล้างอำนาจของศาลในเรื่องนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3263/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีอนาถาและการจำวันนัด: ผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
จำเลยไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าจำเลยไม่มีพยานให้ศาลไต่สวนให้ได้ความว่าจำเลยเป็นคนอนาถาให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์เสียเท่ากับวินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำร้องของจำเลยแล้วว่าจำเลยไม่ใช่คนอนาถาต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยได้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา อ้างเหตุว่าจำวันนัดผิดพลาด การขาดนัดไต่สวนคำร้องมิได้เป็นไปโดยเจตนาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยจะอ้างเหตุว่าจำวันนัดคลาดเคลื่อนมาเป็นข้ออ้างหาได้ไม่ให้ยกคำร้องของจำเลยเสีย ดังนี้ย่อมมีผลเช่นเดียวกับคำสั่งเดิมที่ว่าจำเลยไม่ใช่คนอนาถา เมื่อจำเลยอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: ที่ดินถูกล้อมต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ แม้ทางนั้นไม่ติดทางสาธารณะโดยตรง
ทางจำเป็นหาจำต้องเชื่อมต่อกับทางสาธารณะโดยตรงไม่ความมุ่งหมายที่สำคัญคือให้ที่ดินที่ถูกล้อมอยู่นั้นมีทางออกถึงทางสาธารณะได้ ถ้าโจทก์ผ่านทางพิพาทได้ โจทก์ก็สามารถใช้รถยนต์ไปตามทางจนในที่สุดไปถึงทางสาธารณะได้ ทางพิพาทจึงเป็นทางจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: ที่ดินถูกล้อมมีสิทธิผ่านที่ดินอื่นเพื่อออกสู่ทางสาธารณะ แม้ทางนั้นไม่ติดทางสาธารณะโดยตรง
ทางจำเป็นหาจำต้องเชื่อมต่อกับทางสาธารณะโดยตรงไม่ความมุ่งหมายที่สำคัญคือให้ที่ดินที่ถูกล้อมอยู่นั้นมีทางออกถึงทางสาธารณะได้
ถ้าโจทก์ผ่านทางพิพาทได้ โจทก์ก็สามารถใช้รถยนต์ไปตามทางจนในที่สุดไปถึงทางสาธารณะได้ ทางพิพาทจึงเป็นทางจำเป็น
ถ้าโจทก์ผ่านทางพิพาทได้ โจทก์ก็สามารถใช้รถยนต์ไปตามทางจนในที่สุดไปถึงทางสาธารณะได้ ทางพิพาทจึงเป็นทางจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3259/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสัตว์พาหนะต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นกรรมสิทธิ์ไม่โอน ผู้ซื้อไม่เป็นเจ้าของ
การซื้อขายสัตว์พาหนะถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมตกเป็นโมฆะ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคแรก เมื่อผู้ร้องซื้อโคของกลางซึ่งเป็นสัตว์พาหนะมา แต่การซื้อขายมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย กรรมสิทธิ์จึงยังไม่โอนมาเป็นของผู้ร้องทั้งผู้ร้องยังมิได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าของแท้จริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36ที่จะขอให้ศาลสั่งคืนโคของกลางที่ถูกริบแก่ผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3233/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดี: ความรับผิดชอบของเสมียนทนาย และผลของการไม่ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเวลา 8.30 นาฬิกา โจทก์จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว ครั้นถึงกำหนดนัดโจทก์จำเลยไม่มาศาลโดยไม่มีฝ่ายใดร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 200 ดังนี้ โจทก์จะมาร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวโดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เนื่องจากได้มอบให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่เสมียนทนายเชื่อตามบัญชีนัดความซึ่งปิดไว้ที่กระดานหน้าศาลที่ระบุว่าศาลนัดพิจารณาตอนบ่าย จึงมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในตอนเช้า หาได้ไม่ เพราะเสมียนทนายโจทก์ชอบที่จะยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลตามที่ได้รับมอบหมาย การที่เสมียนทนายโจทก์ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำจะถือว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยผิดระเบียบหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3233/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: หน้าที่ของทนายความและเสมียนทนายในการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเวลา 8.30 นาฬิกา โจทก์จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว ครั้นถึงกำหนดนัดโจทก์จำเลยไม่มาศาลโดยไม่มีฝ่ายใดร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 200 ดังนี้ โจทก์จะมาร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวโดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เนื่องจากได้มอบให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่เสมียนทนายเชื่อตามบัญชีนัดความซึ่งปิดไว้ที่กระดานหน้าศาลที่ระบุว่าศาลนัดพิจารณาตอนบ่าย จึงมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในตอนเช้า หาได้ไม่ เพราะเสมียนทนายโจทก์ชอบที่จะยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลตามที่ได้รับมอบหมาย การที่เสมียนทนายโจทก์ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำจะถือว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยผิดระเบียบหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3161/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงในสัญญากู้ที่ให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกเงินกู้ก่อนกำหนดได้ ย่อมใช้บังคับได้หากเกิดจากความสมัครใจของผู้กู้
สัญญากู้มีข้อความว่า "ผู้กู้ตกลงจะชำระหนี้ตามสัญญานี้ภายในวันที่ 10 เดือนเมษายน พ.ศ.2524 แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้ให้กู้ที่จะเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระหนี้ตามสัญญานี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ก่อนกำหนดที่กล่าวมาก็ได้ตามแต่ผู้ให้กู้จะเห็นสมควรและโดยมิพักต้องชี้แจงแสดงเหตุ ผู้กู้สัญญาว่าในกรณีที่ผู้ให้กู้เรียกร้องดังกล่าวมานี้ผู้กู้จะชำระหนี้ตามเรียกร้องทันที" ดังนี้ แม้ผู้กู้จะเสียเปรียบผู้ให้กู้ แต่ข้อตกลงดังกล่าวก็เกิดขึ้นด้วยใจสมัครของลูกหนี้เอง หาเกี่ยวกับสังคมหรือประชาชนไม่จึงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใดเป็นข้อสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ผู้ให้กู้จึงฟ้องเรียกเงินกู้คืนก่อนครบกำหนดเวลาตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3144/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์โดยมีอาวุธ แต่ไม่มีการขู่เข็ญโดยตรง ศาลลดโทษจากปล้นทรัพย์เป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายได้ยินเสียงคนงัดประตูใต้ถุนบ้านจึงเปิดไฟฟ้าใต้ถุนบ้านแล้วมองดูทางช่องพื้นบ้าน เห็นจำเลยกับพวกถือปืนคนละกระบอกยืนอยู่แล้วไฟฟ้าดับลงโดยได้ยินเสียงตูมเข้าใจว่าคนร้ายตีหลอดไฟแตกผู้เสียหายกลัวจึงกระโดดบ้านหนี ดังนี้ จำเลยกับพวกยังไม่ได้เข้ามาถึงตัวผู้เสียหายและยังไม่เห็นตัวผู้เสียหาย ยังไม่ได้ขู่เข็ญจะประทุษร้ายผู้เสียหายด้วยประการใดๆเลย แม้จะมีปืนมาด้วยก็ยังไม่ได้แสดงปืนนั้นให้ผู้เสียหายเห็น เป็นเรื่องผู้เสียหายแอบเห็นเอง การตีหลอดไฟฟ้าแตกก็คงประสงค์จะให้ไฟฟ้าดับไม่ให้ใครเห็นและจำได้เท่านั้น จะถือว่าเป็นการขู่เข็ญจะประทุษร้ายก็ยังไม่ได้ ตอนที่พวกของจำเลยขึ้นไปเอาทรัพย์บนบ้านผู้เสียหายก็ไม่ได้ถือปืนหรือขู่เข็ญจะทำร้ายใคร การกระทำของจำเลยกับพวกจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์เท่านั้น มิใช่ความผิดฐานปล้นทรัพย์