พบผลลัพธ์ทั้งหมด 134 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิบอกล้างนิติกรรมจำนองที่ไม่สุจริต และกำหนดเวลาไถ่ถอนที่สมเหตุสมผล
สามีให้ภรรยามีชื่อในโฉนดแต่ผู้เดียวแล้วเอาไปจำนองผู้อื่นไว้หลายครั้ง ก่อนมาทำจำนองกับโจทก์ บัดนี้อ้างว่าภรรยาจำนองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอบอกล้างดังนี้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตบอกล้างไม่ได้
ผู้รับจำนองบอกกล่าวให้ผู้จำนองไถ่ถอนภายใน 10 วัน โดยเคยทวงถามหลายครั้งแล้วดังนี้ ถือได้ว่ากำหนดเวลานั้นพอสมควรแล้ว
ผู้รับจำนองบอกกล่าวให้ผู้จำนองไถ่ถอนภายใน 10 วัน โดยเคยทวงถามหลายครั้งแล้วดังนี้ ถือได้ว่ากำหนดเวลานั้นพอสมควรแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการสินสมรส และขอบเขตการค้าของภรรยา
การที่สามีไปต่างประเทศไม่ถือว่าเป็นการละทิ้งภรรยา ภรรยาจึงไม่มีอำนาจทำการผูกพันสินบริคณห์ตามลำพัง
ภรรยาได้รับอนุญาตให้ค้าโลงศพ จะเอาห้องที่เช่าทำการค้านั้นไปให้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการนอกกิจการค้า
ภรรยาได้รับอนุญาตให้ค้าโลงศพ จะเอาห้องที่เช่าทำการค้านั้นไปให้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการนอกกิจการค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำสัญญาของภริยาเมื่อสามีไม่อยู่ และขอบเขตกิจการค้าที่ผูกพันสินสมรส
การที่สามีไปต่างประเทศถือว่าเป็นการละทิ้งภรรยา ภรรยาจึงไม่มีอำนาจทำการผูกพันสินบริคณห์ตามลำพัง
ภรรยาได้รับอนุญาตให้ค้าโลงศพ จะเอาห้องที่เช่าทำการค้านั้นไปให้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการนอกกิจการค้า
ภรรยาได้รับอนุญาตให้ค้าโลงศพ จะเอาห้องที่เช่าทำการค้านั้นไปให้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการนอกกิจการค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหนี้จากการกู้เงินโดยภรรยาโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามี และการแยกสินบริคณห์
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง.
เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรส ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆียะ และเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากสินสมรส
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างนิติกรรมโมฆียะและการเรียกร้องเงินจากกองมฤดก: ผู้รับมรดกต้องรับผิดในหนี้สิน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้ว หญิงต้องคืนเงินนั้นตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมโมฆียะ การบอกล้าง และการคืนเงิน - หนี้สินที่เกิดจากตัวแทน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้วหญิงต้องคืนเงินนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมรดกใช้เงินไม่ได้ ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมรดกใช้เงินไม่ได้ ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกสินบริคนห์เพื่อใช้หนี้และการฟ้องซ้ำ สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์สินบริคนห์
เจ้าหนี้ยึดสินบริคนห์ระหว่างจำเลยกับสามีสามีร้องขัดทรัพย์อ้างว่านิติกัมที่ภรรยาทำเปนโมคียะ ไม่ผูกพันสินบริคนห์สาลสั่งถอนการยึดไปตามคำร้องขัดทรัพย์ เจ้าหนี้มาฟ้องขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยานั้นไหม่ได้ ไม่เปนฟ้องซ้ำ
เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคนห์ของลูกหนี้ตาม ม. 1483 นั้นไม่จำต้องขอขนะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้สาลไห้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้
ไนกรนีที่ขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อไช้หนี้ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายไห้คนพายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารนาว่าจิงหรือไม่ เพราะถ้าจิงก็ไม่ไช่สินบริคนห์จะขอแยกไม่ได้.
เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคนห์ของลูกหนี้ตาม ม. 1483 นั้นไม่จำต้องขอขนะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้สาลไห้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้
ไนกรนีที่ขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อไช้หนี้ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายไห้คนพายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารนาว่าจิงหรือไม่ เพราะถ้าจิงก็ไม่ไช่สินบริคนห์จะขอแยกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกสินบริคณห์เพื่อใช้หนี้: สิทธิเจ้าหนี้และการต่อสู้ของจำเลย
เจ้าหนี้ยึดสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามี สามีร้องขัดทรัพย์อ้างว่านิติกรรมที่ภรรยาทำเป็นโมฆียะ ไม่ผูกพันสินบริคณห์ ศาลสั่งถอนการยึดไปตามคำร้องขัดทรัพย์เจ้าหนี้มาฟ้องขอแยกสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยานั้นใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคณห์ของลูกหนี้ตาม มาตรา 1483นั้นไม่จำต้องขอขณะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้ศาลให้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้ ในกรณีที่ขอแยกสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อใช้หนี้ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายให้บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าจริงหรือไม่ เพราะถ้าจริงก็ไม่ใช่สินบริคณห์จะขอแยกไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2486)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมสัญญาโดยผู้เยาว์ ไม่ถือเป็นการรับสภาพหนี้
บิดาจำเลยตาย. โจทก์จำเลยได้ตกลงแปลงหนี้ใหม่. คือแปลงหนี้ที่บิดาจำเลยเป็นหนี้สามีโจทก์มาเป็นสัญญาที่จำเลยจะขายที่ดินให้โจทก์. แต่ภายหลังจำเลยได้บอกล้างโมฆียะกรรมเพราะในขณะจำเลยทำสัญญาเป็นผู้เยาว์. เช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้เดิมหรือให้สัตยาบันอันจะทำให้อายุความมรดกสะดุดหยุดลง.