คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 ม. 20 ตรี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักร
จำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อขายจำหน่ายจ่ายแจก และถูกเจ้าพนักงานจับได้ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพพร้อมเฮโรอีนของกลาง ขณะที่กำลังจะเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นโดยเครื่องบิน โดยกำลังติดต่อตรวจสอบตั๋วเครื่องบินกับเจ้าหน้าที่สายการบินอยู่ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 พยายามนำเฮโรอีนของกลางดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักรเพื่อขายจำหน่ายหรือจ่ายแจก และการกระทำของจำเลยที่ 1เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทเพราะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกัน
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดทั้งหมดในคราวเดียว ถือเป็นความผิดกรรมเดียว
การมีเฮโรอีนจำนวนหนึ่ง แล้วจำหน่ายเฮโรอีนจำนวนนั้นไปทั้งหมดในคราวเดียวเป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2065/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การจำหน่ายเฮโรอีนเป็นกรรมเดียวกับมีเฮโรอีนในครอบครอง
ขณะจำเลยขายเฮโรอีนจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อเสร็จก็ถูกจับกุมและค้นไม่พบเฮโรอีนอีก เมื่อเฮโรอีนที่จำเลยขายไปนั้น เป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันกับที่โจทก์อ้างว่าจำเลยมีไว้ในครอบครอง หาใช่จำเลยมีเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2065/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีนจำนวนเดียวกัน
ขณะจำเลยขายเฮโรอีนจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อเสร็จก็ถูกจับกุมและค้นไม่พบเฮโรอีนอีก เมื่อเฮโรอีนที่จำเลยขายไปนั้นเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันกับที่โจทก์อ้างว่าจำเลยมีไว้ในครอบครอง หาใช่จำเลยมีเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: การพิจารณาความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายกับการจำหน่ายไปแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง และจำเลยบังอาจจำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อโดยมิได้รับอนุญาต เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าร้อยตำรวจโทส.วางแผนให้สิบตำรวจตรีอ. และนายอ. เข้าไปซื้อเฮโรอีนจากจำเลย จำเลยนำเฮโรอีนมาส่งมอบและรับเงินก็เข้าจับกุมจำเลยได้ในทันทีทันใดนั้น จำเลยคงมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 มาตรา 20ทวิ ไม่ผิดตามมาตรา 20ตรี ด้วย เพราะเฮโรอีนที่จำเลยมีนั้นจำเลยได้จำหน่ายไปทั้งหมดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกในคดียาเสพติด: การเปลี่ยนแปลงโทษเล็กน้อยทำให้ไม่สามารถฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ตรี จำคุก 1 ปี และตามมาตรา 20 ทวิ จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 6 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานมีไว้เพื่อขายและขายยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษคดียาเสพติดโดยศาลอุทธรณ์: ข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 มาตรา 20ตรี จำคุก 1 ปีและตามมาตรา 20ทวิ จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานมีไว้เพื่อขายและขายยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465. มาตรา 20ทวิ จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามส่งยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร แม้ไม่ได้อ้างบทลงโทษเฉพาะก็ลงโทษได้
เจ้าพนักงานสืบทราบว่า จำเลยกับพวกร่วมกันมีและส่งยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักรโดยทางเครื่องบินมาหลายครั้งแล้ว วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยกับพวกจะส่งไปอีก จึงพากันไปซุ่มดักรออยู่ในบริเวณที่จอดรถชั้นล่างของห้องโดยสารขาออกของทางอากาศยานดอนเมืองที่จำเลยเคย นำรถมาจอด เมื่อจำเลยขับรถเก๋งมาจอด ณ ที่นั่น เจ้าพนักงานจึงตรวจค้น พบเฮโรอีน 32 ถุง ฝิ่นสุก 15 ห่อ รวม 30 กว่ากิโลกรัม มีราคาถึง 520,000 บาทเศษ การจับกุมดังนี้มิได้กระทำโดยบังเอิญ ปริมาณของของกลางตลอดจนสถานที่ที่นำมาบ่งชัดว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย ตามพฤติการณ์ก็น่าเชื่อถือว่าจำเลยกับพวกได้นัดแนะกันมาก่อนแล้ว เพียงแต่รอนำของกลางนี้ขึ้นไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกชั้นบนเพื่อส่งออกทางเครื่องบินเท่านั้น การกระทำของจำเลยกับพวกเข้าขั้นลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่ไม่บรรลุผลเพราะแจ้งพนักงานจับกุมเสียก่อน จึงมีความผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนและฝิ่นออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย
โจทก์บรรยายฟ้องมาแจ้งชัดว่า จำเลยพยายามส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย และอ้างมาตรา 4 ทวิ อันเป็นบทห้ามกระทำผิดแล้ว แม้จะไม่ได้อ้างมาตรา 20 ซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วย โดยอ้างแต่มาตรา 20 ตรีมาเพียงบทเดียว ศาลก็ลงโทษตามมาตรา 20 วรรคสี่ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ทั้ง 2 วรรค)ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13-15/2519

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามส่งยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร และการลงโทษตามบทฟ้อง แม้ไม่อ้างบทลงโทษโดยตรง
เจ้าพนักงานสืบทราบว่า จำเลยกับพวกร่วมกันมีและส่งยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักรโดยทางเครื่องบินมาหลายครั้งแล้ว วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยกับพวกจะส่งไปอีก จึงพากันไปซุ่มดักรออยู่ในบริเวณที่จอดรถชั้นล่างของห้องผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานดอนเมืองที่จำเลยเคยนำรถมาจอด เมื่อจำเลยขับรถเก๋งมาจอด ณ ที่นั้น เจ้าพนักงานจึงตรวจค้น พบเฮโรอีน 32 ถุง ฝิ่นสุก 15 ห่อ รวม 30 กว่ากิโลกรัม มีราคาถึง520,000 บาทเศษ การจับกุมดังนี้มิใช่กระทำโดยบังเอิญ ปริมาณของของกลางตลอดจนสถานที่ที่นำมาบ่งชัดว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย ตามพฤติการณ์ก็น่าเชื่อว่าจำเลยกับพวกได้นัดแนะกันมาก่อนแล้ว เพียงแต่รอนำ ของกลางขึ้นไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกชั้นบนเพื่อส่งออกทางเครื่องบินเท่านั้น การกระทำของจำเลยกับพวกเข้าขั้นลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่ไม่บรรลุผลเพราะเจ้าพนักงานจับกุมเสียก่อน จึงมีความผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนและฝิ่นออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย
โจทก์บรรยายฟ้องมาแจ้งชัดว่า จำเลยพยายามส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย และอ้างมาตรา 4 ทวิ อันเป็นบทห้ามกระทำผิดแล้ว แม้จะไม่ได้อ้างมาตรา20 ซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วย โดยอ้างแต่มาตรา 20 ตรีมาเพียงบทเดียว ศาลก็ลงโทษตามมาตรา 20 วรรคสี่ได้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ทั้ง 2 วรรค)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดต่างกรรมกัน ศาลต้องลงโทษทุกกระทง
มียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอินไฮโดรคลอไรด์ไว้ในความครอบครองจำนวนหนึ่ง และจำหน่ายเฮโรอีนนั้นบางส่วนไป เป็นการกระทำความผิดสองกรรมต่างกัน
of 3