คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 145 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2865/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ผูกพันจำเลยที่ถูกจำหน่ายคดีแล้ว
โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลอนุญาตและสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แล้ว ต่อมาโจทก์กับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน สัญญาดังกล่าวถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้กระทำในฐานะคู่ความแห่งคดี คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสองศาลจะออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 หาได้ไม่
ปัญหาว่าคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันจำเลยที่ 2 หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2865/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันเฉพาะคู่ความในคดี การถอนฟ้องทำให้จำเลยที่ 2 พ้นสภาพ
ก่อนโจทก์กับจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโจทก์ได้ขอถอน ฟ้อง สำหรับจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาตและให้จำหน่ายคดีเฉพาะ จำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 จึงมิได้เป็นคู่ความในคดีอีกต่อไปสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยที่ 2 กระทำกับโจทก์ถือไม่ได้ว่าได้กระทำในฐานะคู่ความแห่งคดี คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว จึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 วรรคสอง ศาลจะออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยที่ 3 หาได้ไม่ และปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาที่ผูกพันบริวาร และสิทธิในการขอให้บังคับคดีใหม่ แม้จะถอนคำร้องไปก่อน
ศาลฟ้องขับไล่ในชั้นบังคับคดี ศาลชั้นต้นแนะนำว่าโจทก์ควรดำเนินคดีกับผู้ร้องใหม่เพราะเลขบ้านเป็นคนละเลขกับที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ โจทก์แถลงว่าเห็นด้วยและไม่ติดใจบังคับคดีสำหรับผู้ร้องทั้ง 5 คน โดยโจทก์จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นต่างหาก โจทก์ขอถอนการบังคับคดีศาลอนุญาต แม้โจทก์ยอมรับจะทำดังนั้น หาใช่เป็นการสละสิทธิไม่บังคับคดีไม่โจทก์ยังต้องการที่จะให้ผู้เช่าหรือผู้อยู่ในสิ่งปลูกสร้างของจำเลยออกไป เพื่อจำเลยจะได้รื้อออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามคำบังคับ เป็นแต่ว่าจะหาวิธีบังคับในคดีนี้ได้หรือว่าจะต้องฟ้องใหม่เมื่อโจทก์เห็นว่ายังมีทางบังคับในคดีนี้ได้ โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีในคดีนี้ได้อีก เพราะตราบใดที่จำเลยและบริวารยังอยู่บนที่ดินของโจทก์ ยังมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับโจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้จะร้องขอให้บังคับคดีมาแล้วไม่เป็นผลก็ขอให้บังคับคดีใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเฉพาะคู่กรณี และสิทธิในการโต้แย้งของบุคคลภายนอก
คำพิพากษาย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น
คดีนี้โจทก์ชนะคดีจำเลยตามคำพิพากษาและได้ยึดเงินจำเลยไว้จำนวนหนึ่งแต่มีผู้ร้องอีก 7 รายซึ่งต่างเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้โจทก์คัดค้านว่าผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำเลยได้กู้เงินผู้ร้องทั้ง 7 รายไปเป็นการส่วนตัวและได้สมยอมกับผู้ร้องแกล้งเอานามของห้างหุ้นส่วนเข้าเป็นจำเลยในคดีเพื่อให้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและอ้างเหตุอื่นอีกหลายประการว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้
ดังนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิด้วยเหตุต่างๆ ดังกล่าวนั้นเพราะคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องกู้หนี้ยืมสินในคดีระหว่างผู้ร้องทั้ง 7 รายกับจำเลยย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้นไม่เป็นการผูกมัดคนภายนอกมิให้โต้แย้งเป็นอื่น ชอบที่ศาลชั้นต้นจะได้พิจารณาข้อคัดค้านของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริวารในสัญญาเช่า: แม้ชื่อเป็นผู้เช่า แต่พฤติการณ์แสดงถึงการเป็นบริวารของสามี ทำให้ต้องออกไปกับสามีเมื่อถูกบังคับคดี
เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่นางเจิมในคดีแดงที่ 722/2493 ศาลพิพากษาให้ขับไล่นางเจิม โจทก์อ้างว่าจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นสามีภรรยาเป็นบริวารของนางเจิมขอให้ขับไล่ด้วย จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนางเจิม นางอุไรภรรยาเป็นผู้เช่าจากนางเจิมได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่สามีที่สุดโจทก์กับสามีตกลงประนีประนอมยอมความกันที่ศาล คือโจทก์ยอมให้สามีเช่าอยู่ต่อไปอีก 2 ปี ครบกำหนดโจทก์ขอให้ศาลบังคับสามีและภรรยา สามียอมออกแต่ภรรยาไม่ยอมออก อ้างว่าตนเป็นผู้เช่าได้รับความคุ้มครอง คำพิพากษาย่อมไม่ผูกพันตนเพราะตนเป็นผู้เช่าสามีไม่มีอำนาจไปทำยอม และได้หย่าขาดจากสามีภรรยาก่อนศาลพิพากษาตามยอมแล้ว
ดังนี้แม้จะได้ความว่าภรรยามีชื่อเป็นผู้เช่า แต่ขณะนั้นสามีภรรยายังอยู่กินในห้องพิพาท เวลาทำสัญญาสามีก็มาด้วยและลงชื่อเป็นพยานในสัญญาเช่า เมื่อคราวศาลเรียกสามีภรรยามาสอบในคดีก่อนคือคดีแดงที่ 722/2493 ภรรยาทราบแต่ไม่มา สามีมาแถลงต่อศาลว่าตนกับภรรยาอยู่ในห้องโดยตนเป็นผู้เช่าจากนางเจิม เมื่อสามีทำยอมกับโจทก์ที่ศาล ภรรยาก็ทราบระหว่างนั้นภรรยายังนำค่าเช่ามาชำระให้โจทก์ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นชัดว่าภรรยายอมถือว่าสามีเป็นผู้เช่าห้องพิพาทภรรยาย่อมตกเป็นบริวาร ที่ภรรยาอ้างว่าหย่าขาดนั้นเป็นเพียงโล่ห์บังหน้าเพื่อเลี่ยงการบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้มีชื่อเป็นผู้เช่า แต่หากเป็นภรรยาผู้เช่าหลัก ย่อมตกเป็นบริวารตามยอม
เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่นางเจิมในคดีแดงที่ 722/2493 ศาลพิพากษาให้ขับไล่นางเจิม โจทก์อ้างว่าจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นสามีภรรยาเป็นบริวารของนางเจิมขอให้ขับไล่ด้วย จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนางเจิม นางอุไรภรรยาเป็นผู้เช่าจากนางเจิมได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่สามีที่สุดโจทก์กับสามีตกลงประนีประนอมยอมความกันที่ศาล คือโจทก์ยอมให้สามีเช่าอยู่ต่อไปอีก 2 ปี ครบกำหนดโจทก์ขอให้ศาลบังคับสามีและภรรยา สามียอมออกแต่ภรรยาไม่ยอมออก อ้างว่าตนเป็นผู้เช่าได้รับความคุ้มครอง คำพิพากษาย่อมไม่ผูกพันตนเพราะตนเป็นผู้เช่าสามีไม่มีอำนาจไปทำยอม และได้หย่าขาดจากสามีภรรยาก่อนศาลพิพากษาตามยอมแล้ว
ดังนี้แม้จะได้ความว่าภรรยามีชื่อเป็นผู้เช่า แต่ขณะนั้นสามีภรรยายังอยู่กินในห้องพิพาท เวลาทำสัญญาสามีก็มาด้วยและลงชื่อเป็นพยานในสัญญาเช่า เมื่อคราวศาลเรียกสามีภรรยามาสอบในคดีก่อนคือคดีแดงที่ 722/2493 ภรรยาทราบแต่ไม่มา สามีมาแถลงต่อศาลว่าตนกับภรรยาอยู่ในห้องโดยตนเป็นผู้เช่าจากนางเจิม เมื่อสามีทำยอมกับโจทก์ที่ศาล ภรรยาก็ทราบระหว่างนั้นภรรยายังนำค่าเช่ามาชำระให้โจทก์ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นชัดว่าภรรยายอมถือว่าสามีเป็นผู้เช่าห้องพิพาทภรรยาย่อมตกเป็นบริวาร ที่ภรรยาอ้างว่าหย่าขาดนั้นเป็นเพียงโล่ห์บังหน้าเพื่อเลี่ยงการบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในทรัพย์สินพิพาท, ผลผูกพันคำพิพากษา, และการสิ้นสุดของตรัสต์
คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิแห่งทรัพย์สินใดใดอันเป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูความฝ่านนั้นย่อมใช้ ยันแก่เจ้าหนี้ผู้ยึดทรัพย์ของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งได้ บทบัญญัติใน ป.พ.พ. ม 1686 ซึ้งห้ามการต่อตั้งศรัสต์หาได้มีผลย้อนหลังไปทำลายตรัสต์ซึ่งได้ก่อตั้งไว้แล้วโดยชอบก่อนใช้ประมวลกฎหมายนั้นไม่
of 3