คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 28

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 385 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเล่นพนันบนรถโดยสารไม่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และผู้เสียหายร่วมกระทำผิดจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยกับพวกร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายกับบุคคลอีกคนหนึ่งให้ร่วมเล่นการพนันบนรถโดยสารประจำทาง ถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ผู้เสียหายสมัครใจเล่นการพนันกับจำเลยและพวกโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการร่วมกับจำเลยกระทำความผิด ผู้เสียหายจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในความผิดตามมาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ พนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฟ้องเท็จ: ผู้ถูกฟ้องเท็จเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้
การที่จำเลยนำความเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาซึ่งเป็นการฟ้องเท็จนั้นโจทก์ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดฐานฟ้องเท็จของจำเลยโจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานฟ้องเท็จตามป.อ.มาตรา175ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฟ้องเท็จ: โจทก์ในคดีฟ้องเท็จมีสิทธิฟ้องจำเลยฐานฟ้องเท็จได้โดยตรง
การที่จำเลยนำความเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาซึ่งเป็นการฟ้องเท็จนั้นโจทก์ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดฐานฟ้องเท็จของจำเลยโจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา175ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสถานะผู้ทรงเช็คและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็คเมื่อมีการชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค
เดิมโจทก์เป็นผู้เสียหายตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่นำมาฟ้อง ต่อมาก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คจากผู้ที่นำเช็คพิพาททั้งสองฉบับมาขายลดกับโจทก์แล้ว โจทก์ย่อมมีหน้าที่คืนเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่ได้รับชำระหนี้แล้วตามสัญญาขายลดเช็คให้แก่ผู้ขายลดเช็คไป ดังนี้ แม้โจทก์ยังยึดถือเช็คพิพาททั้งสองฉบับนี้อยู่ แต่เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และมาตรา 918 และย่อมไม่เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาฐานความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) และมาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3320/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องมีสิทธิโดยกฎหมายเท่านั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา30,31ได้บัญญัติเกี่ยวกับ การร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์เฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการและกรณีที่พนักงานอัยการร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับ ผู้เสียหายสำหรับคดีที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้นส่วนกรณีที่ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้เสียหายด้วยกันมิได้มีกฎหมายบัญญัติ ให้อำนาจไว้สิทธิการ ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีอาญานอกจากสองกรณี ดังกล่าวนี้แล้วย่อมไม่อาจมีได้ดังนั้นในคดีอาญาที่ผู้เสียหายคนหนึ่ง ได้ยื่นฟ้องคดีไว้ก่อนแล้ว ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไม่อาจยื่นคำร้องขอ เข้าร่วมเป็นโจทก์ได้
แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งอนุญาตให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 เข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้ว แต่เมื่อโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่มีสิทธิร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับโจทก์ในคดีนี้ คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงเป็นการไม่ชอบโจทก์ที่ 2ที่3 จึงมิใช่คู่ความในคดี ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง และจำหน่ายคดี ต่อมาได้
ปัญหาเกี่ยวกับการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม เป็นปัญหาที่เกี่ยว ด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3320/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องมีสิทธิโดยกฎหมายเท่านั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา30, 31 ได้บัญญัติเกี่ยวกับการร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ เฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ และกรณีที่พนักงานอัยการร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับ ผู้เสียหายสำหรับคดีที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้เสียหายด้วยกัน มิได้มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ สิทธิการขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีอาญา นอกจากสองกรณีดังกล่าวนี้แล้วย่อมไม่อาจมีได้ดังนั้น ในคดีอาญาที่ผู้เสียหายคนหนึ่ง ได้ยื่นฟ้องคดีไว้ก่อนแล้ว ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไม่อาจยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้
แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งอนุญาตให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 เข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้ว แต่เมื่อโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่มีสิทธิร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับโจทก์ในคดีนี้คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์ที่ 2 ที่ 3 จึงมิใช่คู่ความในคดี ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีต่อมาได้
ปัญหาเกี่ยวกับการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีใช้เอกสารปลอม: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้เอกสารนั้น
จำเลยในฐานะครูใหญ่ยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์ประกอบใบลาป่วยต่อผู้จัดการโรงเรียนคือจำเลยเองโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเจ้าของโรงเรียนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารกิจการของโรงเรียนในขณะนั้นแต่ประการใดแม้ใบรับรองแพทย์จะเป็นเอกสารปลอมแต่จำเลยมิได้ใช้เอกสารดังกล่าวแสดงต่อโจทก์โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายในข้อหาใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เสียหายในคดีใช้เอกสารปลอม: ความเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโรงเรียนและการแสดงเอกสารต่อผู้อื่น
จำเลยในฐานะครูใหญ่ยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์ประกอบใบลาป่วยต่อผู้จัดการโรงเรียนคือจำเลยเอง โจทก์ซึ่งเป็นเพียงเจ้าของโรงเรียนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารกิจการของโรงเรียนในขณะนั้นแต่ประการใด แม้ใบรับรองแพทย์จะเป็นเอกสารปลอมแต่จำเลยมิได้ใช้เอกสารดังกล่าวแสดงต่อโจทก์ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายในข้อหาใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3763/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีลหุโทษ: แม้ผู้แจ้งความไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง พนักงานอัยการก็มีอำนาจฟ้องได้
คดีความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368,386มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120ผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษให้ดำเนินคดีนี้จะเป็นผู้ใดหามีความสำคัญไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3763/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีลหุโทษ: พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องได้ แม้ผู้แจ้งความมิใช่ผู้เสียหายโดยตรง
คดีความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368, 386 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120 ผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษให้ดำเนินคดีนี้จะเป็นผู้ใดหามีความสำคัญไม่
of 39