พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมตามแบบเอกสารฝ่ายเมือง แม้ผู้ทำพินัยกรรมมิได้ยื่นคำร้องด้วยตนเอง
กฎกระทรวงมหาดไทยที่ว่า ผู้ใดจะทำพินัยกรรมเป็นแบบเอกสารฝ่ายเมืองให้ทำคำร้องแสดงความจำนงตามแบบของเจ้าพนักงานยื่นต่อกรมการอำเภอนั้น เป็นแต่เพียงระเบียบไม่เกี่ยวกับเรื่องแบบแห่งพินัยกรรม ฉะนั้น แม้ผู้ทำพินัยกรรมไม่ได้ยื่นคำร้องเอง ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้โจทก์มิได้ขอคืนทรัพย์ แต่การฟ้องมีประเด็นโต้แย้งสิทธิในทรัพย์สิน จึงต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์
(1) การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าตนมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย นั้น ย่อมหมายความว่า สิทธิของโจทก์ก็คือ สิทธิที่จะรับมรดกของผู้ตายให้ตกทอดมายังตนตั้งแต่เจ้ามรดกตาย ดังนั้น แม้โจทก์จะขอเพียงให้ทำลายพินัยกรรม แต่หาได้ขอให้ศาลพิพากษาให้เอาทรัพย์ที่จำเลยโแย้งคืนมาเป็นของโจทก์ไม่ก็ตาม แต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องแล้วว่า ก่อนตายเจ้ามรดกมีทรัพย์สินเป็นมรดกหลายอย่าง ทุกข์ของโจทก์ที่ตั้งข้อพิพาท ก็คือ กล่าวอ้างว่าที่ดิน 2 แปลงตามโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยตกทอดมาจากผู้ตาย แต่จำเลยเอาไปเสีย โดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ อย่างนี้แสดงว่าโจทก์ได้กล่าวอ้างให้ปรากฎแล้วว่าได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน โจทก์เสนอคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55
(2) ทุกข์ของโจทก์ที่กล่าวมา ก็คือ การที่ไม่ได้ที่ดิน 2 แปลงนั้น จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ประกอบตาราง (1) 1 ต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท การที่โจทก์ไม่ได้ขอเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงนั้น เป็นความผิดของโจทก์เอง จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์หาได้ไม่ (อ้างคำสั่งที่ 1559/2493) ส่วนจะเป็นการพิพากษาให้เกินคำขอหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2505)
(2) ทุกข์ของโจทก์ที่กล่าวมา ก็คือ การที่ไม่ได้ที่ดิน 2 แปลงนั้น จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ประกอบตาราง (1) 1 ต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท การที่โจทก์ไม่ได้ขอเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงนั้น เป็นความผิดของโจทก์เอง จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์หาได้ไม่ (อ้างคำสั่งที่ 1559/2493) ส่วนจะเป็นการพิพากษาให้เกินคำขอหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิมรดก & การเสนอคดี: แม้มิขอคืนทรัพย์ ศาลต้องรับคดีและคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าตนมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายนั้น ย่อมหมายความว่าสิทธิของโจทก์ก็คือสิทธิที่จะรับมรดกของผู้ตายให้ตกทอดมายังตนตั้งแต่เจ้ามรดกตาย ดังนั้น แม้โจทก์จะขอเพียงให้ทำลายพินัยกรรม หาได้ขอให้ศาลพิพากษาให้เอาทรัพย์ที่จำเลยโต้แย้งคืนมาเป็นของโจทก์ไม่ก็ตาม แต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องแล้วว่า ก่อนตายเจ้ามรดกมีทรัพย์สินเป็นมรดกหลายอย่าง ทุกข์ของโจทก์ที่ตั้งข้อพิพาทก็คือ กล่าวอ้างว่าที่ดิน 2 แปลงตามโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยตกทอดมาจากผู้ตาย แต่จำเลยเอาไปเสีย โดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ อย่างนี้แสดงว่าโจทก์ได้กล่าวอ้างให้ปรากฏแล้วว่าได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโจทก์เสนอคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ทุกข์ของโจทก์ที่กล่าวมาก็คือ การที่ไม่ได้ที่ดิน 2 แปลงนั้นจึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ประกอบตาราง 1(1) ต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท การที่โจทก์ไม่ได้ขอเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงนั้นเป็นความผิดของโจทก์เอง จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์หาได้ไม่ (อ้างคำสั่งที่ 1559/2492)ส่วนจะพิพากษาให้เกินคำขอได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2505)
ทุกข์ของโจทก์ที่กล่าวมาก็คือ การที่ไม่ได้ที่ดิน 2 แปลงนั้นจึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ประกอบตาราง 1(1) ต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท การที่โจทก์ไม่ได้ขอเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงนั้นเป็นความผิดของโจทก์เอง จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์หาได้ไม่ (อ้างคำสั่งที่ 1559/2492)ส่วนจะพิพากษาให้เกินคำขอได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมฝ่ายเมืองสมบูรณ์ แม้พยานเป็นข้าราชการระดับปฏิบัติงาน สติผู้ทำพินัยกรรมสำคัญ
พินัยกรรมที่ทำเป็นเอกสารฝ่ายเมืองนั้นเมื่อมีปลัดอำเภอเป็นผู้บันทึกในฐานะเป็นกรมการอำเภอ และมีพยานลงชื่อเป็นพยานอีก2 คนแล้ว ก็เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 แล้วแม้พยานทั้งสองคนจะเป็นเสมียนอำเภอก็ตาม ก็หาทำให้พินัยกรรมนั้นเสียไปอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมฝ่ายเมืองสมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้พยานเป็นข้าราชการระดับต่ำกว่า
พินัยกรรมที่เป็นเอกสารฝ่ายเมืองนั้น เมื่อมีปลัดอำเภอเป็นผู้บันทึกในฐานะเป็นกรมการอำเภอ และมีพยานลงชื่อเป็นพยานอีก 2 คนแล้ว ก็เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1658 แล้ว แม้พยานทั้งสองคนจะเป็นเสมียนอำเภอก็ตาม ก็หาทำให้พินัยกรรมนั้นเสียไปอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ตามแบบ แต่ใช้ได้ตามแบบธรรมดา หากข้อขีดฆ่าไม่สำคัญ และศาลมีดุลพินิจอนุญาต
พินัยกรรม์ฝ่ายเมืองนั้นแม้จะไม่ถูกต้องตามแบบตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1658 ถ้าเป็นการถูกต้องอย่างพินัยกรรม์แบบธรรมดาแล้ว ก็ต้องถือว่าพินัยกรรม์นั้นสมบูรณ์ตามแบบธรรมดาไว้
พินัยกรรม์มีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฎว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรม์ทั้งฉะบับนั้นเสียไปไม่คงถือว่าพินัยกรรม์ฉะบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้น ศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้ว ศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป
พินัยกรรม์มีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฎว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรม์ทั้งฉะบับนั้นเสียไปไม่คงถือว่าพินัยกรรม์ฉะบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้น ศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้ว ศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: พินัยกรรมไม่เป็นแบบ/มีแก้ไข, ดุลยพินิจศาล
พินัยกรรมฝ่ายเมืองนั้นแม้จะไม่ถูกต้องตามแบบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 ถ้าเป็นการถูกต้องอย่างพินัยกรรมแบบธรรมดาแล้ว ก็ต้องถือว่าพินัยกรรมนั้นสมบูรณ์ตามแบบธรรมดาได้
พินัยกรรมมีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฏว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรมทั้งฉบับนั้นเสียไปไม่ คงต้องถือว่าพินัยกรรมฉบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้นศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้วศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป
พินัยกรรมมีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฏว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรมทั้งฉบับนั้นเสียไปไม่ คงต้องถือว่าพินัยกรรมฉบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้นศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้วศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมและความถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แม้มีการอ้างอิงกฎหมายที่ถูกยกเลิก
พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม พ.ศ.2475 มีข้อความอย่างเดียวกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 มาตรา 1658
พินัยกรรมทำเมื่อ พ.ศ.2489 เป็นแบบเอกสารฝ่ายเมืองโดยมีบันทึกท้ายพินัยกรรมเขียนไว้ว่าพินัยกรรมนี้ได้ทำถูกต้องตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 มาตรา 7 อนุมาตรา1 ถึง 3 นั้น แปลความหมายได้ว่า พินัยกรรมได้ทำถูกต้องตามความในอนุมาตรา 1 ถึง 3 ของมาตรา 1658นั่นเอง จึงเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์
พินัยกรรมทำเมื่อ พ.ศ.2489 เป็นแบบเอกสารฝ่ายเมืองโดยมีบันทึกท้ายพินัยกรรมเขียนไว้ว่าพินัยกรรมนี้ได้ทำถูกต้องตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 มาตรา 7 อนุมาตรา1 ถึง 3 นั้น แปลความหมายได้ว่า พินัยกรรมได้ทำถูกต้องตามความในอนุมาตรา 1 ถึง 3 ของมาตรา 1658นั่นเอง จึงเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ทำผิดแบบแต่เป็นไปตามแบบอื่นได้ใช้บังคับได้ และข้อจำกัดการวินิจฉัยข้อกฎหมายโดยศาลตามมาตรา 142(5)
แม้พินัยกรรมจะทำผิดแบบพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองตามความประสงค์เดิมของผู้ทำพินัยกรรมก็ดี แต่ก็ทำขึ้นถูกต้องตามแบบพินัยกรรมธรรมดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1656 ทุกประการ ดังนี้ ศาลย่อมยกความสมบูรณ์ตามแบบพินัยกรรมอย่างหลังนี้ ขึ้นใช้บังคับได้โดยอาศัยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 136
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลยกขึ้นวินิจฉัยตัดสินคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) นั้นจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นจากพยานนอกเรื่องนอกประเด็นนั้น ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2492)
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลยกขึ้นวินิจฉัยตัดสินคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) นั้นจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นจากพยานนอกเรื่องนอกประเด็นนั้น ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: การลงวันเดือนปีและตำแหน่งเจ้าพนักงาน
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง มีวันเดือนปีเขียนอยู่ตอนต้นปลัดอำเภอผู้เขียนได้ลงนามแสดงเป็นผู้เขียนในตำแหน่งปลัดอำเภอในตอนท้าย และอ่านข้อความให้ฟังแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงวันเดือนปีซ้ำอีก พินัยกรรมย่อมสมบูรณ์