คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 193

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 275 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจ และยืนตามคำพิพากษาเดิมเรื่องริบของกลาง
คดีร้องขอคืนของกลาง ผู้ร้องมิได้ฎีกาโดยตรงว่า ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เพียงแต่กล่าวในฎีกาว่าผู้ร้องถอถือเอาคำอุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นคำฎีกาของผู้ร้องส่วนหนึ่งด้วย เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
คดีนี้พิพาทในเรื่องขอคืนของกลางเท่านั้น สำหรับคดีเดิมเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยและริบของกลาง ไม่ปรากฏว่ามีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าวย่อมถึงที่สุดผู้ร้องจะมาโต้เถียงในชั้นนี้ว่าจำเลยมิได้ใช้ของกลางในการกระทำผิด คำพิพากษาในคดีเดิมที่ริบของกลางไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุข้อเท็จจริงโดยย่อในอุทธรณ์: ไม่จำเป็นต้องย่อทางนำสืบของคู่ความ
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะไม่ได้ย่อ ทางนำสืบของโจทก์จำเลยไว้ก็ไม่เป็นการขัดต่อ ป.วิ.อ.มาตรา 193 แต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ที่ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อ ศาลมีอำนาจรับพิจารณา
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เพียงแต่ไม่ได้ย่อทางนำสืบของโจทก์จำเลยเท่านั้นไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ถือได้ว่าได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อที่ยกขึ้นอ้างอิงไว้แล้ว เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจรับไว้พิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่สมบูรณ์ (ไม่มีลายมือชื่อ) และการโต้แย้งคำพิพากษาที่ไม่ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาจำเลยไม่มีลายมือชื่อผู้เรียง จึงเป็นฟ้องฎีกาที่ไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158(7),215,225 ซึ่งจะต้องจัดการให้ถูกต้องเสียก่อน แต่เมื่อปรากฏว่าฎีกาจำเลยมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอย่างไรไว้โดยชัดเจน เพียงแต่อ้างว่ายังไม่ทราบเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษมาเท่านั้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรค 2,195,225 อันจะพึงรับไว้วินิจฉัย คดีจึงไม่มีเหตุที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้เรียงให้ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษายกฎีกาจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการระบุข้อเท็จจริงในอุทธรณ์: ไม่ต้องกล่าวถึงทางพิจารณาที่คู่ความนำสืบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 บัญญัติว่าอุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อนั้น หมายความถึงข้อเท็จจริงที่คู่ความยกขึ้นอุทธรณ์ ดังนี้ การที่อุทธรณ์ของจำเลยมิได้กล่าวถึงทางพิจารณาที่โจทก์จำเลยนำสืบ จึงหาได้ขัดต่อบทบัญญัติดังกล่าวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดการระบุข้อเท็จจริงในอุทธรณ์: ข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นอุทธรณ์เท่านั้นที่ต้องระบุ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 บัญญัติว่าอุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อนั้น หมายความถึงข้อเท็จจริงที่คู่ความยกขึ้นอุทธรณ์ ดังนี้ การที่อุทธรณ์ของจำเลยมิได้กล่าวถึงทางพิจารณาที่โจทก์จำเลยนำสืบ จึงหาได้ขัดต่อบทบัญญัติดังกล่าวไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยไม่ได้ให้เหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยยื่นฎีกาไว้พร้อมคำร้องขออนุญาตยื่นฎีกาฉบับสมบูรณ์ภายหลังแต่ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาอีกตามฎีกาย่อกล่าวเพียงว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ดังนี้เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง - การไม่ให้เหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยยื่นฎีกาไว้พร้อมคำร้องขออนุญาตยื่นฎีกาฉบับสมบูรณ์ภายหลังแต่ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาอีกตามฎีกาย่อกล่าวเพียงว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ดังนี้เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลอุทธรณ์ต้องพิจารณาอุทธรณ์ก่อนวินิจฉัยคดีตามมาตรา 245 หากไม่ทำ ถือไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา
ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ก่อนแล้วต่อมาศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย และส่งอุทธรณ์มายังศาลอุทธรณ์ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะทำคำพิพากษาแต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย แต่กลับวินิจฉัยคดีตามมาตรา 245 ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ต้องพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากลักทรัพย์เป็นรับของโจรโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ จึงถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องข้อหาฐานรับของโจร จำเลยอุทธรณ์ขอให้พิพากษายกฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์ ประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยคือจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์แต่ผิดฐานรับของโจร จึงมิชอบด้วยกระบวนพิจารณา จำเลยมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องข้อหาฐานรับของโจรได้ และศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ เพราะศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์แล้ว
of 28