คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 11

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 126 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกรรมเดียวผิดหลายบท ศาลฎีกาแก้โทษลงบทหนักสุดได้ แม้มีโทษเท่ากัน
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทหากศาลล่างลงโทษจำเลยมาทุกบท ศาลฎีกาก็พิพากษาแก้ลงบทที่มีโทษหนักที่สุดให้ถูกต้องได้
หากบทกฎหมายที่จำเลยกระทำผิดกรรมเดียวมีอัตราโทษหนักที่สุดเท่ากันอยู่ 2 บท ศาลก็ลงโทษจำเลยตามบทหนึ่งบทใดในสองบทนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตัดไม้ได้รับอนุญาต แม้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อนตัดฟัน ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยขออนุญาตตัดฟันไม้หวงห้าม เจ้าพนักงานป่าไม้แขวงออกไปตรวจคัดเลือกตีตราประจำต้นที่จะอนุญาตให้ตัดฟันได้และก่อนที่จำเลยจะตัดฟันไม้นายอำเภอผู้มีอำนาจก็ได้มีคำสั่งอนุญาตตามที่ขอแล้วด้วย ต่อมาจำเลยตัดไม้นั้น แต่นายอำเภอออกใบอนุญาตให้หลังวันตัดไม้ เช่นนี้เห็นว่า จำเลยยังไม่มีเจตนาฝ่าฝืนตัดฟันไม้ไม่รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้ผิดกฎหมาย: โจทก์บอกเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องรับผิดค่าเสียหาย
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่ง แล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้ เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้เผาถ่าน: การบอกเลิกสัญญาเนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายและการดำเนินการที่ไม่ได้รับอนุญาต
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่งแล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืนโจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น(ประชุมใหญ่ ครั้งที่15/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดประเภทรายได้จากการเผาถ่านเพื่อเสียภาษี: ทำป่าไม้หรืออุตสาหกรรม
การเผาถ่านขาย ไม่ใช่การทำไม้ตามความในพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ข้อ (14).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่า ไม่ต้องขออนุญาตเคลื่อนย้าย หากยังไม่พ้นด่านป่าไม้แรก
จำเลยเป็นผู้รับจ้างทำไม้จากป่าไม้เขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีอันเป็นการทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่าในทางวิชาการตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) จึงเป็นการทำไม้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรา 11 และไม้รายนี้เป็นไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องขอรับอนุญาตตามมาตรา 38(2) เมื่อจำเลยนำไม้ยังไม่ทันพ้นด่านป่าไม้ด่านแรกแม้จำเลยจะไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยก็ยังไม่มีผิดตามมาตรา 39

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้เพื่อบำรุงป่าและข้อยกเว้นการขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยเป็นผู้รับจ้างทำไม้จากป่าไม้เขตจังหวัดสุราษฏร์ธานี อันเป็นการทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่าในทางวิชาการตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) จึงเป็นการทำไม้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตาม มาตรา 11 และไม้รายนี้เป็นไม้ที่ทำออกโดยไม้ต้องขอรับ อนุญาต มาตรา 38 (2) เมื่อจำเลยนำไม้ ยังไม่ทันพ้นด่านป่าไม้ด่านแรก แม้จำเลยจะไม่มีในเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยก็ยังไม่มีผิดตามมาตรา 39

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ในเขตป่าสงวนโดยได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และข้อยกเว้นการแปรรูปไม้ที่ตอ
ไม่ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าโดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผล จำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้นเมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอันจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรกกรณีเช่นนี้ไม่ผิดฐานนำไม้เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50(1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้: การชักลาก การแปรรูป และการใช้ตราประทับไม้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ไม้ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่า โดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผลจำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม่ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม่ที่ทำออกโดยไม้ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้น เมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอ้นจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรก กรณีเช่นนี้ ไม่ผิดฐานนำไม้ เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา 50 (1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานทุจริตหน้าที่ ต้องมีเจตนาใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยตรง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในกะทงความผิดฐานทำ ตัดฟัน ชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตในกะทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายและในกะทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จ จำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริง แต่แก้โทษลดลงเหลือ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดฟันชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจำลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ไม่ได้
of 13