พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือและพยาน การวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์ และข้อห้ามฎีกา
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานสองคน กับมีปลัดอำเภอรักษาราชการแทนปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอเป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อด้วย แต่มิได้ประทับตราตำแหน่งไว้เป็นสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1655 (4) นั้น เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ในฐานะที่เป็นพินัยกรรมธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 และมาตรา 1665
คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น เป็นการไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผล การที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีก จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย
คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่
คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น เป็นการไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผล การที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีก จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย
คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพินัยกรรม: เพียงมีพยานรู้เห็นการพิมพ์นิ้วมือและลงลายมือชื่อกำกับก็เพียงพอ
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมหาจำต้องเขียนบอกไว้ว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือไว้ในพินัยกรรมไม่เพียงแต่มีลายพิมพ์นิ้วมือแล้วมีพยาน 2 คนที่รู้เห็นการพิมพ์นิ้วมือลงลายมือชื่อกำกับไว้ก็เป็นการเพียงพอแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์และสิทธิในมรดก: การที่พินัยกรรมไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนดทำให้ไม่มีผลบังคับใช้ และจำเลยไม่มีสิทธิในมรดก
บันทึกการแบ่งทรัพย์ที่เจ้ามรดกทำขึ้นมิได้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก. จึงไม่มีผลเป็นพินัยกรรม.แม้จะถือว่าเจ้ามรดกแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมด้วยวาจาต่อหน้า ค.และอ.. เพราะเจ้ามรดกไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้. แต่ ค.และอ.ก็มิได้ไปแสดงตนต่อกรมการอำเภอและแจ้งข้อความที่ผู้ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ ตลอดจนวันเดือนปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรม และพฤติการณ์พิเศษ. บันทึกการแบ่งทรัพย์ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลเป็นพินัยกรรม. จำเลยซึ่งมิได้เป็นภรรยาเจ้ามรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย.ไม่มีสิทธิอ้างเอาประโยชน์จากบันทึกนี้ได้ และไม่มีสิทธิรับมรดก.
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย. การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์.
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย. การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์และสิทธิในการรับมรดก: บันทึกแบ่งทรัพย์ที่ไม่มีลายมือชื่อเจ้ามรดก ไม่ถือเป็นพินัยกรรม
บันทึกการแบ่งทรัพย์ที่เจ้ามรดกทำขึ้นมิได้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก จึงไม่มีผลเป็นพินัยกรรม แม้จะถือว่าเจ้ามรดกแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมด้วยวาจาต่อหน้า ค.และอ. เพราะเจ้ามรดกไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้ แต่ ค.และอ.ก็มิได้ไปแสดงตนต่อกรมการอำเภอและแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ ตลอดจนวันเดือนปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรม และพฤติการณ์พิเศษ บันทึกการแบ่งทรัพย์ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลเป็นพินัยกรรม จำเลยซึ่งมิได้เป็นภรรยาเจ้ามรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิอ้างเอาประโยชน์จากบันทึกนี้ได้ และไม่มีสิทธิรับมรดก
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์และสิทธิในมรดก: บันทึกแบ่งทรัพย์ต้องมีลายมือชื่อหรือการแสดงเจตนาตามกฎหมายจึงจะมีผล
บันทึการแบ่งทรัพย์ที่เจ้ามรดกทำขึ้นมิได้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้าของมรดก จึงไม่มีผลเป็นพินัยกรรม แม้จะถือว่าเจ้ามรดกแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมด้วยวาจาต่อหน้า ค. และ อ. เพราะเจ้ามรดกไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้ แต่ ค.และอ. ก็มิได้ไปแสดงตนต่อกรมการอำเภอและแจ้งข้อความผู้ที่ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ ตลอดจนวันเดือนปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรม และพฤติการณ์พิเศษ บันทึกการแบ่งทรัพย์ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลเป็นพินัยกรรม จำเลยซึ่งมิได้เป็นภรรยาเจ้ามรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิอ้างเอาประโยชน์จากบันทึกนี้ได้ และไม่มีสิทธิรับมรดก
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิมพ์ลายนิ้วมือทับรอยเดิมในพินัยกรรม ไม่ถือเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ผู้ทำพินัยกรรม (เจ้ามรดก) ได้พิมพ์ลายนิ้วมือทับรอยพิมพ์นิ้วมือที่ลงไว้ไม่ชัดอีกครั้งหนึ่ง แม้ลายพิมพ์นิ้วมือนี้จะเลอะเลือนจนดูไม่ชัด ก็ไม่กลายเป็นแกงได และการกระทำเช่นนี้หาเป็นการขูดลบตกเติมแก้ไขเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมโมฆะ: พยานไม่พร้อมกัน, พยานผู้เขียน, พิมพ์ลายนิ้วมือขาดพยาน
พยานในพินัยกรรม 2 คนซึ่งไม่ได้ลงชื่อในขณะทำพินัยกรรมพร้อมกัน คนหนึ่งลงชื่อไว้ในภายหลัง แม้จะได้สอบถามตัวเจ้ามรดกหรือไม่ก็ตาม พยานเช่นนี้ย่อมเรียกไม่ได้ว่าเป็นพยานในพินัยกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656
พยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพยานในพินัยกรรมและพยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665
พยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพยานในพินัยกรรมและพยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์: พะยานลงชื่อไม่พร้อมกัน, พะยานผู้เขียน, และการพิมพ์ลายนิ้วมือต้องมีพะยานสองคน
พะยานในพินัยกรรม 2 คนซึ่งไม่ได้ลงชื่อในขณะทำพินัยกรรมพร้อมกัน คนหนึ่งลงชื่อไว้ในภายหลับ แม้จะได้สอบถามตัวเจ้ามรดกหรือไม่ก็ตาม พะยานเช่นนี้ย่อมเรียกไม่ได้ว่าเป็นพะยานในพินัยกรรมตาม ป.พ.พ.ม.1656
พะยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพะยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพะยานในพินัยกรรมและพะยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพะยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665
พะยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพะยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพะยานในพินัยกรรมและพะยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพะยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ทำโดยการพิมพ์ลายนิ้วมือ และการรับรองพยานที่ไม่ต้องมีข้อความระบุชัดเจนว่าเป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
พินัยกรรมที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือ มีพยานรับรองครบ 2 คนแล้วแม้ผู้เขียนพินัยกรรมจะเขียนชื่อผู้ทำพินัยกรรมและผู้รับพินัยกรรมลงในช่องผู้มอบและผู้รับพินัยกรรม เพื่อให้ทราบว่าในช่องที่มีลายพิมพ์นิ้วมือนั้นเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของใคร ก็ไม่ทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์อยู่แล้วนั้นเสียไป
การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีข้อความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือด้วย เพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลายจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่าว และงดไม่สืบพยานดังนี้เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่องหากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบตามข้ออ้างเมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีข้อความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือด้วย เพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลายจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่าว และงดไม่สืบพยานดังนี้เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่องหากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบตามข้ออ้างเมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมลายพิมพ์นิ้วมือ: การพิสูจน์ความถูกต้องของพยาน และการรับฟังพยานหลักฐานเมื่อโจทก์ไม่นำสืบ
พินัยกรรมที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือ มีพยานรับรองครบ 2 คนแล้ว แม้ผู้เขียนพินัยกรรมจะเขียนชื่อผู้ทำพินัยกรรมและผู้รับพินัยกรรมลงในช่องผู้มอบและผู้รับพินัยกรรม เพื่อให้ทราบว่าในช่องมีลายพิพม์นิ้วมือนั้นเป็นลายพิพม์นิ้วมือของใคร ก็ไม่ทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์อยู่แล้วนั้นเสียไป
การรับรองลายพิพม์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีขอ้ความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิพม์นิ้วมือด้วยเพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลาย จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่า และงดไม่สืบพยาน ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าพินักรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่อง หากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบตามข้ออ้าง เมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
การรับรองลายพิพม์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีขอ้ความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิพม์นิ้วมือด้วยเพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลาย จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่า และงดไม่สืบพยาน ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าพินักรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่อง หากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบตามข้ออ้าง เมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้