พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ ต้องมีเจตนาเอาทรัพย์เป็นของตนเองหรือผู้อื่น หากไม่มีเจตนาดังกล่าว ไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นเรื่องเอาทรัพย์ของคนอื่นหรือเอาทรัพย์ซึ่งคนอื่นมีเจ้าของร่วมด้วย ไปโดยเจตนาจะเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ฉะนั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเจตนาที่จะเอาทรัพย์เป็นของตนหรือของผู้อื่น แต่แสดงว่า เป็นเรื่องเจตนาอย่างอื่น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริต ยักยอกเงินและปลอมแปลงบัญชี: เปลี่ยนบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
คำบรรยายฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะได้บรรยายความถึงหน้าที่และการกระทำผิดไว้โดยละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุมและรอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตนเสีย โดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้นำส่ง ผิดตาม มาตรา 131ไม่ใช่ มาตรา 319(3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียนบัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม มาตรา 230 ไม่ใช่มาตรา 225,229
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุมและรอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตนเสีย โดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้นำส่ง ผิดตาม มาตรา 131ไม่ใช่ มาตรา 319(3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียนบัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม มาตรา 230 ไม่ใช่มาตรา 225,229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริต ยักยอกเงิน และปลอมแปลงบัญชีรับจ่าย
คำบรรยายฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะได้บรรยายความถึงหน้าที่และการกระทำผิดไว้โดยละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุม และ รอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตน เสียโดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้นำส่ง ผิดตาม ม. 131 ไม่ใช่ ม. 319 (3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียน บัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม ม.230 ไม่ใช่ ม.225, 229
จำเลยรับราชการตำแหน่งตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่รับเงินค่าล่วงเวลาในการไปตรวจควบคุม และ รอคอยพาหนะ รับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตน เสียโดยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้นำส่ง ผิดตาม ม. 131 ไม่ใช่ ม. 319 (3)
การที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งที่ทำหนังสือราชการและจดทะเบียนบัญชี จำเลยบังอาจจดแจ้งข้อความลงในทะเบียน บัญชีเองอันเป็นเท็จ ผิดตาม ม.230 ไม่ใช่ ม.225, 229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปกครองปล่อยผู้ต้องหา เลี่ยงการดำเนินคดีอาญา เปลี่ยนเป็นคดีแพ่ง มีความผิดตาม ม.142
ม.28 แห่ง พ.ร.บ. ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 บัญญัติให้ผู้ใหญ่บ้านท้องที่มีอำนาจและหน้าที่การงานในเขตท้องที่ของตน และ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2486 ม.6 เพิ่มหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเข้าไว้อีกตาม ข้อ 18 ว่า " ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของกำนันหรือทางราชการฯ" ประกอบกับคำปลัดอำเภอพยานโจทก์ว่า ผู้ใหญ่บ้านทุกคนมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดในท้องที่ของตนและต้องรายงานให้อำเภอทราบ
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นเจ้าพนักงานท้องที่ตาม ก.ม.เมื่อพาผู้ต้องหาในคดีลักและฆ่ากระบือไปส่งอำเภอ ระหว่างทางจำเลยจัดการให้ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาเลิกคดีกันโดยผู้ต้องหายอมใช้ราคาค่าเสียหาย จำเลยปล่อยผู้ต้องหาโดยจัดหาสัญญาประนีประนอมให้เลิกคดีกัน ปิดข้อเท็จจริงเรื่องลักทรัพย์และฆ่ากระบือเป็นเรื่องทำให้เสียทรัพย์โดยไม่เจตนา คือปิดข้อเท็จจริงซึ่งเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดินที่ไม่มีทางเลิกกันได้ให้เป็นความผิดส่วนตัวที่เลิกกันได้ตามกฎหมาย เช่นนี้จำเลยได้ชื่อว่ากระทำการอันไม่ควรกระทำและมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับโทษ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 142
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นเจ้าพนักงานท้องที่ตาม ก.ม.เมื่อพาผู้ต้องหาในคดีลักและฆ่ากระบือไปส่งอำเภอ ระหว่างทางจำเลยจัดการให้ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาเลิกคดีกันโดยผู้ต้องหายอมใช้ราคาค่าเสียหาย จำเลยปล่อยผู้ต้องหาโดยจัดหาสัญญาประนีประนอมให้เลิกคดีกัน ปิดข้อเท็จจริงเรื่องลักทรัพย์และฆ่ากระบือเป็นเรื่องทำให้เสียทรัพย์โดยไม่เจตนา คือปิดข้อเท็จจริงซึ่งเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดินที่ไม่มีทางเลิกกันได้ให้เป็นความผิดส่วนตัวที่เลิกกันได้ตามกฎหมาย เช่นนี้จำเลยได้ชื่อว่ากระทำการอันไม่ควรกระทำและมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับโทษ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้อำนาจของผู้พิพากษาในการถอนประกันและสั่งขังต้องไม่เจตนาละเมิดอำนาจหน้าที่
ผู้พิพากษาสั่งถอนประกันแล้วสั่งขังจำเลยโดยไม่ปรากฏว่ามีเจตนาร้ายละเมิดอำนาจและหน้าที่ ย่อมไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันฆ่าและช่วยซ่อนศพ: ความผิดตามมาตรา 154 และข้อยกเว้นความผิดตามมาตรา 142
ผู้ใหญ่บ้านช่วยเอาศพผู้ตายซึ่งถูกฆ่าตายไปฝัง เพื่อทำลายสักขีพะยาน มีผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา154แต่ไม่มีผิดตามมาตรา 142 เพราะมิได้ถูกใช้ให้มีหน้าที่สืบเสาะคดีแต่อย่างใด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายแล้วเอาศพไปฝังเพื่อทำลายสักขีพะยาน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ฆ่า ก็ลงโทษฐานทำลายสักขีพะยานตามมาตรา 154 ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายแล้วเอาศพไปฝังเพื่อทำลายสักขีพะยาน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ฆ่า ก็ลงโทษฐานทำลายสักขีพะยานตามมาตรา 154 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ตำรวจในการจับกุม: การกระทำความผิดนอกเขตอำนาจและฐานะการปฏิบัติหน้าที่
ตำรวจซึ่งละเว้นไม่จับกุมผู้กระทำผิดอันจะเป็นผิดตามมาตรา 142 นั้นจะต้องปรากฎว่า ท่านใช้ให้มีหน้าที่กระทำการดังบัญญัติไว้ในมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาทำผิดในฟ้องอาญา: เวลากระทำผิดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเวลากลางวันพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำผิดเวลากลางคืน ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใหญ่บ้านไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายอาญา มาตรา 142 ในการจับกุม
ผู้ใหญ่บ้านไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายอาญา ม.142 อ้างฎีกาที่ 169/2481
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใหญ่บ้านละเลยหน้าที่ห้ามปรามการทะเลาะวิวาทจนถึงแก่ความตาย ไม่ผิดตามกฎหมายอาญา
มีผู้ทะเลาะวิวาทกันจนถึงตาย โดยจำเลยซึ่เงป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในที่นั้นด้วยแต่ยืนดูเฉยเสียไม่ห้ามปรามหรือจับกุมร้องเรียน จำเลยยังไม่มีผิดตามกฎหมายอาญาม.142, 154