พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์และการทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปหาเจ้าทุกแล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไป เจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วย มีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยให้ศา-ตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์สำเร็จแม้ฉีกเงินภายหลัง: การขู่เข็ญบังคับเอาทรัพย์สำเร็จถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
การที่จำเลยบังคับขู่เข็ญจนผู้เสียหายมีความกลัวต้องสั่งเงิน(ธนบัติ)ให้และจำเลยได้รับไว้แล้ว ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จแล้ว ส่วนการที่จำเลยกลับฉีกธนบัติเสียนั้นก็เป็นเรื่องที่มาเปลี่ยนเจตนาขึ้นในภายหลัง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม. 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาพยานหลักฐาน ศาลต้องพิจารณาประกอบทุกส่วน ไม่ยึดถือเพียงบางส่วนที่ขัดแย้งกับพยานหลักฐานอื่น
ศาลจำต้องพิเคราะห์คำพยานประกอบกันทั้งหมด แล้ววินิจฉัยตามเหตุผลที่ควรจะเป็นจริง จะถือเอาคำพยานของโจทก์เพียงบางปากที่เบิกความเป็นปรปักษ์ต่อคำฟ้องของโจทก์ขึ้นชี้ขาดนั้นหาควรไม่
เจ้าทรัพย์และบุตรเบิกความในชั้นศาลว่า เกิดเหตุวันแรม 2 ค่ำ แต่คำพยานปากอื่น ๆ ของโจทก์ตลอดจนพนักงานสอบสวน ผู้สอบสวนภายหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ก็ว่าประจักษ์พยานของโจทก์ทุกปาก ยืนยันในชั้นสอบสวนว่า เหตุเกิดวันแรม 1 ค่ำ ตรงกับฟ้องทั้งนั้น ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า เกิดเหตุวันแรม 1 ค่ำ
เจ้าทรัพย์และบุตรเบิกความในชั้นศาลว่า เกิดเหตุวันแรม 2 ค่ำ แต่คำพยานปากอื่น ๆ ของโจทก์ตลอดจนพนักงานสอบสวน ผู้สอบสวนภายหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ก็ว่าประจักษ์พยานของโจทก์ทุกปาก ยืนยันในชั้นสอบสวนว่า เหตุเกิดวันแรม 1 ค่ำ ตรงกับฟ้องทั้งนั้น ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า เกิดเหตุวันแรม 1 ค่ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานชิงทรัพย์ แม้ลักทรัพย์ไม่สำเร็จ หากใช้กำลังทำร้ายเพื่อหลบหนี
จำเลยไปลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์รู้ตัวเข้าจับ จำเลยวิ่งหนีและได้ทำร้ายเจ้าทรัพย์เพื่อหลบหนีให้พ้นอาญา แม้จะทำการลักทรัพย์ไม่สำเร็จ จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์
อ้างฎีกาที่ 541/81
อ้างฎีกาที่ 541/81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์และการใช้กำลังทำร้าย: ความแตกต่างระหว่างความผิดฐานลักทรัพย์และชิงทรัพย์
ในการที่จำเลยลักทรัพย์นั้นเจ้าทรัพย์เข้าจับจำเลยจนถึงกอดปล้ำกันล้มลุกคลุกคลานไป เมื่อเลิกกันแล้ว ปรากฏว่าแขนของเจ้าทรัพย์ฟกช้ำโดบไม่ปรากฏเหตุดั่งนี้ ไม่พอฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายเจ้าทรัพย์ ไม่มีผิดฐานชิงทรัพย์คงมีผิดแต่ฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ต้องระบุองค์ความผิดครบถ้วน
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกับพวกสมคบกันบังอาจมีอาวุธปืน มีดและไม้ขึ้นไปบนเรือนนายจันทร์ แล้วจับกุมมือนายจันทร์ นางปีกุมไว้ แล้วพวกจำเลยจึงเข้าทำการเก็บเอาทรัพย์ของนายจันทร์นางปีไปหลายอย่างคำบรรยายฟ้องเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs. ชิงทรัพย์: การกระทำความรุนแรงหลังค้นทรัพย์
ผู้ร้าย 3 คนมีไม้ตะพดเปนสาตราวุธเข้าค้นบ้านเจ้าทรัพย์ แล้วจำตัวเจ้าทรัพย์และทรัพย์ที่ค้นได้ออกจากบ้านเจ้าทรัพย์ไป พอถึงกลางทางผู้ร้ายทำร้ายเจ้าทรัพย์แล้วพาทรัพย์หนีไป ดั่งนี้ มีความผิดถานปล้นทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานชิงทรัพย์: แม้การสืบพยานจะระบุวันเวลาที่ต่างจากฟ้องเล็กน้อย แต่หากจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลยังสามารถลงโทษได้
โจทฟ้องว่าจำเลยทำผิดคืนวันที่ 20-21 และวงเล็บว่าตรงกับขึ้น 14 ค่ำ จำเลยรับสารภาพแต่เปนคดีอุกฉกรรจ์ โจทนำพยานมาสืบว่าจำเลยทำผิดคืนวันขึ้น 14 ค่ำ ซึ่งตรงกับคืนวันที่ 21-22 และจำเลยเข้าไจข้อหาดีดังนี้ ไม่ถือว่าทางพิจารนาต่างกับฟ้อง ลงโทสได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขู่เข็นด้วยอาวุธ: การถือขวานเข้ามาในเวลากลางคืนถือเป็นภัยคุกคามและเป็นการขู่เข็น แม้ไม่มีคำพูด
ผู้ร้ายกับพวกถือขวานตรงเข้ามาที่ผู้เสียหายไนเวลาค่ำคืน ผู้เสียหายกลัวจึงวิ่งหนีย่อมถือได้ว่าเปนการขู่เข็นแล้ว