คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 170

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลพลเรือนและการวินิจฉัยข้อเท็จจริงร่วมกันในคดีอาญา
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมูลคดีในการไต่สวนมูลฟ้องว่าจำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ถือว่าศาลทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันซึ่งตามลักษณะอุทธรณ์ฎีกาลักษณะ 2 มาตรา 219 บัญญัติว่าห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนั้นคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2
โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อจัดการคืนของกลางที่ถูกยึด ถือเป็นวัตถุประสงค์ผิดกฎหมาย ทำให้ไม่เป็นผู้เสียหายชอบด้วยกฎหมาย
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้น ย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด กฎหมายไม่สุจริต ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้ (อ้างฎีกาที่771/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือให้ได้ทรัพย์คืนจากการยึด เป็นการมีเจตนาผิดกฎหมาย ทำให้ขาดอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้นย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด ก.ม.ไม่สุจริตฉนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วย ก.ม.หาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้
อ้างฎีกาที่ 771/2453

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือทางกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ขาดอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้น ย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด กฎหมายไม่สุจริต ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้ (อ้างฎีกาที่771/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำเลยในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นงดไต่สวนมูลฟ้อง: จำเลยยังไม่มีฐานะคู่ความ
คดีอาญาที่ราษฎรฟ้องกันเอง เมื่อศาลชั้นต้นงดไต่สวนมูลฟ้องแล้ว โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนต่อไปนั้นในชั้นนี้จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นคู่ความ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล ฉะนั้น จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการฟ้องคดีอาญาของอัยการผู้ช่วย: อัยการผู้ช่วยมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้
อัยการผู้ช่วยก็มีอำนาจลงนามเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาได้ เพราะอัยการผู้ช่วยก็เป็นพนักงานอัยการ(พ.ร.บ.อัยการ 2478มาตรา 11) จึงอาจเป็นโจทก์ในคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(1) ประกอบกับพ.ร.บ.อัยการ 2478 มาตรา 19(1)
ศาลชั้นต้นสั่งไม่ประทับฟ้องที่อัยการเป็นโจทก์ โดยเห็นว่าผู้ลงนามเป็นโจทก์นั้นไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ ศาลอุทธรณ์ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปนั้น จำเลยย่อมฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ เพราะคดีที่อัยการเป็นโจทก์ เมื่อยื่นฟ้องก็ถือว่า ผู้ถูกฟ้องตกเป็นจำเลยทันที ผิดกับคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ ผู้ถูกฟ้องไม่เป็นจำเลยจนกว่าศาลจะประทับฟ้อง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 21/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้รับฟ้อง คดีมีมูล จำเลยฎีกาไม่ได้ตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีข้อมูล ให้ยกฟ้องของโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีโจทก์มีมูลจำเลยจะฎีกาไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวเท็จโดยไม่มีเจตนาใส่ความให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
เพียงแต่กล่าวเท็จทำให้บุคคลอื่นเสียหายโดยมิได้+ความว่าเขาทุจจริตอย่างใดนั้น ยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้รับพิจารณาคดีใหม่ ถือเป็นคำสั่งถึงที่สุด ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
+ดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีมีมูลให้ศาลชั้นต้นรับพิจารณาต่อไปนั้น เป็นคำสั่งถึงที่สุดฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ประทับฟ้องคดีอาญา: องค์ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ครบถ้วน แม้ฟ้องระบุว่าเป็นความผิดฐานยักยอก
พฤตติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงที่บรรยายมาในฟ้องไม่เข้าลักษณความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามกฎหมายเมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้ว แม้ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์และขอให้ลงโทษฐานยักยอกมาก็ตาม ศาลก็ไม่ประทับรับฟ้องศาลชั้นต้นไม่รับประทับฟ้องศาลอุทธรณ์กลับให้ศาลชั้นต้นรับประทับฟ้องและพิจารณาต่อไปดังนี้จำเลยฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา 170
of 7