คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 46

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 75 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสิทธิทางการทูตและการคุ้มครองทางกฎหมาย: การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและข้อตกลงระหว่างประเทศ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ละเมิดขับรถยนต์โดยประมาท ชนรถโจทก์ได้รับความเสียหายจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ต่อมามีหนังสือมาถึงผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี เป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีคำแปล อ้างว่าเป็นหนังสือของกงสุลมีใจความว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองโดยเอกสิทธิตามข้อตกลงทางทหารระหว่างไทยกับสหรัฐ ไม่ต้องขึ้นศาลไทย ศาลชั้นต้นเชื่อหนังสือฉบับนี้ ให้จำหน่ายคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อหนังสือดังกล่าวมาสู่ศาลลอยๆ ไม่มีผู้ใดรับรองว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกันอันแท้จริงและจำเลยจะได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลงทางทหารหรือไม่ข้อตกลงระหว่างประเทศเป็นอย่างใดไม่ปรากฏ ที่ศาลล่างเชื่อว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกัน และเชื่อข้อเท็จจริงตามหนังสือนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นฟ้องด้วยจึงให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้ง 2 ศาล ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อนว่า จำเลยได้รับเอกสิทธิไม่ต้องขึ้นศาลไทยจริงหรือไม่ แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสิทธิทางทหารและการพิจารณาคดี: การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและข้อตกลงระหว่างประเทศ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ละเมิดขับรถยนต์โดยประมาท ชนรถโจทก์ได้รับความเสียหาย. จำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การ.ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ. ต่อมามีหนังสือมาถึงผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี เป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีคำแปล. อ้างว่าเป็นหนังสือของกงสุลมีใจความว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองโดยเอกสิทธิตามข้อตกลงทางทหารระหว่างไทยกับสหรัฐ ไม่ต้องขึ้นศาลไทย. ศาลชั้นต้นเชื่อหนังสือฉบับนี้ ให้จำหน่ายคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อหนังสือดังกล่าวมาสู่ศาลลอยๆ ไม่มีผู้ใดรับรองว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกันอันแท้จริง และจำเลยจะได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลงทางทหารหรือไม่.ข้อตกลงระหว่างประเทศเป็นอย่างใดไม่ปรากฏ ที่ศาลล่างเชื่อว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกัน และเชื่อข้อเท็จจริงตามหนังสือนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นฟ้องด้วย. จึงให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้ง 2 ศาล. ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อนว่า. จำเลยได้รับเอกสิทธิไม่ต้องขึ้นศาลไทยจริงหรือไม่. แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสิทธิทางทูตและการคุ้มครองทางกฎหมาย: การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและการรับรองเอกสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ละเมิดขับรถยนต์โดยประมาท ชนรถโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้ ต่อมามีหนังสือมาถึงผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี เป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีคำแปล อ้างว่าเป็นหนังสือของกงสุลมีใจความว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองโดยเอกสิทธิตามข้อตกลงทางทหารระหว่างไทยกับสหรัฐ ไม่ต้องขึ้นศาลไทย ศาลชั้นต้นเชื่อหนังสือฉบับนี้ ให้จำหน่ายคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อหนังสือดังกล่าวมาสู่ศาลลอย ๆ ไม่มีผู้ใดรับรองว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกันอันแท้จริง และจำเลยจะได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลงทางทหารหรือไม่ ข้อตกลงระหว่างประเทศเป็นอย่างใดไม่ปรากฏ ที่ศาลล่างเชื่อว่าเป็นหนังสือของกงสุลอเมริกัน และเชื่อข้อเท็จจริงตามหนังสือนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย จึงให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้ง 2 ศาล ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อนว่า จำเลยได้รับเอกสิทธิไม่ต้องขึ้นศาลไทยจริงหรือไม่ แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานเอกสารต่างประเทศ, ความผิดยอมความได้, การพิสูจน์ความรู้ของจำเลยในคดีเครื่องหมายการค้า
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่แปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐาน ได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับ เพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า มีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แต่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารต่างประเทศเป็นหลักฐานได้, ความผิดอันยอมความได้ไม่ต้องบรรยายร้องทุกข์, การร่วมกระทำผิดทางอาญา
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่เอกสารนั้นยืดยาว จึงแปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐานได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับเพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองเอกสารแปลและภาระการพิสูจน์ค่าเสียหาย: ศาลยึดถือเอกสารแปลที่โจทก์รับรองหากไม่มีการโต้แย้ง
คำแปลเอกสารภาษาต่างประเทศที่โจทก์รับรองว่าถูกต้องและอ้างส่งต่อศาลนั้น เมื่อไม่มีการโต้แย้งหรือขอแก้ไขก่อนเสร็จสำนวน ย่อมต้องถือเป็นยุติ ศาลจะรับรู้ต้นฉบับภาษาต่างประเทศว่ามีข้อความอย่างไร ไม่ได้ กรณีต่างกับสำเนาเอกสารที่มีต้นฉบับ (เป็นภาษาไทย) ในสำนวนซึ่งศาลย่อมตรวจดูต้นฉบับได้
ในเรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้น แม้จำเลยจะไม่ได้นำสืบโต้แย้งจำนวนค่าเสียหายก็เป็หน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบโดยตลอด จำเลยไม่ต้องยกเป็นประเด็นขึ้นต่อสู้ในเรื่องจำนวนค่าเสียหายมากน้อยเพียงใด
พยานบุคคลให้การเรื่องจำนวนค่าเสียหายตรงตามที่โจทก์ฟ้อง แต่คำแปลเอกสารคิดได้เป็นจำนวนน้อยกว่า ศาลถือว่ากรณีเป็นที่สงสัย ยกประโยชน์ให้แก่จำเลยผู้ต้องเสียในมูลหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 11

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานข้ามภาษา: ศาลควรให้โอกาสอธิบาย หากไม่เข้าใจวันเดือนปีตามวัฒนธรรมอื่น
ในคดีอาญาที่ประจักษ์พะยานเบิกความถึงวันเดือนปีข้างจีนเมื่อศาลไม่เข้าใจ ก็ควรจะให้ผู้อ้างนำล่ามหรือผู้รู้มาอธิบายไม่ควรยกฟ้องเสียทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานหลักฐานข้ามภาษา: ศาลควรเปิดโอกาสให้มีการแปลความหมายเพื่อความถูกต้อง
ในคดีอาญาที่ประจักษ์พยานเบิกความถึงวันเดือนปีข้างจีนเมื่อศาลไม่เข้าใจ ก็ควรจะให้ผู้อ้างนำล่ามหรือผู้รู้มาอธิบาย ไม่ควรยกฟ้องเสียทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้เหตุฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่นำสืบ
กล่าวในฟ้องว่าได้ที่พิพาทมาโดยทางก่อสร้างแต่นำสืบว่าพ่อตายกให้เช่นนี้เมื่อความจริงปรากฏว่าโจทก์ได้ครอบครองที่มาโดยเจตนาถือสิทธิเป็นเจ้าของเป็นเวลาติดต่อกันกว่าสิบปีแล้วโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตาม ม. 1382 ไม่เรียกว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้องหรือสืบ++ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายคดีและการพิจารณาใหม่ ศาลไม่จำต้องยกฟ้องทันที และคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่อุทธรณ์ได้
คำสั่งจำหน่ายคดี เมื่อโจทก์ขาดนัดศาลสั่งจำหน่ายคดีได้ ไม่จำต้องตัดสินยกฟ้องโจทก์เสียทีเดียว คำสั่งระหว่างพิจารณาศาลสั่งจำหน่ายคดี แล้วสั่งยกขึ้นพิจารณาใหม่ คำสั่งนี้อุทธรณ์ไม่ได้ เพราะเข้าลักษณเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
of 8