คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 76

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 252 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5079/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างใช้ยานพาหนะของนายจ้างในกิจการส่วนตัวหลังเลิกงาน
จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการอยู่ในสังกัดของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยที่ 2 รดน้ำต้นไม้ ได้ขับรถไปปฏิบัติงานตามหน้าที่ เสร็จแล้วได้ขับรถไปบ้านของตนแม้จะเป็นธุระส่วนตัวไม่ใช่เวลาปฏิบัติราชการตามหน้าที่ และที่เกิดเหตุมิใช่พื้นที่ที่จำเลยที่ 2 รับผิดชอบดำเนินการก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 1 ขับรถไปบ้านของตนก็ดี และตอนขับกลับก็ดี เป็นเวลาต่อเนื่องคาบเกี่ยวกับงานที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติไปตามหน้าที่ของจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ไปทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ในระหว่างทางที่ขับรถกลับดังนี้ถือได้ว่าขณะนั้นจำเลยที่ 1 ยังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่การงานของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2ต้องร่วมรับผิดด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3979/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการจดทะเบียนโฉนดที่ดินทับที่หลวง เจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อต้องรับผิด
หากพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินจำเลยที่ 1ได้ตรวจสอบเอกสารก่อนย่อมทราบว่าที่พิพาทเป็นที่หลวงอยู่ในเขตพระราชนิเวศน์มฤคทายวันจะนำไปออกโฉนดที่ดินและจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมทำการโอนหาได้ไม่ การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนที่พิพาทให้แก่มารดาโจทก์โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อนจึงเป็นการกระทำโดยความประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงแก่มารดาโจทก์และโจทก์เนื่องจากไม่ได้รับประโยชน์จากที่พิพาท จึงเป็นการกระทำละเมิดจำเลยที่ 1 และกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 2ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดนั้น มารดาโจทก์ซื้อที่พิพาทมาจากบุคคลอื่น และบุคคลผู้นั้นเป็นผู้รับประโยชน์จากการขายที่พิพาท ความเสียหายที่โจทก์ได้รับจึงไม่ได้เกิดจากจำเลยทั้งสองเสียทั้งหมดความเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมาจะต้องลดลงตามส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3827/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าหน้าที่ต่อความเสียหายของไม้ของกลาง: อายัดแล้วต้องดูแลรักษา หากเสื่อมสภาพตามกาลเวลาไม่ต้องรับผิด
เจ้าพนักงานป่าไม้และเจ้าพนักงานตำรวจผู้ตรวจพบไม้ได้อายัดไม้ของกลางของโจทก์ไว้ และให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลตามระเบียบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำเลยที่ 3 เป็นเพียงพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความ มีหน้าที่ทำการสืบสวนดำเนินคดีให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไม้ของกลาง แม้จะเกิดความเสียหายกับไม้ของกลาง จำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิด ดังนั้นจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดเช่นกัน จำเลยที่ 1 ได้อายัดไม้ของกลางของโจทก์แล้วก็ปล่อยให้อยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ขนย้ายออกไป ไม้ดังกล่าวได้ปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ และหลังการอายัดเพียง 28 วัน ก็ได้มีการมุงหลังคาโครงสร้างฉางไว้ แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้จัดการดูแลรักษาไม้ที่อายัดไว้ดีพอสมควรแล้ว แม้จะเสื่อมสภาพไปบ้างก็เป็นไปตามกาลเวลา ไม่ใช่เพราะความบกพร่องของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3800/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของนายทหารและผู้บังคับบัญชาจากการปฏิบัติหน้าที่ และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากละเมิด
คืนเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสารวัตรทหารอากาศปฏิบัติหน้าที่เวรอยู่ที่กองพันสารวัตรทหารอากาศ ได้รับคำสั่งจากนายทหารเวรซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาให้ไประงับเหตุที่บริเวณถนนในหมู่บ้านสวัสดิการทหารอากาศซึ่งเป็นบริเวณที่จำเลยที่ 3 จะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่ตามหน้าที่และตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ. 2519 เมื่อจำเลยที่ 3 กระทำละเมิดเป็นเหตุให้ผู้ตายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตายในขณะไประงับเหตุดังกล่าว จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้บังคับบัญชาจึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 3 ด้วย ผู้ตายเป็นบุตรมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นบิดามารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1563 จำเลยที่ 3กระทำละเมิดเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายโจทก์ทั้งสองจึงมีสิทธิได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ไม่ว่าผู้ตายจะอยู่ในฐานะที่จะอุปการะโจทก์ทั้งสองได้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง: หลักการแทนกันและขอบเขตความรับผิด
ผู้ทำละเมิดเป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ได้ ทำ ละเมิดในขณะปฏิบัติการงานของจำเลยที่ 1 ตาม หน้าที่ที่รับ มอบหมาย พนักงานหรือคนงานดังกล่าวถือ ได้ ว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของจำเลยที่ 1เมื่อก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ก็ต้อง รับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทนตาม ที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 76 แม้พนักงานหรือคนงานผู้ทำละเมิดเป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 แต่ จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพนักงานหรือคนงานดังกล่าวต่าง ก็เป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 และต่างปฏิบัติหน้าที่ให้จำเลยที่ 1 ด้วย กัน จึงอยู่ในฐานะ นายงานกับคนงานเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีส่วนผิดในการออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจนเกิดความเสียหายขึ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3จึงไม่ต้องร่วม รับผิดด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และขอบเขตความรับผิดของนายงานต่อการกระทำของคนงาน
เหตุเพลิงใหม้ เกิดจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ในขณะปฏิบัติงานตามหน้าที่ แม้พนักงานหรือคนงานผู้ทำละเมิดอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพนักงานหรือคนงานดังกล่าวต่างปฏิบัติงานให้จำเลยที่ 1 ด้วยกัน จึงอยู่ในฐานะนายงานกับคนงานเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีส่วนผิดในการออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจนเกิดความเสียหายขึ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย
แม้ไม่ได้ความว่าผู้ทำละเมิดเป็นใคร แต่เมื่อฟังได้ว่าผู้ทำละเมิดเป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดในขณะปฏิบัติการงานของจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่ที่รับมอบหมาย พนักงานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของจำเลยที่ 1 เมื่อก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และขอบเขตความรับผิดของนายงานกับคนงาน
เหตุเพลิงใหม้ เกิดจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ในขณะปฏิบัติงานตามหน้าที่แม้พนักงานหรือคนงานผู้ทำละเมิดอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2และที่ 3 แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพนักงานหรือคนงานดังกล่าวต่างปฏิบัติงานให้จำเลยที่ 1 ด้วยกัน จึงอยู่ในฐานะนายงานกับคนงานเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีส่วนผิดในการออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจนเกิดความเสียหายขึ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย แม้ไม่ได้ความว่าผู้ทำละเมิดเป็นใคร แต่เมื่อฟังได้ว่าผู้ทำละเมิดเป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดในขณะปฏิบัติการงานของจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่ที่รับมอบหมาย พนักงานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของจำเลยที่ 1 เมื่อก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 76.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และขอบเขตความรับผิดของจำเลยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง
ผู้ทำละเมิดเป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดในขณะปฏิบัติการงานของจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่ที่รับมอบหมายพนักงานหรือคนงานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของจำเลยที่ 1เมื่อก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 แม้พนักงานหรือคนงานผู้ทำละเมิดเป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพนักงานหรือคนงานดังกล่าวต่างก็เป็นพนักงานหรือคนงานของจำเลยที่ 1 และต่างปฏิบัติหน้าที่ให้จำเลยที่ 1 ด้วยกัน จึงอยู่ในฐานะนายงานกับคนงานเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีส่วนผิดในการออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจนเกิดความเสียหายขึ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4153/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าอาวาสในฐานะผู้แทนวัด: ไม่ต้องรับผิดส่วนตัวต่อสัญญาที่ทำในหน้าที่
จำเลยที่ 2 ว่าจ้างโจทก์ให้ปรับปรุงที่ดินของจำเลยที่ 1 และบอกเลิกสัญญากับโจทก์ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของจำเลยที่เป็นการกระทำในหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล จึงไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4153/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดส่วนตัวของเจ้าอาวาสในสัญญาที่ทำแทนวัด: เจ้าอาวาสไม่ต้องรับผิดหากทำหน้าที่ผู้แทนวัด
จำเลยที่ 2 ว่าจ้างโจทก์ให้ปรับปรุงที่ดินของจำเลยที่ 1 และบอกเลิกสัญญากับโจทก์ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของจำเลยที่เป็นการกระทำในหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล จึงไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว.
of 26