พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยอุบัติเหตุ vs. ฆาตกรรม, การพิสูจน์เหตุการณ์, และดอกเบี้ยผิดสัญญา
แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครและยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่าผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนับว่าการตายของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่.
เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้แจ้งให้ผู้รับประกันทราบถึงอุบัติเหตุและได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด.
ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์ชั้นศาล ต้องสั่งให้จำเลยชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ตามป.วิ.พ. มาตรา 158.
เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้แจ้งให้ผู้รับประกันทราบถึงอุบัติเหตุและได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด.
ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์ชั้นศาล ต้องสั่งให้จำเลยชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ตามป.วิ.พ. มาตรา 158.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4240/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยาน การเปลี่ยนแปลงหน้าที่นำสืบ เอกสารมหาชน และค่าฤชาธรรมเนียมในคดีมรดก
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยแถลงยอมผูกมัดตนเองว่าหากนัดหน้าไม่ได้พยานมาก็จะไม่ติดใจสืบ ดังนี้ เมื่อถึงวันนัดโจทก์ยังไม่ได้ตัวพยานมาศาลอีกก็ต้องถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานปากนี้ตามที่เคยแถลงไว้ ไม่ว่าพยานจะได้รับหมายเรียกไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน และโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้โดยชอบแล้ว แม้การกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวจะไม่ชอบไม่ถูกต้องจริงหรือไม่ก็ตาม หากคู่ความได้สืบพยานจนสิ้นกระแสความแล้ว และการกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวก็ไม่ทำให้เหตุผลแห่งการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ กรณีจึงไม่สมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่
คดีมีประเด็นข้อพิพาทกันมาแต่ต้น โดยโจทก์สามารถนำพยานมาเบิกความต่อศาลได้ แต่ก็ไม่ได้นำมา การที่โจทก์ขอนำพยานดังกล่าวมาเบิกความหลังจากสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ย่อมเป็นการเพิ่มเติมคดีของโจทก์ที่บกพร่องอยู่และพ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบตามกฎหมายแล้ว จึงไม่สมควรอนุญาตให้โจทก์สืบพยาน
แม้ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมและคำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมจะเป็นเอกสารมหาชน แต่คู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันก็นำพยานหลักฐานอื่นมาสืบหักล้างได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127
การได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 นั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา161 ดังนั้น แม้โจทก์จะได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว แต่ถ้าแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้.
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน และโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้โดยชอบแล้ว แม้การกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวจะไม่ชอบไม่ถูกต้องจริงหรือไม่ก็ตาม หากคู่ความได้สืบพยานจนสิ้นกระแสความแล้ว และการกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวก็ไม่ทำให้เหตุผลแห่งการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ กรณีจึงไม่สมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่
คดีมีประเด็นข้อพิพาทกันมาแต่ต้น โดยโจทก์สามารถนำพยานมาเบิกความต่อศาลได้ แต่ก็ไม่ได้นำมา การที่โจทก์ขอนำพยานดังกล่าวมาเบิกความหลังจากสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ย่อมเป็นการเพิ่มเติมคดีของโจทก์ที่บกพร่องอยู่และพ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบตามกฎหมายแล้ว จึงไม่สมควรอนุญาตให้โจทก์สืบพยาน
แม้ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมและคำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมจะเป็นเอกสารมหาชน แต่คู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันก็นำพยานหลักฐานอื่นมาสืบหักล้างได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127
การได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 นั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา161 ดังนั้น แม้โจทก์จะได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว แต่ถ้าแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4240/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยาน การนำสืบ การรับรองเอกสาร และค่าฤชาธรรมเนียมในคดีมรดก
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยแถลงยอมผูกมัดตนเองว่าหากนัดหน้าไม่ได้พยานมาก็จะไม่ติดใจสืบ ดังนี้ เมื่อถึงวันนัดโจทก์ยังไม่ได้ตัวพยานมาศาลอีกก็ต้องถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานปากนี้ตามที่เคยแถลงไว้ ไม่ว่าพยานจะได้รับหมายเรียกไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน และโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้โดยชอบแล้ว แม้การกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวจะไม่ชอบไม่ถูกต้องจริงหรือไม่ก็ตาม หากคู่ความได้สืบพยานจนสิ้นกระแสความแล้ว และการกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวก็ไม่ทำให้เหตุผลแห่งการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ กรณีจึงไม่สมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่
คดีมีประเด็นข้อพิพาทกันมาแต่ต้น โดยโจทก์สามารถนำพยานมาเบิกความต่อศาลได้ แต่ก็ไม่ได้นำมา การที่โจทก์ขอนำพยานดังกล่าวมาเบิกความหลังจากสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ย่อมเป็นการเพิ่มเติมคดีของโจทก์ที่บกพร่องอยู่และพ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบตามกฎหมายแล้ว จึงไม่สมควรอนุญาตให้โจทก์สืบพยาน
แม้ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมและคำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมจะเป็นเอกสารมหาชน แต่คู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันก็นำพยานหลักฐานอื่นมาสืบหักล้างได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127
การได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 นั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา161 ดังนั้น แม้โจทก์จะได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว แต่ถ้าแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน และโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้โดยชอบแล้ว แม้การกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวจะไม่ชอบไม่ถูกต้องจริงหรือไม่ก็ตาม หากคู่ความได้สืบพยานจนสิ้นกระแสความแล้ว และการกำหนดหน้าที่นำสืบดังกล่าวก็ไม่ทำให้เหตุผลแห่งการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ กรณีจึงไม่สมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่
คดีมีประเด็นข้อพิพาทกันมาแต่ต้น โดยโจทก์สามารถนำพยานมาเบิกความต่อศาลได้ แต่ก็ไม่ได้นำมา การที่โจทก์ขอนำพยานดังกล่าวมาเบิกความหลังจากสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ย่อมเป็นการเพิ่มเติมคดีของโจทก์ที่บกพร่องอยู่และพ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบตามกฎหมายแล้ว จึงไม่สมควรอนุญาตให้โจทก์สืบพยาน
แม้ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมและคำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมจะเป็นเอกสารมหาชน แต่คู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันก็นำพยานหลักฐานอื่นมาสืบหักล้างได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127
การได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 นั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา161 ดังนั้น แม้โจทก์จะได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว แต่ถ้าแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3156/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการดำเนินคดีอย่างคนอนาถา: จำกัดเฉพาะค่าธรรมเนียมศาล ไม่ครอบคลุมหลักประกันการชำระหนี้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 การดำเนินคดีอย่างคนอนาถามีได้เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมศาลเท่านั้น แต่กรณีที่จะต้องนำหลักประกันมาประกันการชำระหนี้เพื่อขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษามิใช่เรื่องค่าธรรมเนียมศาล จึงจะขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึด/อายัดทรัพย์ในคดีคนอนาถา ทรัพย์ต้องเป็นของผู้ได้รับอนุญาต ไม่ใช่บุคคลอื่น
การที่จะขอให้ศาลสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องหรือต่อสู้ความอย่างคนอนาถานั้น ต้องปรากฎว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของผู้ได้รับอนุญาตให้ว่าความอย่างคนอนาถา ไม่ใช่เป็นของบุคคลอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายตามกำหนด ทำให้ศาลไม่ต้องรับวินิจฉัย
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาให้โจทก์ปฎิบัติตามมาตรา229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาล แต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมเฉพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งเมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตามมาตรา 229 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตามมาตรา242(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย: การไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายในกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถให้โจทก์ปฏิบัติตาม ม.229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลแต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมฉะเพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ควมอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาล ซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง เมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตาม ม.224 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตาม ม.242 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615-616/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและการขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาล ศาลมีอำนาจสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมบางส่วนได้
ศาลมีอำนาจสั่งให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนตาม ม.149 ได้
คู่ความมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาที่ศาลสั่งยกใหม่ได้ แม้ภายหลังกำหนดอายุความอุทธรณ์ 1 เดือนตาม ม.156 วรรคท้าย
การที่ศาลสั่งยกเว้นไม่ต้องวางเงินที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่าย และสั่งรับอุทธรณ์นั้นถือว่าเป็นการที่ศาลสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ดังนั้นการที่ผู้อุทธรณ์นำเงินค่าธรรมเนียมที่ศาลไม่อนุญาตให้อนาถามาชำระต่อศาลตามคำสั่งเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนก็ไม่ทำให้คดีนั้นขาดอายุความ
คู่ความมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาที่ศาลสั่งยกใหม่ได้ แม้ภายหลังกำหนดอายุความอุทธรณ์ 1 เดือนตาม ม.156 วรรคท้าย
การที่ศาลสั่งยกเว้นไม่ต้องวางเงินที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่าย และสั่งรับอุทธรณ์นั้นถือว่าเป็นการที่ศาลสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ดังนั้นการที่ผู้อุทธรณ์นำเงินค่าธรรมเนียมที่ศาลไม่อนุญาตให้อนาถามาชำระต่อศาลตามคำสั่งเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนก็ไม่ทำให้คดีนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาขาดอายุความจากคำสั่งยกคำร้องขอว่าความอนาถา
โจทก์ยื่นคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาพร้อมกับฎีกาภายในอายุความ ถ้าศาลสั่งยกคำร้องนั้น จะเสียค่าธรรมเนียมภายหลังวันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์กว่า 1 เดือนโดยศาลมิได้สั่งขยายระยะเวลาให้ไว้ไม่ได้ ต้องถือว่าฎีกานั้นขาดอายุความแล้ว(อ้างฎีกาที่ 261/2486)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความดีกาพายไน: การชำระค่าธรรมเนียมศาลและการขยายเวลา
โจทยื่นคำร้องขอว่าความหย่างคนอนาถาพร้อมกับดีกาพายไนอายุความ ถ้าสาลสั่งยกคำร้องนั้น จะเสียค่าทำเนียมพายหลังวันฟังคำพิพากสาสาลอุธรน์กว่า 1 เดือน โดยสาลมิได้สั่งขายระยะเวลาไห้ไว้ไม่ได้ ต้องถือว่าดีกานั้นขาดอายุความแล้ว
(อ้างดีกาที่ 261/2486)
(อ้างดีกาที่ 261/2486)