พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใส่ความหมิ่นประมาทต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถ้อยคำเปรียบเทียบไม่สุภาพไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
การที่จำเลยพูดว่า "ตุ๊อย่าเอาไม้ไปแหย่ขี้เลย" ในขณะที่โจทก์กำลังโต้เถียงกับนายตุ๊สามีจำเลย เมื่อคณะผู้พิพากษาพร้อมด้วยโจทก์จำเลยในคดีแพ่งไปตรวจดูสถานที่พิพาทนั้นแม้คำว่า ขี้ จะหมายถึงตัวโจทก์ แต่ก็เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่ไม่สุภาพเท่านั้น ยังไม่พอถือได้ว่าเป็นการใส่ความตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์
ส่วนเรื่องละเมิดอำนาจศาลนั้น เมื่อมีผู้กระทำผิด ก็เป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะที่จะสั่งลงโทษผู้นั้นได้เองผู้อื่นหามีสิทธิที่จะเสนอคดีให้ศาลพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดในคดีเช่นนี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานนี้
ส่วนเรื่องละเมิดอำนาจศาลนั้น เมื่อมีผู้กระทำผิด ก็เป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะที่จะสั่งลงโทษผู้นั้นได้เองผู้อื่นหามีสิทธิที่จะเสนอคดีให้ศาลพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดในคดีเช่นนี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความพยานในศาล ไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล หากเป็นการตอบคำถามตามประเด็นคดี หรือคำถามของศาล
แม้คำเบิกความของพยานจะมีข้อความหมายให้เห็นไปในทำนองเสียดสีดูหมิ่นศาล แต่เมื่อข้อความตามคำเบิกความของพยานเกิดขึ้นจากการตอบคำถามของศาลหรือของโจทก์จำเลยอันเป็นประเด็นที่คู่ความนำสืบกันมาในคดี ดังนี้ จะถือว่าพยานถือโอกาสเบิกความก้าวร้าวเสียดสีดูหมิ่นศาลเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลยังไม่ได้ พยานจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการละเมิดอำนาจศาล: การเบิกความของพยานที่ตอบคำถามตามการนำสืบของคู่ความ ไม่ถือว่าก้าวร้าว เสียดสี ดูหมิ่นศาล
แม้คำเบิกความของพยานจะมีข้อความหมายให้เห็นไปในทำนองเสียดสีดูหมิ่นศาล แต่เมื่อข้อความตามคำเบิกความของพยานเกิดขึ้นจากการตอบคำถามของศาลหรือของโจทก์จำเลยอันเป็นประเด็นที่คู่ความนำสืบกันมาในคดี ดังนี้ จะถือว่าพยานถือโอกาสเบิกความก้าวร้าว เสียดสีดูหมิ่นศาลเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลยังไม่ได้พยานจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดอำนาจศาล: ศาลมีอำนาจไต่สวนเองได้ แต่ต้องสอบพยานสาบานตนหากไม่ปรากฏต่อหน้าศาล
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล. ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร. ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่. สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล. ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว. ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว. แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล. ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน. หรือกล่าวคำปฏิญานว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112.ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้.(อ้างฎีกาที่ 824/2492).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดอำนาจศาล: การไต่สวนพยานหลักฐานและการพิสูจน์ความจริง
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่ สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน หรือกล่าวคำปฏิญานว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 824/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดอำนาจศาล: ศาลมีอำนาจไต่สวน แต่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเมื่อเหตุเกิดไม่ต่อหน้าศาล
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่ สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน หรือกล่าวคำปฏิญาณว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้ (อ้าง ฎีกาที่ 824/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พกอาวุธเข้าศาลละเมิดอำนาจศาล แม้ปกปิดก็ถือว่าขาดความเคารพและอาจก่ออันตราย
พกปืนบรรจุกระสุนพร้อมเข้าไปในศาล แม้จะอยู่ภายในเสื้อปกปิด ก็แสดงว่าไม่มีการคารวะต่อศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พกปืนเข้าศาลละเมิดอำนาจศาล แม้ปกปิดไว้ ก็ถือว่าขาดความเคารพและอาจก่อให้เกิดอันตราย
พกปืนบรรจุกระสุนพร้อมเข้าไปในศาล แม้จะอยู่ภายในเสื้อปกปิด ก็แสดงว่าไม่มีการคารวะต่อศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดอำนาจศาล: ศาลลงโทษทันทีได้ไม่ต้องสอบสวน หากใช้บทบัญญัติ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 31, 33
การหมิ่นประมาทศาลในเวลาพิจารณาคดีนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 31,33 เท่านั้นก็ไม่จำต้องสอบสวนก่อน ศาลลงโทษไปได้ทันที ทีเดียวได้
กรณีละเมิดอำนาจศาลนั้นป.ม.วิ.อาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะฉะนั้นโดยอาศัย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 15 จึงนำบทบัญญัติ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 31,33,ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
กรณีละเมิดอำนาจศาลนั้นป.ม.วิ.อาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะฉะนั้นโดยอาศัย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 15 จึงนำบทบัญญัติ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 31,33,ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดอำนาจศาล: ศาลลงโทษทันทีได้หากเป็นการหมิ่นประมาทในระหว่างพิจารณาคดี และไม่จำเป็นต้องสอบสวน
การหมิ่นประมาทศาลในเวลาพิจารณาคดีนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31,33 เท่านั้นก็ไม่จำต้องสอบสวนก่อน ศาลลงโทษไปได้ทันที ทีเดียวได้
กรณีละเมิดอำนาจศาล นั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะฉะนั้นโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 จึงนำบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31,33ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
(เทียบฎีกา 256/2483 ในเรื่องฟ้องฎีกาข้อเท็จจริง)
กรณีละเมิดอำนาจศาล นั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะฉะนั้นโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 จึงนำบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31,33ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
(เทียบฎีกา 256/2483 ในเรื่องฟ้องฎีกาข้อเท็จจริง)