คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 231

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 398 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการบังคับคดี vs. การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา และเหตุผลที่ไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครองลูกหนี้
ในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ดังนี้การที่จำเลยร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์หรือฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ หาใช่เป็นเรื่องขอทุเลาการบังคับคดีไม่ แต่เป็นการร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 228(2),247 จำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้อง แม้ในที่สุดศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์จำเลยก็จะไม่ได้ประโยชน์แต่ประการใด เพราะโจทก์ก็จะเป็นผู้ได้รับเงินซึ่งได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแต่ผู้เดียวจึงไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยไว้ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดและการคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: ศาลไม่อนุญาตให้ระงับการขายทอดตลาด แม้มีการอุทธรณ์คำสั่ง
เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย จำเลยคัดค้านว่าราคาต่ำไป แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำการขายได้ จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและขอให้งดการขายทอดตลาด แม้ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดจะได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อไปให้แก่บุคคลภายนอกในระหว่างอุทธรณ์ หากต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวและให้ศาลชั้นต้นทำการขายทอดตลาดใหม่ทั้งผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดและผู้รับโอนทรัพย์ดังกล่าวก็ไม่ได้ไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และศาลชั้นต้นก็ยังคงดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีจึงไม่ได้ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ที่จะเป็นเหตุให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาด ตามที่จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะของแต่ละศาล โจทก์ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ได้
การสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 เป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลแต่ละชั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับต่อศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะสั่ง โจทก์จะฎีกาคำสั่งดังกล่าวต่อศาลฎีกาไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีล้มละลาย: การจัดการทรัพย์สินหลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ อำนาจอยู่ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ไม่สามารถขอทุเลาการบังคับได้
ในคดีล้มละลาย เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ด ขาดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483จำเลยจะขอทุเลาการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 231 ดัง เช่นคดีแพ่งธรรมดาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์สินหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
ในคดีล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดแล้ว ก็เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย จำเลยจะมาขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ดังเช่นคดีแพ่งธรรมดาหาได้ไม่. (อ้างคำสั่งคำร้องที่ 112/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้งดการบังคับคดีขายทอดตลาดใหม่เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้อง พิจารณาจากราคาประเมินและราคาขายจริง
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด จำเลยยื่น คำร้องขอให้ขายทอดตลาดใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้สั่งให้ งดดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดไว้ก่อน ดังนี้ เป็นเรื่องขอให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ไม่ใช่เรื่องขอทุเลาการบังคับตามมาตรา 231 เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณา จำเลยย่อมมีสิทธิฎีกาได้ตามมาตรา 228(2),247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3156/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการดำเนินคดีอย่างคนอนาถา: จำกัดเฉพาะค่าธรรมเนียมศาล ไม่ครอบคลุมหลักประกันการชำระหนี้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 การดำเนินคดีอย่างคนอนาถามีได้เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมศาลเท่านั้น แต่กรณีที่จะต้องนำหลักประกันมาประกันการชำระหนี้เพื่อขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษามิใช่เรื่องค่าธรรมเนียมศาล จึงจะขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3005/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับ และการไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์
การทุเลาการบังคับนั้นอยู่ในอำนาจของศาลเป็นชั้น ๆ ไปถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ เมื่อสั่งอย่างใดแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การครอบครองระหว่างคดีไม่ถือเป็นการครอบครองเพื่อตน หากมีคำขอทุเลาการบังคับคดี
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องละเมิดบุกรุกที่ดินของโจทก์แปลงอื่น จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย ในการทำแผนที่พิพาทจำเลยได้นำชี้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งคือแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ว่าเป็นที่ดินของจำเลยด้วย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ด้วย ในชั้นอุทธรณ์จำเลยขอทุเลาการบังคับคดีและศาลอุทธรณ์อนุญาต ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาว่า การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเลยไปถึงที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์จึงมาฟ้องใหม่เป็นคดีนี้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทในคดีนี้ในระหว่างคดีก่อนเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปี โจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองในที่พิพาทแล้วหาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยครอบครองที่พิพาทในระหว่างคดีเรื่องก่อนตั้งแต่วันฟ้องคดีจนถึงวันที่ศาลฎีกาพิพากษานั้น เป็นการครอบครองที่อยู่ในระหว่างที่โจทก์กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ทั้งจำเลยได้ขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์อนุญาต จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องคืนสิทธิ การครอบครองระหว่างดำเนินคดีไม่ถือเป็นการครอบครองเพื่อตน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องละเมิดบุกรุกที่ดินของโจทก์แปลงอื่น จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย ในการทำแผนที่พิพาทจำเลยได้นำชี้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งคือแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ว่าเป็นที่ดินของจำเลยด้วยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ด้วย ในชั้นอุทธรณ์จำเลยขอทุเลาการบังคับคดีและศาลอุทธรณ์อนุญาต ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาว่าการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเลยไปถึงที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์จึงมาฟ้องใหม่เป็นคดีนี้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทในคดีนี้ในระหว่างคดีก่อนเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปี โจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองในที่พิพาทแล้วหาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยครอบครองที่พิพาทในระหว่างคดีเรื่องก่อนตั้งแต่วันฟ้องคดีจนถึงวันที่ศาลฎีกาพิพากษานั้น เป็นการครอบครองที่อยู่ในระหว่างที่โจทก์กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ทั้งจำเลยได้ขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์อนุญาต จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367
of 40