คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 334

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 394 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบียดบังยักยอกทรัพย์ของลูกจ้าง แม้ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินช่วงเกิดเหตุวิวาท ก็ถือเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์
จำเลยได้รับมอบหมายให้พาทรัพย์ของนายจ้างออกไปให้พ้นจากที่วิวาท เพื่อความปลอดภัยแห่งทรัพย์ แล้วจำเลยพาทรัพย์นั้นหนีไป การกระทำของจำเลยเป็นการเบียดบังยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 หาใช่กระทำผิดฐานลักทรัพย์ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบียดบังยักยอกทรัพย์: ความแตกต่างจากการลักทรัพย์ กรณีลูกจ้างพาทรัพย์นายจ้างหนีจากเหตุวิวาท
จำเลยได้รับมอบหมายให้พาทรัพย์ของนายจ้างออกไปให้พ้นจากที่วิวาท เพื่อความปลอดภัยแห่งทรัพย์. แล้วจำเลยพาทรัพย์นั้นหนีไป. การกระทำของจำเลยเป็นการเบียดบังยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352. หาใช่กระทำผิดฐานลักทรัพย์ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบียดบังยักยอกทรัพย์: การส่งมอบทรัพย์เพื่อความปลอดภัย ไม่ถือเป็นการลักทรัพย์
จำเลยได้รับมอบหมายให้พาทรัพย์ของนายจ้างออกไปให้พ้นจากที่วิวาท เพื่อความปลอดภัยแห่งทรัพย์ แล้วจำเลยพาทรัพย์นั้นหนีไปการกระทำของจำเลยเป็นการเบียดบังยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 หาใช่กระทำผิดฐานลักทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การนำไปโดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่. ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม. ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ. จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไป.ผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธ. ดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหาย.การที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป. จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน. จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์. (อ้างฎีกาที่ 519/2502).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปากกาตกหล่นในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การเอาไปโดยรู้ว่าเป็นของเขา ถือเป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่ ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5 นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไปผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธ ดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหายการที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์
(อ้างฎีกาที่ 519/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์: ทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การเอาไปจากผู้อื่นโดยรู้ว่าเป็นของเขา ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไปผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหายการที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตนจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์
(อ้างฎีกาที่ 519/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองสัตว์และการแจ้งความผิดฐานลักทรัพย์/ยักยอกทรัพย์ ศาลฎีกาชี้ว่าการยิงสัตว์แล้วชำแหละเนื้อเป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายจับกระบือไม่ได้เพราะติดอยู่ในฝูงอื่นซึ่งอยู่บนเขาและเป็นทำเลเลี้ยงมิใช่เพริดไปจนพ้นการติดตาม ดังนี้ตามกฎหมายต้องถือว่าผู้เสียหายยังครอบครองกระบือตัวนั้นอยู่ เพราะผู้เสียหายยังไม่ได้สละการครอบครองกระบือตัวนั้น การที่จำเลยยิงกระบือของผู้เสียหายตายและชำแหละเอาเนื้อกระบือไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายเป็นการเอาไปโดยทุจริต เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ส่วนการที่จำเลยชำแหละเนื้อกระบือเอาไป ก็เป็นการครอบครอง เพราะยึดถือเพื่อตน แต่เป็นผลภายหลังการที่จำเลยลักกระบือนั้นแล้ว ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง เมื่อศาลเห็นว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ vs ลักทรัพย์: การครอบครองทรัพย์ที่ไม่สามารถจับได้
ผู้เสียหายจับกระบือไม่ได้เพราะติดอยู่ในฝูงอื่นซึ่งอยู่บนเขาและเป็นทำเลเลี้ยงมิใช่เพริดไปจนพ้นการติดตาม ดังนี้ ตามกฎหมายต้องถือว่าผู้เสียหายยังครอบครองกระบือตัวนั้นอยู่เพราะผู้เสียหายยังไม่ได้สละการครอบครองกระบือตัวนั้นการที่จำเลยยิงกระบือของผู้เสียหายตายและชำแหละเอาเนื้อกระบือไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายเป็นการเอาไปโดยทุจริต เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ส่วนการที่จำเลยชำแหละเนื้อกระบือเอาไป ก็เป็นการครอบครอง เพราะยึดถือเพื่อตนแต่เป็นผลภายหลังการที่จำเลยลักกระบือนั้นแล้วไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคสอง เมื่อศาลเห็นว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองสัตว์ การลักทรัพย์ และความแตกต่างระหว่างฐานความผิดยักยอกทรัพย์
ผู้เสียหายจับกระบือไม่ได้.เพราะติดอยู่ในฝูงอื่นซึ่งอยู่บนเขาและเป็นทำเลเลี้ยงมิใช่เพริดไปจนพ้นการติดตาม. ดังนี้ ตามกฎหมายต้องถือว่าผู้เสียหายยังครอบครองกระบือตัวนั้นอยู่. เพราะผู้เสียหายยังไม่ได้สละการครอบครองกระบือตัวนั้น. การที่จำเลยยิงกระบือของผู้เสียหายตายและชำแหละเอาเนื้อกระบือไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย.เป็นการเอาไปโดยทุจริต. เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์.ส่วนการที่จำเลยชำแหละเนื้อกระบือเอาไป. ก็เป็นการครอบครอง เพราะยึดถือเพื่อตน. แต่เป็นผลภายหลังการที่จำเลยลักกระบือนั้นแล้ว. ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง.
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง. เมื่อศาลเห็นว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์. ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ. ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากวิ่งราวทรัพย์เป็นลักทรัพย์ และอำนาจศาลในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์. ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า. ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้.
ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย. ศาลยกขึ้นวินิจฉัยเองได้.
of 40