พบผลลัพธ์ทั้งหมด 394 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักกระแสไฟฟ้าเป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือ 335
การลักกระแสไฟฟ้า ย่อมเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือ 335 แล้วแต่กรณี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2501)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจน ศาลต้องยึดตามคำให้การเดิม แม้มีบันทึกรับสารภาพในรายงานพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันลักทรัพย์. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335(7)
จำเลยที่ 2 รับสารภาพว่าทำการลักทรัพย์แต่ผู้เดียวไม่ได้สมคบกับจำเลยที่ 1
แต่ศาลจดรายงานพิจารณาว่าจำเลยที่ 2 รับสารภาพตลอดข้อหาและให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิเสธ
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน คดีก็ฟังได้เพียงว่า จำเลยที่2 ลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ตามมาตรา 334 คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตาม มาตรา334 เท่านั้นโดยเป็นที่เห็นได้ว่าข้อความที่ศาลจดไว้ในรายงานพิจารณานั้นเป็นถ้อยคำของศาลเองมิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่ เพราะไม่มีข้อความใดว่าจำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่สละข้อต่อสู้ที่ให้การไว้แต่เดิมเลย
จำเลยที่ 2 รับสารภาพว่าทำการลักทรัพย์แต่ผู้เดียวไม่ได้สมคบกับจำเลยที่ 1
แต่ศาลจดรายงานพิจารณาว่าจำเลยที่ 2 รับสารภาพตลอดข้อหาและให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิเสธ
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน คดีก็ฟังได้เพียงว่า จำเลยที่2 ลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ตามมาตรา 334 คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตาม มาตรา334 เท่านั้นโดยเป็นที่เห็นได้ว่าข้อความที่ศาลจดไว้ในรายงานพิจารณานั้นเป็นถ้อยคำของศาลเองมิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่ เพราะไม่มีข้อความใดว่าจำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่สละข้อต่อสู้ที่ให้การไว้แต่เดิมเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจนและการพิสูจน์ความผิดฐานสมคบคิดลักทรัพย์ โจทก์ต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 335(7)
จำเลยที่ 2 รับสารภาพว่า ทำการลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ไม่ได้สมคบกับจำเลยที่ 1
แต่ศาลจดรายงานพิจารณาว่า จำเลยที่ 2 รับสารภาพตลอดข้อหาและให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิเสธ
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน คดีก็ฟังได้เพียงว่า จำเลยที่ 2 ลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ตาม ม.334 คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตาม ม.334 เท่านั้น โดยเป็นที่เห็นได้ว่าข้อความที่ศาลจดไว้ในรายงานพิจารณานั้นเป็นถ้อยคำของศาลเอง มิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่ เพราะไม่มีข้อความใดว่าจำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่สละข้อต่อสู้ที่ให้การไว้แต่เดิมเลย
จำเลยที่ 2 รับสารภาพว่า ทำการลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ไม่ได้สมคบกับจำเลยที่ 1
แต่ศาลจดรายงานพิจารณาว่า จำเลยที่ 2 รับสารภาพตลอดข้อหาและให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิเสธ
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน คดีก็ฟังได้เพียงว่า จำเลยที่ 2 ลักทรัพย์แต่ผู้เดียว ตาม ม.334 คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตาม ม.334 เท่านั้น โดยเป็นที่เห็นได้ว่าข้อความที่ศาลจดไว้ในรายงานพิจารณานั้นเป็นถ้อยคำของศาลเอง มิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่ เพราะไม่มีข้อความใดว่าจำเลยที่ 2 ขอให้การใหม่สละข้อต่อสู้ที่ให้การไว้แต่เดิมเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับหมายเกณฑ์และการขัดขืน การพิสูจน์การได้รับหมายและเจตนาขัดขืนเพื่อความผิดตามกฎหมาย
เจ้าพนักงานนำหมายเกนท์+ส่งไห้จำเลยเพื่อไห้ไปทำ+ตามหมายเกนท์ฝ่ายทหานและได้อ่านไห้จำเลยฟังแล้วแต่จำเลยไม่ยอมรับหมาย+นันได้ตักเตือนจำเลยก็ไม่ไป+นี้จำเลยยังไม่มีผิด
การลงนามไนไปรับหมายเกนท์ตามมาตรา 3 นั้นเปนกดบังคับคือถ้าเจ้าหน้าที่ไห้ผู้รับลงนาม ผู้รับก็ต้องลงไห้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ไห้ผู้รับลงนามจะถือว่าได้รับหมายโดยถูกต้องไม่ได้.
การลงนามไนไปรับหมายเกนท์ตามมาตรา 3 นั้นเปนกดบังคับคือถ้าเจ้าหน้าที่ไห้ผู้รับลงนาม ผู้รับก็ต้องลงไห้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ไห้ผู้รับลงนามจะถือว่าได้รับหมายโดยถูกต้องไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน: การแจ้งความเท็จต้องเป็นการแจ้งความจริงต่อเจ้าพนักงาน และการตอบคำถามเพื่อแก้ตัวไม่ใช่การแจ้งความ
กล่าวในฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานโดยไม่ระบุว่าเจ้าพนักงานอะไร ขอให้ลงโทษตามมาตรา 334 ข้อ 1 เช่นนี้ ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้มิได้ การที่จำเลยเข้าใจตนว่าอยู่ในฐานะเสมือนผู้ต้องหาและตอบคำถามของเจ้าพนักงานอันไม่ตรงกับความจริง เพื่อให้ตนพ้นผิดนั้นไม่เรียกว่าเป็นการแจ้งความตามมาตรา 118 เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามโจทก์ฟ้องแล้วแม้จำเลยจะได้ให้การรับสารภาพก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดไปได้ การขอเพิ่มเติมฟ้องนั้นจะต้องเป็นหารยื่นคำร้อง จะขอสืบพะยานเอาเองนั้น+ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน แม้ไม่ทราบสถานะที่หวงห้าม
จำเลยปกครองที่หลวงหวงห้ามมาโดยไม่ทราบว่าเป็นที่หวงห้ามนั้น เมื่อกรมการอำเภอได้เรียกมาชี้แจงและมีคำสั่งให้ออกไปจากที่หวงห้ามนั้นแล้ว จำเลยไม่ยอมออกยอมมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
อ้างฎีกาที่ 611/2477
อ้างฎีกาที่ 611/2477
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966-968/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำทางหลวงและการขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ความผิดตามกฎหมายอาญา
เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้รุกล้ำทางหลวงให้รื้อถอนการรุกล้ำได้ ถ้าผู้รุกล้าขัดขืนก็ย่อมมีผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.208 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อถอนประกาศจับจองที่ดิน แม้ไม่มีเจตนาร้าย ก็ถือเป็นความผิด
รื้อถอนประกาศขอจับจองที่ดินซึ่งเจ้าพนักงานปิดไว้ แม้ทำโดยไม่เจตนาร้ายก็มีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการไม่ให้การเพื่อป้องกันตนเองจากความผิดอาญาที่อาจเกิดขึ้น
ลักษณพะยานไม่ยอมตอบคำถามของเจ้าพนักงานเพราะอาจจะปรักปรำตนเองได้ไม่มีผิดฐานขัดคำสั่งตามมาตราข้างบน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ การพิจารณาความผิดฐานบุกรุก vs. ละเมิดคำสั่งเจ้าพนักงาน
บุกรุกเข้าไปทำนาในที่ซึ่งรัฐบาลหวงห้ามไว้สำหรับสาธารณะประโยชน์ ไม่มีผิดฐานบุกรุก ทำผิดละหุโทษครั้งก่อนกับครั้งหลังห่างกัน 1 ปี จะเพิ่มโทษแลยกอาญาที่รอไว้มารวมด้วยไม่ได้ จำเลยที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยนั้น เมื่อมีเหตุในลักษณะคดีแล้วศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจจะตัดสินถึงจำเลยคนนั้นได้