คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 240

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 248 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาและการนำสืบพยาน: ทนายจำเลยมาศาลแต่ไม่นำพยาน ถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัด
ไนวันนัดพิจารนาซึ่งสาลกำหนดไห้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน จำเลยไม่มาสาลคงมีแต่ทนายจำเลยสาลตามกำหนดนัด +มีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารนา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณา - หน้าที่นำสืบพยาน - ทนายจำเลยมาศาล
ในวันนัดพิจารณาซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจำเลยไม่มาศาลคงมีแต่ทนายจำเลยมาศาลตามกำหนดนัด กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: คดีอาญาคาบเกี่ยวระหว่างศาลพลเรือนและทหาร ต้องพิจารณาเวลาเกิดเหตุอย่างชัดเจนเพื่อกำหนดเขตอำนาจ
คดีอาญาที่การกะทำผิดเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกับสาลพลเรือนและสาลทหาน เมื่อไม่ปรากดแน่ชัดว่าเปนกรนีที่เกิดขึ้นพายไหเวลาที่บัญญัติว่าจะต้องดำเนินคดีทางสาลทหานเช่นนี้ ต้องนำคดีขึ้นสาลพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีอาญาที่เกิดคาบเกี่ยวระหว่างศาลพลเรือนและศาลทหาร ให้ขึ้นศาลพลเรือนหากไม่ชัดเจนว่าเป็นคดีทหาร
คดีอาญาที่การกระทำผิดเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกับศาลพลเรือนและศาลทหารเมื่อไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นภายในเวลาที่บัญญัติว่าจะต้องดำเนินคดีทางศาลทหารเช่นนี้ ต้องนำคดีขึ้นศาลพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์การกระทำผิดฐานเป็นหญิงนครโสเภณีรับจ้างทำชำเรา จำเลยต้องพิสูจน์การได้รับอนุญาต
โจทฟ้องว่าจำเลยรับจ้างกะทำชำเราสำส่อน จำเลยไห้การปติเสส เปนหน้าที่โจทจะต้องนำสืบว่าจำเลยรับจ้างกะทำชำเราสำส่อนคือเปนหยิงนครโสเพนีแล้วส่วนข้อที่ไม่ได้รับอนุญาตเปนหน้าที่จำเลยจะต้องนำสืบสาลล่างยังไม่ได้พิจารนาวินิจฉัยข้อเท็ดจิงข้อได สาลดีกามีอำนาดย้อนสำนวนไปไห้สาลชั้นต้นพิจารนาข้อเท็ดจิงและพิพากสาไหม่ตามรูปความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบพยานในคดีรับจ้างกระทำชำเราสำส่อน: ศาลฎีกามีอำนาจย้อนสำนวนได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับจ้างกระทำชำเราสำส่อน จำเลยให้การปฏิเสธเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยรับจ้างกระทำชำเราสำส่อนคือเป็นหญิงนครโสเภณีแล้ว ส่วนข้อที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นหน้าที่จำเลยจะต้องนำสืบ เมื่อศาลล่างยังไม่ได้พิจารณาวินิจฉัยข้อเท็จจริงข้อใด ศาลฎีกามีอำนาจย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงและพิพากษาใหม่ตามรูปความได้ ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาในคดีก่อนไม่ผูกพันทายาทของผู้ตาย หากไม่มีผู้รับมรดก และศาลมีอำนาจพิจารณาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
มารดาโจทถูกฟ้องไนคดีก่อนแล้วตายโดยไม่มีผู้รับมรดกความ คำพิพากไนคดีนั้นย่อมไม่ผูกพันโจท และทายาทของผู้ตาย
ไนการวินิฉัยปัญหาข้อกดหมายถ้ายังมีข้อเท็ดจิงที่ต้องพิจารนาต่อไป สาลดีกาย่อมมีอำนาดที่จะย้อนสำนวนไปไห้สาลอุธรน์พิจารนาข้อเท็ดจิงนั้นต่อไปแล้วพิพากสาไหม่ตามรูปความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดของคดีเมื่อผู้ถูกฟ้องตาย และอำนาจย้อนสำนวนของศาลฎีกา
มารดาโจทก์ถูกฟ้องในคดีก่อนแล้วตายโดยไม่มีผู้รับมรดกความคำพิพากษาในคดีนั้นย่อมไม่ผูกพันโจทก์และทายาทของผู้ตาย
ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายถ้ายังมีข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาต่อไปศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาข้อเท็จจริงนั้นต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยข้าวแทนเงิน และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อผู้รับชำระฟ้องเรียกหนี้ซ้ำ
ผู้กู้เอาข้าวชำระหนี้แทนเงินกู้และดอกเบี้ยไปตามที่ตกลงกับผู้ไห้กู้แล้ว พายหลังผู้ไห้กู้ฟ้องเรียกต้นเงินและดอกเบี้ยและชนะคดีแล้ว ผู้กู้จะฟ้องเรียกข้าวคืนถานลาภมิควนได้ไม่ได้แต่เรียกข้าวและค่าเสียหายได้ไนถานที่ผู้ไห้กู้ทำผิดนิติกัม
ไนคดีแพ่งคู่ความไม่จำเปนต้องอ้างตัวบทกดหมายไนฟ้องหรือไนดีกาเพียงแต่กล่าวถึงข้อเท็จจริงอันเปนปัญหาชัดเจนก็พอแล้ว ส่วนตัวบทกดหมายนั้นเปนหน้าที่ของสาลจะยกขึ้นปรับแก่คติ
คดีที่ดีกาได้เฉพาะข้อกดหมายนั้นถ้าสาลล่างยังมิได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงอันเปนข้อสำคันมา สาลดีกาย้อนสำนวนไปไห้วินิจฉัยแล้วพิพากสาไหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชำระหนี้ด้วยข้าวแล้ว ฟ้องเรียกคืนไม่ได้ แต่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำผิดนิติกรรม
ผู้กู้เอาข้าวชำระหนี้แทนเงินกู้และดอกเบี้ยไปตามที่ตกลงกับผู้ให้กู้ไปแล้ว ภายหลังผู้ให้กู้ฟ้องเรียกต้นเงินและดอกเบี้ยและชนะคดีแล้วผู้กู้จะฟ้องเรียกข้าวคืนฐานลาภมิควรได้ไม่ได้แต่เรียกข้าวและค่าเสียหายได้ในฐานที่ผู้ให้กู้ทำผิดนิติกรรม
ในคดีแพ่งคู่ความไม่จำเป็นต้องอ้างตัวบทกฎหมายในฟ้องหรือในฎีกาเพียงแต่กล่าวถึงข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหามาชัดเจนก็พอแล้ว ส่วนตัวบทกฎหมายนั้นเป็นหน้าที่ของศาลจะยกขึ้นปรับแก่คดี
คดีที่ฎีกาได้เฉพาะข้อกฎหมายนั้น ถ้าศาลล่างยังมิได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสำคัญมา ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้วินิจฉัยแล้วพิพากษาใหม่
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2486 และ 3/2486
of 25