คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา: วิกรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2481

การกำหนดเวลาทำผิดในคดีอาญา: ความแตกต่างระหว่างคืนวันที่ 9 กับคืนวันที่ 10

+ว่าทำผิดคืนวันที่ 10 พิจารณาได้ความว่าทำผิดเวลาเที่ยงคืนเศษของ+วันที่ 9 ดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ต่าง+ที่ปรากฎในฟ้อง ต้องยกฟ้องอ้างฎีกาที่ 502/2481,+77/2481 ที่ 1165/2481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2481

การอนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมในคดีเลือกตั้งเพื่อประโยชน์แห่งความเที่ยงธรรม

พฤตติการณ์ที่ศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความเที่ยงธรรมควรอนุญาตให้คู่ความที่มิได้อ้างระบุพะยานก่อนวันสืบพะยาน 3 วันสืบพะยานตามที่ขอระบุในภายหลังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2481

การวินิจฉัยคดีเลือกตั้ง: ศาลฎีกาต้องยึดข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยจากหลักฐานในสำนวน

ในการวินิจฉัยคดีร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยมาแล้วจากพะยานหลักฐานในท้องสำนวน ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.161,171,172 ลักษณที่ไม่เรียกว่าเป็นคำร้องเคลือบคลุมค่าธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2481

การพิพากษาคดีอาญาโดยผู้พิพากษาน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้คำพิพากษาเป็นโมฆะ

คดีอาญาซึ่งอัตราโทษ+างสูงในกฎหมายกำหนด+ให้จำคุกเกินกว่า 3 ปี พิพากษาศาลชั้นต้นนายเดียวพิพากษาคดีนั้นมิได้ +คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเกินอำนาจตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2481

การกำหนดวันเวลาทำผิดในความผิดทางอาญา: การตีความคำว่า 'คืน' ตามกฎหมาย

กลางคืนต้องหมายความว่าเวลาระหว่างตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนพระอาทิตย์ขึ้น โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในคืนวันขึ้น 9 คำทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดเมื่อเวลา 4 นาฬิกาของคืนวันขึ้น 8 ค่ำดังนี้ ถือว่าโจทก์ฟ้องผิดวันต้องยกฟ้องอ้างฎีกาที่ 502/2481 และ 877/2481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2481

แจ้งความเท็จต้องพิสูจน์ความเสียหายต่อผู้อื่นหรือสาธารณชน หากไม่มีหลักฐานความเสียหาย ศาลต้องยกฟ้อง

พฤตติการณ์ที่ถือว่าไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จความผิดฐานแจ้งความเท็จเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่าคำแจ้งความของจำเลยอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.85,86 ศาลชั้นต้นงดสืบพะยานคู่ความไม่คัดค้าน ถือว่าคู่ความยอมไม่สืบพะยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2481

การฟ้องลักทรัพย์ผิดวันกลางคืน: เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกถึงขึ้นเป็นวันเดียวกัน

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์เมื่อคืนวันที่ 10 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย+การลักเมื่อเวลาราว+ นาฬิกา ของวันคืนวันที่ 10 ดังนี้ไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องผิดวันกลางคืนหมายความถึงเวลากระหว่างตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น อ้างฎีกาที่ 1272/2479 และ ที่ 502/2481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2481

การลงโทษผู้มีฝิ่นหรือมูลฝิ่นเจือปน: เกณฑ์คำนวณค่าปรับตามราคาฝิ่นที่รัฐบาลกำหนด

ไม่ว่ามีฝิ่นหรือมูลฝิ่นอันผิดด้วยกฎหมายไว้ในครอบครองมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ฝิ่นบัญญัติให้ถือเอาราคาฝิ่นที่รัฐบาลขายตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับเสมอไป
อ้างฎีกาที่ 790/2474,+23/2476และ389/2476
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้วัตถุ+เจือปนฝิ่นของรัฐบาลทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาวัตถุอื่นเจือปนจริงแต่ไม่แน่ว่าเจือปนกับฝิ่นหรือมูลฝิ่นดังนี้ ไม่เรียกว่าทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743-746/2481

การนับอายุเพื่อการรับราชการทหาร: เกณฑ์อายุ 17 ปีบริบูรณ์และการมีหน้าที่ลงบัญชี

การนับอายุตาม พ.ร.บ.รับราชการทหารนั้นท่านให้นับ 1 ในปี พ.ศ.ที่เกิดเป็น+ไป
ท่านเกิดปี พ.ศ.2464 มีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ใน พ.ศ.2480 ซึ่งจะต้องไปขึ้นทะเบียนทหารในปีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2481

การวิวาทต่อสู้และการลงโทษทางอาญา: การพิจารณาความผิดตามมาตรา 338(3) และ 256

+ใจวิวาทต่อสู้กันจะลงโทษ
อ้างฎีกาที่ 972/2478
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทาจำเลยตามมาตรา 256 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทำร้ายเจ้าทุกข์ไม่ถึงบาดเจ็บ ซึ่งศาลชั้นต้นลงโทษตาม ม.338(3) ของศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนั้น โจทก์หาข้อเท็จจริงตามความผิด+ ม.256 ได้

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา วิกรม

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิกรม