คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 292

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 148 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทเรื่องการโอนและจำนอง
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาลผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้องผู้ร้องกำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจงดการขายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา292(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกคัดค้านการบังคับคดีและการงดการขายทอดตลาดทรัพย์สิน
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ๆ กำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขาดทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจงดการขายได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา 292 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1718/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามหมายบังคับคดี: ผู้เช่าไม่อาจขอครอบครองที่ดินหลังศาลมีคำสั่งขับไล่
ศาลพิพากษาให้ขับไล่ผู้เช่านาออกจากนาของผู้ให้เช่า และออกคำบังคับแล้วผู้เช่าจะร้องขอครอบครองนานั้นต่อไปจนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยว ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 571 ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องปฏิบัติตามคำบังคับและหมายบังคับของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1718/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามคำบังคับศาล: ผู้เช่าไม่อาจขอครอบครองที่ดินหลังถูกขับไล่ แม้จะอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว
ศาลพิพากษาให้ขับไล่ผู้เช่านาออกจากนาของผู้ให้เช่าและออกคำบังคับแล้ว ผู้เช่าจะร้องขอครอบครองนานั้นต่อไป จนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 571 ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องปฏิบัติตามคำบังคับและหมายบังคับของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าเช่า: การปลดหนี้ต้องทำเป็นหนังสือ และห้ามเถียงฝืนคำพิพากษาในชั้นบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบสถานที่เช่าแก่โจทก์ จำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในสถานที่เช่า จนศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าตามฟ้องโจทก์ และบังคับจำเลยตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะกลับมาเถียงในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับเอาค่าเช่าดังกล่าวแล้วจากจำเลยเพราะมีคนอื่นเช่าไป และจำเลยไม่เคยครอบครองสถานที่เช่า ดังนี้เป็นการเถียงฝืนคำพิพากษาและคำบังคับคดีที่ออกบังคับแก่จำเลยย่อมฟังไม่ได้
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้ว ต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าเช่า: การปลดหนี้ต้องทำเป็นหนังสือ และห้ามเถียงในชั้นบังคับคดีประเด็นที่ยุติแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบสถานที่เช่าแก่โจทก์ จำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในสถานที่เช่า จนศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าตามฟ้องโจทก์และบังคับจำเลยตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะกลับมาเถียงในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับเอาค่าเช่าดังกล่าวแล้วจากจำเลยเพราะมีคนอื่นเช่าไป และจำเลยไม่เคยครอบครองสถานที่เช่าดังนี้เป็นการเถียงฝืนคำพิพากษาและคำบังคับคดีที่ออกบังคับแก่จำเลย ย่อมฟังไม่ได้
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้วต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่กระทบจากคดีเรียกค่าเสียหายที่ศาลยกฟ้อง
ศาลได้พิพากษาให้จำเลยขุดเหมืองให้น้ำไหลสู่นาโจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่ง แต่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์สืบความเสียหายไม่ได้ ดังนี้ ย่อมไม่กระทบกระทั่งสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่แล้วตามคำพิพากษาคดีแรกแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังผลของคดีหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะ และไม่มีประโยชน์ในการบังคับคดีต่อ
ในระหว่างพิจารณาศาลสั่งยกคำร้องในเรื่องข้อตัดฟ้องของจำเลย จำเลยแถลงว่า ยังติดใจคัดค้านและขอสงวนสิทธิเพื่ออุทธรณ์ แล้วจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาล ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำแถลงว่าพอใจคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลแล้ว จึงขอค่าธรรมเนียมคืนดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยพอใจในการสั่งของศาล ไม่ใช่พอใจที่จะไม่อุทธรณ์ เมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว จำเลยย่อมอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนั้นได้ เพราะจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) แล้ว
เมื่อความปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้เยาว์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(12) กรณีก็ต้องตามมาตรา 56 การที่ผู้แทนโดยชอบธรรมจะให้อนุญาตหรือยินยอมแก่ผู้เยาว์ ที่จะดำเนินคดีหรือไม่เป็นอำนาจของผู้แทนโดยชอบธรรม ศาลไม่มีอำนาจบังคับผู้แทนโดยชอบธรรมให้ดำเนินคดีแทนผู้เยาว์
การหมายเรียกตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา57(3) เป็นการหมายเรียกให้เข้ามาเป็นคู่ความ ถ้าผู้แทนโดยชอบธรรมไม่ให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ในการดำเนินคดี หรือไม่เข้าดำเนินคดีแทนผู้เยาว์ตามที่ควรศาลจะตั้งผู้แทนเฉพาะคดีให้ตามมาตรา 56 วรรคท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งก็ไม่ได้ เพราะเป็นบทบัญญัติเฉพาะแต่ในกรณีไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้แทนโดยชอบธรรมทำหน้าที่ไม่ได้ แต่ถ้าในกรณีที่บิดาเป็นผู้ปกครองและไม่ยอมให้คำยินยอมเช่นนี้ ผู้เยาว์อาจขอต่อศาลให้รอคดีไว้หรือศาลสั่งรอไว้เองก็ได้ โดยให้ผู้เยาว์ไปหาญาติสนิท ดำเนินการตามมาตรา 1552 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ถอนอำนาจบิดาในส่วนนี้ฐานใช้อำนาจปกครองโดยมิชอบเสียก่อนได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฟ้องผู้เยาว์ เป็นแต่ว่าถ้าถูกฟ้อง ผู้เยาว์จะดำเนินคดีไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้แทนโดยชอบธรรม เข้าดำเนินคดีแทนเสียทีเดียว ถ้าผู้แทนโดยชอบธรรมไม่ระวังผลประโยชน์ของผู้เยาว์ ก็ไม่ใช่ความผิดของโจทก์ จะบังคับโจทก์ไม่ได้ศาลจึงชอบที่จะคอยระวังผลประโยชน์ของผู้เยาว์ให้ตามสมควร เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้เยาว์ ศาลอาจจะแจ้งไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาและดำเนินการตามมาตรา 1552 นี้ก็ได้ เมื่อมีการถอนอำนาจแล้ว ก็เป็นหน้าที่ที่จะใช้มาตรา 56 วรรคท้ายได้ แต่ศาลจะหมายเรียกผู้แทนโดยชอบธรรม ให้เข้ามาแก้คดีแทนผู้เยาว์นั้นหามีกฎหมายสนับสนุนไม่
การบังคับคดีเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้น การที่ขอให้ศาลอุทธรณ์ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่ให้ทุเลา ก็หมายความว่าไม่ให้ถือเอาการอุทธรณ์เป็นการทุเลาการบังคับ แม้จะมีการอุทธรณ์ ก็ให้ศาลล่างดำเนินการบังคับคดีต่อไปตามอำนาจที่ศาลชั้นต้นมีอยู่ในเรื่องการบังคับคดี ไม่ใช่ว่าถ้าศาลอุทธรณ์ไม่ให้ทุเลาแล้ว ก็เป็นการบังคับศาลชั้นต้นให้บังคับคดีโดยตัดอำนาจที่ศาลชั้นต้นมีอยู่ในเรื่องบังคับคดีเสียเลย
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งบุตรสาวโจทก์อายุ 18 ปีในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาบุตรสาวโจทก์บรรลุนิติภาวะแล้ว ศาลฎีกาชอบที่จะจำหน่ายคดีเสีย แม้กรณีไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 ศาลฎีกาก็ยังจำหน่ายคดีได้
ถ้าหากไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะชี้ขาดแล้วเช่นคดีนี้แต่คดีนี้ศาลล่างดำเนินการพิจารณามาสับสน จะเพียงแต่จำหน่ายคดี โดยให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คงไว้ หาชอบไม่ ทั้งจะให้ศาลล่างพิจารณาใหม่ก็ไม่ได้ เพราะบุตรสาวโจทก์ที่ฟ้องเรียกคืนบรรลุนิติภาวะแล้ว เช่นนี้ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่าง และให้จำหน่ายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการทำสัญญาจะซื้อขาย: สิทธิของผู้ร้องยังไม่สมบูรณ์ การยึดขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง จำเลยผิดสัญญา ผู้ร้องจึงฟ้องขอให้จำเลยขายที่พิพาทหรือใช้ค่าเสียหาย คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ร้องขอให้ศาลยึดที่พิพาทรายนี้ไว้แล้ว และถึงกำหนดวันขายทอดตลาด ผู้ร้องได้ร้องขอให้งดการขายทอดตลาด ดังนี้ ศาลจะสั่งให้งดการขายทอดตลาด หาได้ไม่ เพราะสัญญาระหว่างจำเลยกับผู้ร้องเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทให้แก่กัน กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังหาได้เปลี่ยนมือมาเป็นของผู้ร้องไม่ และผู้ร้องไม่มีบุริมสิทธิ หรือสิทธิเหนือที่ดินพิพาทประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457-458/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีเมื่อมีคดีอื่นเกี่ยวข้อง: ข้อจำกัดการอนุโลมมาตรา 293 ป.วิ.แพ่ง และขอบเขตอำนาจดุลยพินิจศาล
มาตรา 293 ป.ม.วิ.แพ่ง บัญญัติไว้สำหรับงดการบังคับคดีในเรื่องขายทอดตลาด หรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในเมื่อลูกหนี้นั้นอาจกลับชนะคดีเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องอื่น อันจะก่อให้เกิดหนี้มาหักกลบลบกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังมีการบังคับคดีนั้นเท่านั้น.
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า คดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดี โดยอ้างว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งขอให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คดียังอยู่ระหว่างพิจารณานั้น ศาลชั้นต้นอาจเอามาตรา 293 อนุโลมมาใช้ในกรณีเช่นคดีนี้ไม่ฉะนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดการบังคับคดีนี้นั้น จึงต้องถือว่าเป็นคำสั่งตามดุลยพินิจดังบัญญัติไว้ในมาตรา 252(2) ซึ่งคำสั่งโดยทั่วไปเช่นนี้ คู่ความย่อมอุทธรณ์,ฎีกาได้ และในกรณีดังกล่าวข้างต้นยังไม่เป็นเหตุเพียงพอให้ศาลงดการบังคับคดี
of 15