คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 808

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระเบี้ยประกันภัยผ่านตัวแทนเชิด และการรับฟังพยานเกี่ยวกับสาเหตุมรณกรรม
ขณะศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำเด็กชาย ณ. เข้าสืบยังอยู่ระหว่างการนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ และโจทก์ยังไม่ได้แถลงหมดพยานทั้งหมดแม้จำเลยจะนำพยานเข้าสืบบ้างแล้วแต่ก็ไม่มีกฎหมายห้ามโจทก์นำ พยานมาสืบเพิ่มในกรณีนี้ทั้งการที่โจทก์นำเด็กชาย ณ. เข้าสืบเกี่ยวกับสาเหตุมรณกรรมของ ส.ผู้เอาประกันชีวิตไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะพยานที่จำเลยนำเข้าสืบก่อนเด็กชาย ณ. ไม่ได้นำสืบถึงสาเหตุมรณกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด และจำเลยมีโอกาสนำพยานมาสืบต่อเพื่อหักล้างคำพยานของเด็กชาย ณ. จึงรับฟังคำพยานของเด็กชาย ณ. ได้
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 มอบหมายให้จำเลยที่ 3ซึ่งเป็นภรรยาไปเก็บเบี้ยประกันภัย เมื่อโจทก์ชำระเบี้ยประกันภัยให้จำเลยที่ 3 แม้จำเลยที่ 1 จะยังไม่ออกหลักฐานการรับชำระเบี้ยประกันภัยให้ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับชำระเบี้ยประกันภัยแล้วโดยผ่านทางจำเลยที่ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระเบี้ยประกันภัยผ่านตัวแทนเชิด และการรับฟังพยานเกี่ยวกับสาเหตุการตาย
ขณะศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำเด็กชาย ณ. เข้าสืบยังอยู่ระหว่างการนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ และโจทก์ยังไม่ได้แถลงหมดพยานทั้งหมดแม้จำเลยจะนำพยานเข้าสืบบ้างแล้วแต่ก็ไม่มีกฎหมายห้ามโจทก์นำพยานมาสืบเพิ่มในกรณีนี้ทั้งการที่โจทก์นำเด็กชาย ณ. เข้าสืบเกี่ยวกับสาเหตุมรณกรรมของ ส.ผู้เอาประกันชีวิตไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะพยานที่จำเลยนำเข้าสืบก่อนเด็กชาย ณ. ไม่ได้นำสืบถึงสาเหตุมรณกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด และจำเลยมีโอกาสนำพยานมาสืบต่อเพื่อหักล้างคำพยานของเด็กชาย ณ. จึงรับฟังคำพยานของเด็กชาย ณ. ได้
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 มอบหมายให้จำเลยที่ 3ซึ่งเป็นภรรยาไปเก็บเบี้ยประกันภัย เมื่อโจทก์ชำระเบี้ยประกันภัยให้จำเลยที่ 3 แม้จำเลยที่ 1 จะยังไม่ออกหลักฐานการรับชำระเบี้ยประกันภัยให้ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับชำระเบี้ยประกันภัยแล้วโดยผ่านทางจำเลยที่ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2096/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขายของรัฐวิสาหกิจ: การมอบอำนาจและการรักษาการแทน
โรงงานกระสอบป่านไม่เป็นนิติบุคคล อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรมโจทก์ โจทก์ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านมีอำนาจทำนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขาย และตามข้อบังคับว่าด้วยการบริหารโรงงานกระสอบป่านกรมโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2515 ข้อ 17 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการไว้ว่า ให้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการบริหารงานโดยทั่วไปของโรงงาน ทั้งนี้เพื่อให้โรงงานดำเนินกิจการไปตามวัตถุประสงค์ในขณะที่ทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านผู้ได้รับมอบอำนาจจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ทำสัญญาได้ไปราชการต่างประเทศคณะกรรมการอำนวยการโรงงานกระสอบป่าน กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีมติให้ผู้จัดการโรงงานกระสอบป่านเป็นผู้รักษาการแทนและลงนามแทนผู้อำนวยการ ผู้จัดการโรงงานจึงลงนามแทนในสัญญาซื้อขายกับจำเลยได้ ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามสัญญาซื้อขายที่ผู้จัดการโรงงานลงนามไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2096/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทำนิติกรรมของตัวแทนรักษาการตามมติคณะกรรมการในสัญญาซื้อขายรัฐวิสาหกิจ
โรงงานกระสอบป่านไม่เป็นนิติบุคคล อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรมโจทก์ โจทก์ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านมีอำนาจทำนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขาย และตามข้อบังคับว่าด้วยการบริหารโรงงานกระสอบป่าน กรมโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2515 ข้อ 17 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการไว้ว่า ให้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการบริหารงานโดยทั่วไปของโรงงาน ทั้งนี้เพื่อให้โรงงานดำเนินกิจการไปตามวัตถุประสงค์ในขณะที่ทำสัญญาซื้อขายกับจำเลย ผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านผู้ได้รับมอบอำนาจจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ทำสัญญาได้ไปราชการ ต่างประเทศ คณะกรรมการอำนวยการโรงงานกระสอบป่าน กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีมติให้ผู้จัดการโรงงานกระสอบป่านเป็นผู้รักษาการแทนและลงนามแทนผู้อำนวยการ ผู้จัดการโรงงานจึงลงนามแทนในสัญญาซื้อขายกับจำเลยได้ ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามสัญญาซื้อขายที่ผู้จัดการโรงงานลงนามไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจรับเงิน: ตัวแทนช่วงต้องได้รับอนุญาตจากตัวการ
ผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องความและให้รับเงินแทนด้วยนั้น จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินจากศาลแทนไม่ได้ เพราะเป็นการตั้งตัวแทนช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากตัวการ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24,25/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจรับเงิน: ตัวแทนช่วงต้องได้รับอนุญาตจากตัวการ
ผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องความและให้รับเงินแทนด้วยนั้น จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินจากศาลแทนไม่ได้ เพราะเป็นการตั้งตัวแทนช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากตัวการ. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24,25/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจรับเงินแทน: ตัวแทนช่วงต้องได้รับอนุญาตจากตัวการ
ผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องความและให้รับเงินแทนด้วยนั้น จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินจากศาลแทนไม่ได้เพราะเป็นการตั้งตัวแทนช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากตัวการ(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24,25/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116-1117/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจผู้รับมอบอำนาจช่วง: การแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วงเพื่อฟ้องคดีต้องได้รับมอบอำนาจชัดเจน
ทำใบมอบอำนาจให้เขามีอำนาจแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วงให้ฟ้องความได้ ดังนี้ เมื่อผู้รับมอบอำนาจได้แต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วง เพื่อฟ้องคดีแล้วผู้รับมอบอำนาจช่วงให้แก่บุคคลอื่นต่อไปในการฟ้องดคียังโรงศาลอีกต่อหนึ่งนั้นย่อมอยู่นอกเขตในใบมอบอำนาจดังกล่าวแล้ว ผู้รับมอบอำนาจช่วงคนหลังนี้ จึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116-1117/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจมอบอำนาจช่วง: การมอบอำนาจเกินขอบเขตเดิม
ทำใบมอบอำนาจให้เขามีอำนาจแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วงให้ฟ้องความได้ ดังนี้ เมื่อผู้รับมอบอำนาจได้แต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วง เพื่อฟ้องคดีแล้ว ผู้รับมอบอำนาจช่วงจะมอบอำนาจช่วงให้แก่บุคคลอื่นต่อไปในการฟ้องคดียังโรงศาลอีกต่อหนึ่งนั้นย่อมอยู่นอกเขตในใบมอบอำนาจดังกล่าวแล้ว ผู้รับมอบอำนาจช่วงคนหลังนี้ จึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องคดีได้(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจช่วง และข้อยกเว้น พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า กรณีให้เช่าเพื่อทำโรงเรือน
ในหนังสือมอบอำนาจข้อ 5 มีว่าให้นายบานเย็นมีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนผู้รับมอบอำนาจคนอื่นที่ได้แต่งตั้งไว้เพื่อการให้เช่าทรัพย์สินของตัวการ และข้อ 6 มีว่าให้นายบานเย็นมีอำนาจอีกหลายประการ เช่นประนีประนอมยอมความและยื่นฟ้องต่อศาลด้วย ดังนี้ เมื่ออ่านรวมกันทั้งหมดต้องแปลว่าผู้มอบอำนาจประสงค์ให้นายบานเย็นมีอำนาจตั้งตัวแทนช่วงเพื่อฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้
การเช่าที่ดินมาโดยประสงค์จะปลูกสร้างโรงเรือนให้คนอื่นเช่า มิใช่เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า พ.ศ.2489
of 3