พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระบวนการล้มละลาย: การไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การหลังเริ่มพิจารณา และการสันนิษฐานเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว
การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีฟ้องให้ล้มละลายนั้นกฎหมายไม่ได้กำหนดวันยื่นคำให้การเหมือนคดีแพ่งธรรมดา ฉะนั้นจำเลยจะยื่นคำให้การหรือไม่ยื่นก็ได้และหากจำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การก็มีโอกาสยื่นได้ถึง 7 วันเป็นอย่างน้อยก่อนวันนั่งพิจารณาแต่คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยไม่มาศาลในวันนั่งพิจารณาและไม่ยื่นคำให้การทั้งมิได้ร้องขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยานเพิ่งจะมาศาลภายหลังเมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ฉะนั้นที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การจึงชอบแล้ว
จำเลยถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สินอื่นใดที่โจทก์จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้อีกจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 4 ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
จำเลยถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สินอื่นใดที่โจทก์จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้อีกจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 4 ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลายเพื่อเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้รายหนึ่ง ศาลเพิกถอนการโอนได้ตามกฎหมายล้มละลาย
การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายซื้อที่ดินพิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปในวันเดียวกัน และปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นจำนวน 670,000 บาทเศษแต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินได้เพียง 20,000 บาทเศษเท่านั้นการโอนทรัพย์สินดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าจำเลยผู้ล้มละลายได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น ศาลเพิกถอนการโอนที่พิพาทรายนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ล้มละลาย แม้ผู้รับโอนจะสุจริตและได้ค่าตอบแทน
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์ที่ลูกหนี้ได้มาระหว่างเป็นบุคคลล้มละลายจึงเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ ตาม มาตรา109(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่ง มาตรา 23 ให้ลูกหนี้ส่งมอบแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และ มาตรา 24 ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินเว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล การที่ลูกหนี้ได้ที่ดินพิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าวทั้งในคดีนี้มีพฤติการณ์ที่เห็นได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอให้ศาลเพิกถอนการโอนทรัพย์สินรายนี้ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115 โดยไม่ต้องพิจารณาว่าผู้รับโอนได้รับโอนโดยสุจริต และมีค่าตอบแทนหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าที่ชอบด้วยกฎหมายและการเพิกถอนในคดีล้มละลาย พิจารณาความสุจริตและค่าตอบแทน
สิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สินซึ่งมีราคาและถือเอาได้
ผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมกับผู้เช่าใหม่ตกลงยินยอมกันให้มีผู้เช่าคนใหม่ต่อจากสัญญาเช่าตึกแถวเดิม ผู้เช่าเดิมเลิกสัญญา ดังนี้ เป็นการโอนสิทธิการเช่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินที่ลูกหนี้ ทำระหว่าง 3 ปี ก่อนขอให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ผู้รับโอนมีหน้าที่นำสืบว่าได้ทำโดยสุจริต มีค่าตอบแทน ไม่เหมือนการเพิกถอนการโอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 ซึ่งผู้ขอต้องนำสืบว่าโอนโดยไม่สุจริต
คดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนเป็นคดีคำขอปลดเปลื้องทุกข์คำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้
ผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมกับผู้เช่าใหม่ตกลงยินยอมกันให้มีผู้เช่าคนใหม่ต่อจากสัญญาเช่าตึกแถวเดิม ผู้เช่าเดิมเลิกสัญญา ดังนี้ เป็นการโอนสิทธิการเช่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินที่ลูกหนี้ ทำระหว่าง 3 ปี ก่อนขอให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ผู้รับโอนมีหน้าที่นำสืบว่าได้ทำโดยสุจริต มีค่าตอบแทน ไม่เหมือนการเพิกถอนการโอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 ซึ่งผู้ขอต้องนำสืบว่าโอนโดยไม่สุจริต
คดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนเป็นคดีคำขอปลดเปลื้องทุกข์คำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวแทนธนาคารต่อหนี้ของผู้กู้ และการเลิกสัญญากับตัวแทนที่ฝ่าฝืนสัญญา
ตัวแทนธนาคารยอมรับผิดต่อธนาคาร ในกรณีที่ผู้กู้และผู้ค้ำประกันหนี้ของธนาคารไม่ใช้หนี้แก่ธนาคาร โดยธนาคารไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ ก่อนตัวแทนล้มละลาย ธนาคารขอรับชำระหนี้ได้ทันทีไม่ต้องรอจนธนาคารฟ้องลูกค้าซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารก่อน เพราะจะพ้นเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแต่ถ้าธนาคารได้รับชำระหนี้จากลูกค้าเท่าใด ตัวแทนก็พ้นความรับผิดเพียงนั้นธนาคารจะได้รับชำระหนี้ไม่เกินจำนวนหนี้ที่มีอยู่จริง
สัญญาตั้งตัวแทนธนาคารห้ามมิให้ตัวแทนกู้ยืมเงินจากธนาคารตัวแทนฝ่าฝืนข้อสัญญาและกู้เงินจากธนาคาร ธนาคารเลิกสัญญาได้ แต่ไม่ทำให้ตัวแทนไม่ต้องรับผิดในหนี้ที่กู้เงินจากธนาคาร
สัญญาตั้งตัวแทนธนาคารห้ามมิให้ตัวแทนกู้ยืมเงินจากธนาคารตัวแทนฝ่าฝืนข้อสัญญาและกู้เงินจากธนาคาร ธนาคารเลิกสัญญาได้ แต่ไม่ทำให้ตัวแทนไม่ต้องรับผิดในหนี้ที่กู้เงินจากธนาคาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความบังคับจำนอง & การลบสิทธิเช่าในคดีล้มละลาย: ศาลสั่งให้ลบสิทธิเช่าเพื่อขายทอดตลาดได้
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ขายทอดตลาดที่ดินที่จำเลยจำนองโดยติดสิทธิที่จำเลยที่ 2 เช่าจำเลยที่ 1 ก่อน ถ้าได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองก็ให้ขายใหม่โดยปลอดสิทธิการเช่า ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินราคาที่เสนอไม่พอใช้หนี้จำนอง จึงงดขาย คดีล้มละลายนี้โจทก์เองเป็นผู้ฟ้องจำเลย และโจทก์ขอรับชำระหนี้จำนองนำยึดที่ดินนี้ในคดีล้มละลายโดยศาลจำหน่ายคดีที่โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ดังนี้ การขอรับชำระหนี้จำนองในคดีล้มละลายจึงเท่ากับบังคับจำนองนั้นเอง ตรงกับข้อตกลงของโจทก์และจำเลยทั้งสอง จึงต้องขายทอดตลาดใหม่ตามยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องหนี้ร่วมกันระหว่างจำเลยและบุตรชาย แม้ได้รับชำระหนี้บางส่วนจากกองทรัพย์สินล้มละลาย ก็ยังฟ้องเรียกหนี้ส่วนที่เหลือได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อโจทก์ ม. บุตรชายจำเลยได้ออกเช็คชำระหนี้ดังกล่าวบางส่วนแทนจำเลยให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ฟ้อง ม. เป็นจำเลยในคดีล้มละลายในมูลหนี้ตามเช็คและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขอให้ชำระค่าซื้อของเชื่อนั้นทั้งหมดพร้อมทั้งดอกเบี้ย ปรากฏว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายมาแล้วบางส่วนหลังจากที่ยื่นฟ้องคดีนี้แล้วดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวมาแล้วก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกหนี้มูลหนี้เดียวกัน แม้ได้รับชำระหนี้บางส่วนจากลูกหนี้ร่วมแล้ว ก็ยังคงมีสิทธิเรียกร้องส่วนที่เหลือจากจำเลยได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อโจทก์ ม.บุตรชายจำเลยได้ออกเช็คชำรหนี้ดังกล่าวบางส่วนจำเลยให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ฟ้อง ม.เป็นจำเลยในคดีล้มละลายในมูลหนี้ตามเช็คและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ชำระค่าซื้อของเชื่อนั้นทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย ปรากฏว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายมาแล้วบางส่วนหลังจากที่ยื่นฟ้องคดีนี้แล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวมาแล้วก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับขำระหนี้จากจำเลยซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้ที่กระทำมาแล้วรวมทั้งดำเนินการในเรื่องคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ต่อไปได้ หามีกฎหมายบัญญัติให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ดำเนินการมาโดยชอบแล้วไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการแบ่งเงินบำนาญที่เป็นสินสมรสในคดีล้มละลาย: เจ้าของร่วมมีสิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งได้ แม้มี พ.ร.บ.ล้มละลาย
ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาและเป็นเจ้าของร่วมในเงินบำนาญอันเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลย มีสิทธิร้องขอแบ่งแยกส่วนของตนออกได้ พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 121 ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิรับเงินบำนาญของลูกหนี้จากเจ้าหน้าที่ เพื่อรวบรวมแบ่งให้แก่เจ้าหนี้ แต่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูป มิใช่ห้ามคู่สมรสของลูกหนี้ร้องขอกันส่วนเงินบำนาญอันเป็นสินสมรส ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1466 ซึ่งใช้อยู่ในเวลานั้น